หมวดหมู่: มติ ครม.

Gov แพทองธาร8

สรุปผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 57 และการประชุมระดับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง

          คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 57 (การประชุมฯ) และการประชุมระดับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และมอบหมายส่วนราชการที่เกี่ยวข้องติดตามผลการประชุมฯ และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ 

          สาระสำคัญของเรื่อง 

          1. กต. รายงานว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าร่วมการประชุมฯ เช่น การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับคู่เจรจา 11 ประเทศ/องค์กรการประชุมคณะกรรมาธิการสำหรับเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนบวกสาม การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก และการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก รวม 17 รายการ วันที่ 24 - 27 กรกฎาคม 2567 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยชนลาว (สปป.ลาว) ซึ่งมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้

 

หัวข้อ

 

รายละเอียด

ภาพรวม

 

1) ประเทศสมาชิกอาเซียนได้ร่วมกันผลักดันความร่วมมือในประเด็นที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกันของภูมิภาค ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของไทย ภายใต้หัวข้อหลักของการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของ สปป.ลาว ในปี 2567 “อาเซียน: เพิ่มทวีความเชื่อมโยงและความเข้มแข็งเช่น การเสริมสร้างประชาคมอาเซียนในทุกมิติ การส่งเสริมการบูรณาการทางเศรษฐกิจให้แน่นแฟ้นมากขึ้น การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การธำรงรักษาสันติภาพ เสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาค การส่งเสริมสิทธิมนุษยชน รวมถึงการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน โดยได้มีการรับรองเอกสารผลลัพธ์รวมทั้งสิ้น 8 ฉบับ เช่น ร่างแถลงการณ์ร่วมของการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 57 ร่างแถลงการณ์ร่วมของการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน - สหราชอาณาจักร: การเสริมสร้างความเชื่อมโยงเพื่ออนาคตที่เจริญรุ่งเรืองและยั่งยืน ร่างแถลงการณ์ร่วมของการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนจีนว่าด้วยการเสริมสร้างความร่วมมือปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อ มนุษยธรรมซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบต่อร่างเอกสารดังกล่าวแล้ว

2) ประเทศคู่เจรจาและภาคีภายนอกได้เน้นย้ำความสำคัญของระบบพหุภาคีที่ตั้งบนพื้นฐานของกฎกติกาของภูมิภาค แสดงความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความร่วมมือกับอาเซียนอย่างต่อเนื่อง และยืนยันการสนับสนุนความเป็นแกนกลางของอาเซียน

ประเด็นที่ไทยผลักดัน

 

1) การส่งเสริมการหารือที่ครอบคลุมเพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างประเทศต่างๆ 

ในภูมิภาค และการดำเนินความร่วมมือตามเอกสารมุมมองของอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก ซึ่งไทยได้ยืนยันความพร้อมในฐานะผู้ประสานงานอาเซียนด้านความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกับ สปป.ลาว

2) การเพิ่มความเชื่อมโยงทั้งทางดิจิทัลผ่านการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อสนับสนุนให้อาเซียนขึ้นเป็นเศรษฐกิจอันดับที่ 4 ของโลกภายในปี 2573 รวมทั้งการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินและขยายเวลาพำนักโดยไม่ต้องขอรับการตรวจลงตราในประเทศอาเซียน เพื่อให้การเดินทางระหว่างกันในอาเซียนคล่องตัว และส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวได้มากยิ่งขึ้นต่อไป

3) การส่งเสริมวาระความยั่งยืนและการเปลี่ยนผ่านสีเขียว โดยเน้นเรื่องความเป็นกลางทางคาร์บอน พลังงานสะอาด ความมั่นคงทางพลังงาน และความมั่นคงทางอาหาร

4) การส่งเสริมความร่วมมือเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ เช่น ยาเสพติด อาชญากรรมทางไซเบอร์ การหลอกลวงทางออนไลน์ และการค้ามนุษย์

5) การผลักดันความร่วมมือกับประเทศคู่เจรจาในสาขาที่แต่ละประเทศคู่เจรจามีความเชี่ยวชาญ เช่น (1) การพัฒนายานยนต์ไฟฟ้ากับสาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา (2) ความร่วมมือด้านซอฟต์พาวเวอร์กับสาธารณรัฐเกาหลี (3) การแบ่งปันองค์ความรู้และเทคโนโลยีการเกษตรกับนิวซีแลนด์ และ (4) การส่งเสริมวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมกับสหพันธรัฐรัสเซีย

สถานการณ์ในภูมิภาคและระหว่างประเทศ

 

1) สถานการณ์ในเมียนมา: ประเทศสมาชิกอาเซียนและคู่เจรจาเน้นย้ำความสำคัญของการดำเนินการตามฉันทามติ 5 ข้อ* เพื่อนำไปสู่การเจรจาสันติภาพในเมียนมาต่อไป ในโอกาสนี้ ไทยได้ประกาศการมอบเงินอุดหนุน 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่ ศูนย์ประสานงานอาเซียนเพื่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในการจัดการภัยพิบัติเพื่อต่อยอดข้อริเริ่มด้านมนุษยธรรมของไทย

2) สถานการณ์ในตะวันออกกลาง: ที่ประชุมฯ แสดงความห่วงกังวลอย่างยิ่งต่อวิกฤติด้านมนุษยธรรมในกาซา โดยหลายประเทศรวมถึงไทยได้เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวประกันทุกคน ซึ่งรวมถึงคนไทย 6 คน โดยทันทีและอย่างไม่มีเงื่อนไข

 

          ในการนี้ กต. จึงขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องติดตามและดำเนินการตามผลการประชุมฯ ในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น (1) กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการเจรจาจัดทำกรอบความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียนให้แล้วเสร็จภายในปี 2568 ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ (2) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการเร่งรัดการเจรจาจัดทำแผนยุทธศาสตร์ประกอบร่างวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ. 2045 ให้แล้วเสร็จเพื่อเสนอให้ผู้นำรับรองในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 46 

          2. ประโยชน์ที่ไทยได้รับ: การประชุมฯ และการประชุมระดับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเป็นโอกาสสำหรับไทยในการส่งเสริมความร่วมมือและต่อยอดการดำเนินการในด้านต่างๆ ทั้งกับประเทศสมาชิกอาเซียน คู่เจรจา และภาคีภายนอกของอาเซียน รวมทั้ง ยังเป็นเวทีสำหรับการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในประเด็นสถานการณ์ในภูมิภาคและระหว่างประเทศที่อยู่ในความสนใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือในประเด็น ต่างๆ เช่น การเสริมสร้างความเชื่อมโยง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน การเปลี่ยนผ่านสีเขียว การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและยาเสพติด ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล โดยไม่ก่อให้เกิดพันธกรณีทางกฎหมายเพิ่มเติมต่อประเทศไทยแต่อย่างใด

_______________________________

หมายเหตุ: *ฉันทามติ 5 ข้อ ได้แก่ 1) จะต้องยุติความรุนแรงในเมียนมาโดยทันที 2) การเจรจาที่สร้างสรรค์ระหว่างทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะเริ่มต้นขึ้น เพื่อหาทางออกอย่างสันติ 3) ทูตพิเศษของประธานอาเซียนจะอำนวยความสะดวกเป็นสื่อกลางของกระบวนการเจรจา 4) อาเซียนจะให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผ่านทางศูนย์ประสานงานอาเซียน เพื่อความช่วยเหลือด้านมนุษย์ธรรมด้านการจัดการภัยพิบัติ และ 5) ทูตและคณะผู้แทนพิเศษจะเดินทางไปเยือนเมียนมาเพื่อพบปะกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง 

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) 22 ตุลาคม 2567

 

 

10615

Click Donate Support Web 

Banner GPF720x100 PX


TOA 720x100

EXIM One 720x90 C JMTL 720x100

SME720x100 2024

CKPower 720x100

QIC 720x100

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

kbank 720x100 66

ธกส 720x100PTG 720x100

ใจฟู720x100px

AXA 720 x100

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!