“KCC” งวด 9 เดือนกระแสเงินรับรวมพุ่ง119%มาอยู่ที่424ล้านบาท สะท้อนถึงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานและรักษาสภาพคล่องที่ดี
“KCC” งวด9 เดือน กระแสเงินรับรวมพุ่ง119%มาอยู่ที่424ล้านบาท สะท้อนถึงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานและรักษาสภาพคล่องที่ดี!!! เดินหน้าเติบโตต่อเนื่อง งวด 9 เดือนแรกปี 67 โชว์กำไร 56 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวม 197 ล้านบาท ลุยลงทุนซื้อหนี้ NPL เข้าพอร์ตเพิ่ม 463 ล้านบาท ดันพอร์ตมีมูลค่ากว่า 1,998 ล้านบาท นายทวี กุลเลิศประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไนท คลับ แคปปิตอล โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)
หรือ KCC ผู้ดำเนินธุรกิจจัดหาและบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและธุรกิจบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขายและการปรับปรุงทรัพย์สินรอการขายเพื่อจำหน่าย เปิดเผยว่า บริษัทมีความสามารถ ในการสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานและรักษาสภาพคล่องที่ดีเห็นได้จาก เงินรับรวมที่เพิ่มเข้ามาต่อเนื่อง โดยงวด9เดือน แรกของปี 2567 มีเงินรับรวม 424 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 119%เมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 193ล้านบาท ส่วนงวดไตรมาส3 อยู่ที่ 202 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 117 % เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 93 ล้านบาท
และเพิ่มขึ้น 74% จากไตรมาสก่อนหน้าที่ 116 ล้านบาท ซึ่ง เงินรับรวมที่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่มาจาก NPL คิดเป็นสัดส่วน 94% ของเงินรับทั้งหมด และเป็นเงินรับชำระหนี้จากลูกหนี้ปรับโครงสร้างหนี้ ของลูกหนี้ธุรกิจ รวมทั้งจากการรับเงินจากการขายหลักประกันในกรมบังคับคดีร สำหรับผลดำเนินงานในงวด 9 เดือนปี 2567 บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานรวม 197ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ยรับที่เพิ่มขึ้น ส่วนงวดไตมาส 3 มีรายได้ 66 ล้านบาทลดลง 6% เมื่อเทียบํงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 70 ล้านบาท “ รายได้ของ KCC
เติบโตจากการ ขยายพอร์ตลูกหนี้ NPLs โดย 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทฯลงทุนในพอร์ตใหม่แล้วทั้งสิ้น 463 ล้านบาท ทำให้ ณ กันยายน 2567 พอร์ตลูกหนี้ของบริษัทฯ มีมูลค่ากว่า 1,998 ล้านบาท “ นายทวี กล่าวอย่างไรก็ตามในส่วนของกำไรสุทธิ งวด 9เดือน มีกำไรสุทธิ 56 ล้านบาท ลดลง 21%เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 71 ล้านบาท และ ไตรมาส 3 มีกำไรสุทธิรวม 17 ล้านบาท ลดลง 20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 21 ล้านบาท เป็นผลจาก ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นเพราะบริษัทได้ออกหุ้นกู้เพื่อนำเงินมาลงทุนซื้อหนี้ NPL โดยงวด 9เ ดือนออกหุ้นกู้ 431ล้านบาท
อย่างไรก็ตามหากดูจากเงินรับบริษัทสามารถจัดการบริหารลูกหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพทำให้เงินรับเพิ่มกว่า 117% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมเท่ากับ 2,713 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2566 จำนวน 402 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 17% โดยมีสาเหตุหลักมาจาก เงินสดและรายการเทียบเท่า เพิ่มขึ้น 186 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตของสภาพคล่องที่ดี การเพิ่มขึ้นนี้มาจากการไหลเข้าของเงินสดจากการดำเนินงาน สำหรับทิศทางในอนาคตบริษัทมุ่งมั่นที่จะรักษาการเติบโตของรายได้โดยเฉพาะจากรายได้ดอกเบี้ย และเร่งการบริหารจัดการลูกหนี้ และทรัพย์สินรอการขายเพื่อเพิ่ม
ประสิทธิภาพการทำกำไรให้มากขึ้น อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายทางการเงินที่เพิ่มขึ้นยังคงเป็นประเด็นที่สำคัญ และบริษัทมุ่งเน้นในการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยผ่านการจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพเพื่อช่วยให้บริษัทมีการเติบโตอย่างยั่งยืน สามารถสร้างมูลค่าในระยะยาวได้ และรักษาผลกำไรให้เติบโตได้แม้ในช่วงสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนได้