บทสรุป

          ในปี 2565 ทริสเรทติ้ง มีการจัดและประกาศผลอันดับเครดิตให้แก่ผู้ออกตราสารหนี้รวมทั้งสิ้นจำนวน 245 ราย ซึ่งผู้ออกตราสารหนี้ดังกล่าวประกอบด้วยบริษัททั่วไป (Non-financial Institution – Non-FI) จำนวน 187 ราย สถาบันการเงิน (Financial Institution -- FI) จำนวน 53 ราย ผู้ออกตราสารหนี้ที่มีโครงสร้างซับซ้อน (Structured Finance Issuer) 1 ราย และอีก 4 รายเป็นผู้ออกตราสารหนี้ที่เป็นหน่วยงานภาครัฐ

สำหรับ การศึกษาสถิติการผิดนัดชำระหนี้นี้ ทริสเรทติ้งจะไม่รวมผู้ออกตราสารหนี้ที่มีโครงสร้างซับซ้อนและผู้ออกตราสารหนี้ที่เป็นหน่วยงานภาครัฐ ตลอดจนผู้ออกตราสารหนี้ซึ่งเป็นบริษัททั่วไปจำนวน 7 รายและสถาบันการเงินอีกจำนวน 3 รายที่ออกเฉพาะตราสารหนี้ที่มีการค้ำประกันเต็มจำนวนเท่านั้น ดังนั้น การศึกษานี้จึงใช้ข้อมูลของผู้ออกตราสารหนี้ที่เป็นบริษัททั่วไปจำนวนทั้งสิ้น 230 ราย ซึ่งจำแนกออกเป็นบริษัททั่วไปจำนวน 180 รายและสถาบันการเงินจำนวน 50 ราย

ในปี 2565 ผู้ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตจากทริสเรทติ้งไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดผิดนัดชำระหนี้เลย จึงทำให้จำนวนผู้ออกตราสารที่ผิดนัดชำระหนี้สะสมตั้งแต่ปี 2537 คงอยู่ที่ 24 ราย (เป็นผู้ออก

ตราสารที่มีการผิดนัดชำระหนี้ในระหว่างที่ยังมีการจัดอันดับเครดิตอยู่จำนวน 19 รายและอีก 5 รายมีการผิดนัดชำระหนี้ภายหลังจากการขอยกเลิกอันดับเครดิตไปแล้ว) ในบรรดาผู้ออกตราสารหนี้จำนวน 230 รายในปี 2565 นั้นเป็นผู้ออกตราสารใหม่จำนวน 22 รายและเป็นผู้ที่ขอยกเลิกอันดับเครดิตจำนวน 6 ราย ทั้งนี้ สัดส่วนของผู้ออกตราสารที่มีการประกาศอันดับเครดิตต่อสาธารณะในปี 2565 (ไม่นับรวมผู้ออกตราสารใหม่ 22 รายและผู้ออกตราสารที่ขอยกเลิกอันดับเครดิต 6 ราย) ที่มีอันดับเครดิตคงเดิมนั้นอยู่ที่ระดับ 85.15%

ในช่วงปีที่ผ่านมา ทริสเรทติ้งมีการปรับเพิ่มอันดับเครดิตให้แก่ผู้ออกตราสารจำนวน 17 รายและปรับลดอันดับเครดิตให้แก่ผู้ออกตราสารจำนวน 13 ราย ทำให้สัดส่วนของผู้ออกตราสารที่ได้รับการปรับลดอันดับเครดิตเมื่อเทียบกับผู้ออกตราสารที่ได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตอยู่ที่ 0.76 เท่า ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ลดลงจาก 1.69 เท่าในปี 2564 ในขณะที่ผู้ออกตราสารที่มีการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มอันดับเครดิต (Rating Outlook) มีจำนวน 26 ราย โดยจำแนกออกเป็นผู้ที่ได้รับการปรับเพิ่มแนวโน้มอันดับเครดิต (Upward) จำนวน 14 รายและผู้ที่ได้รับการปรับลด (Downward) แนวโน้มอันดับเครดิตจำนวน 12 ราย

นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังมีการประกาศเครดิตพินิจ (CreditAlert) ให้แก่ผู้ออกตราสารหนี้จำนวน 6 ราย โดยเป็นเครดิตพินิจแนวโน้ม “ลบ” (Negative) จำนวน 4 รายและแนวโน้ม “บวก” (Positive) จำนวน 2 รายด้วย ในการนี้ ผู้ออกตราสารที่ได้รับเครดิตพินิจแนวโน้ม “ลบ” (Negative) จำนวน 2 รายได้รับการพิจารณาเปลี่ยนแปลงแนวโน้มในระหว่างปี โดยรายหนึ่งเปลี่ยนเป็นแนวโน้ม “ลบ” (Negative)

และอีกรายเปลี่ยนเป็น “คงที่” (Stable) ในขณะที่ ณ สิ้นปี 2565 มีผู้ออกตราสารที่ได้รับการประกาศเครดิตพินิจ (CreditAlert) จำนวน 4 รายที่ยังไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม โดยเป็นผู้ที่มีเครดิตพินิจแนวโน้ม “ลบ” (Negative) จำนวน 2 ราย และ “บวก” (Positive) จำนวน 2 ราย

อัตราการผิดนัดชำระหนี้สะสม 1 ปี 2 ปี และ 3 ปีในช่วงระหว่างปี 2537-2565 ปรับลดลงเล็กน้อย โดยมาอยู่ที่ระดับ 0.832% 1.785% และ 2.592% จากระดับ 0.912% 1.963% และ 2.862% ในช่วงระหว่างปี 2537-2564 ตามลำดับ

27 มกราคม 2566

ติดต่อ:

สิทธการย์ ตงพิพัฒน์, CFA, FRM

This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

ธิติ การุณยานนท์, Ph.D., CFA

This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

สุชาดา พันธุ, Ph.D.

This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

* รายงานนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของรายงานฉบับภาษาอังกฤษ

More Articles

Click Donate Support Web