: ข่าวด่วน ทันเหตุการณ์ เศรษฐกิจ การลงทุน หุ้น อสังหาริมทรัพย์ ไอที-เทคโนฯ รถยนต์ ท่องเที่ยว ต่างประเทศ รวดเร็วสดใหม่ทุกวัน 
พาณิชย์ แจ้งข่าวดี อินเดีย ยุติใช้ CVD สินค้า Epichlorohydrin แต่ยังต้องลุ้นโดน AD หรือไม่
กรมการค้าต่างประเทศแจ้งข่าวดี กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมอินเดีย ประกาศยุติการไต่สวนการอุดหนุน (CVD) สินค้า Epichlorohydrin (ECH) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นทำสี สารเคลือบผิว ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ กาว เลนส์แว่นตา ที่ส่งออกจากไทยแล้ว ส่งผลไม่ถูกเรียกเก็บอากร CVD หลังผนึกกำลัง 7 หน่วยงานรัฐต่อสู้เต็มกำลัง แต่ยังต้องลุ้นจะถูกเรียกเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด (AD) หรือไม่ เหตุไต่สวนเสร็จ ยันยังสู้ต่อ ยื่นโต้แย้งถึงรัฐบาลกลางอินเดียแล้ว
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันที่ 12 ก.ย.2567 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมอินเดีย ได้ประกาศยุติการไต่สวนการอุดหนุน (Countervailing Duty : CVD) สินค้า Epichlorohydrin (ECH) ซึ่ง ECH เป็นสารตั้งต้นในการผลิต Epoxy Resin ที่เป็นพลาสติกเหลวชนิดหนึ่ง จะถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมปลายน้ำ เช่น สีและสารเคลือบผิว ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ กาว หรือแม้กระทั่งในเลนส์แว่นตา ที่ส่งออกจากไทยแล้ว ส่งผลให้ผู้ประกอบการไทยยังสามารถส่งสินค้า ECH ไปยังอินเดียได้โดยไม่ถูกเรียกเก็บอากร CVD และส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าดังกล่าวของไทยไปยังอินเดีย
ทั้งนี้ อินเดียเปิดไต่สวน CVD สินค้า ECH ที่ส่งออกจากไทยตั้งแต่เดือน ก.ย.2566 โดยกรมได้เข้าร่วมกระบวนการไต่สวนในนามของรัฐบาลไทย และประสานงานรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง 7 หน่วยงาน ได้แก่ กรมสรรพากร กรมศุลกากร การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และร่วมกันแก้ต่างโครงการที่รัฐบาลไทยถูกกล่าวหาว่าให้การอุดหนุน 19 โครงการ เช่น การยกเว้นอากรขาเข้าจากการนำเข้าเครื่องจักร การยกเว้นภาษีเงินได้ การให้สินเชื่อระยะสั้น การจัดหาไฟฟ้า และการให้เช่าที่ดิน เป็นต้น
โดยพิสูจน์ข้อเท็จจริงพร้อมยืนยันว่ารัฐบาลไทยไม่ได้ให้การอุดหนุนตามที่อินเดียกล่าวหา และไม่สามารถเก็บอากร CVD เพิ่มเติมกับสินค้า ECH ที่ส่งออกจากไทยได้ ซึ่งต่อมา เมื่อวันที่ 12 ก.ย.2567 รัฐบาลอินเดีย ได้ประกาศยุติการไต่สวน CVD สินค้า ECH ที่ส่งออกจากไทยอย่างเป็นทางการ เป็นผลให้ผู้ส่งออกไทยไม่ถูกเก็บอากร CVD กับสินค้า ECH ที่ส่งไปขายตลาดอินเดีย
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอินเดียได้ไต่สวนการทุ่มตลาด (Anti–Dumping : AD) กับสินค้า ECH จากไทยด้วย ซึ่งไต่สวน AD เสร็จสิ้นแล้วในเดือน ส.ค.2567 และปัจจุบันรัฐบาลกลางอินเดียอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเรียกเก็บอากร AD หรือไม่ ซึ่งหากมีการตัดสินให้เรียกเก็บอากร AD ผู้ส่งออกไทยจะถูกเก็บในอัตรา 298-327 เหรียญสหรัฐต่อตัน
โดยกรมอยู่ระหว่างการเร่งช่วยเหลือผู้ส่งออกไทยในการทำข้อโต้แย้งต่อผลการไต่สวน AD ดังกล่าว ไปถึงรัฐบาลกลางอินเดีย เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้ส่งออกไทย และไม่ใช้มาตรการ AD กับสินค้า ECH จากไทย โดยในปี 2566 ไทยส่งออกสินค้า ECH ไปอินเดียปริมาณ 5.6 หมื่นตัน คิดเป็นมูลค่า 2.3 พันล้านบาท
“กรมจะติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด และพร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ส่งออกไทย ที่ถูกรัฐบาลต่างประเทศไต่สวนมาตรการเยียวยาทางการค้าจากทุกประเทศ และขอแนะนำให้ผู้ส่งออกไทยระมัดระวังราคาส่งออกของตนเองไม่ให้เป็นการทุ่มตลาด เพื่อป้องกันการถูกประเทศผู้นำเข้าใช้มาตรการ AD”นายรณรงค์กล่าว
พาณิชย์สู้เต็มกำลัง-อินเดียยุติการไต่สวน CVD สินค้า Epichlorohydrin ส่งออกจากไทย
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมอินเดียได้ประกาศยุติการไต่สวนการอุดหนุน (Countervailing Duty: CVD) สินค้า Epichlorohydrin (ECH) ที่ส่งออกจากไทย ส่งผลให้ผู้ประกอบการไทยยังสามารถส่งสินค้า ECH ไปยังอินเดียได้โดยไม่ถูกเรียกเก็บอากร CVD
อินเดียเปิดไต่สวน CVD สินค้า ECH ที่ส่งออกจากไทยตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 ซึ่งกรมการค้าต่างประเทศได้เข้าร่วมกระบวนการไต่สวนในนามของรัฐบาลไทย และประสานงานรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง 7 หน่วยงาน ได้แก่ กรมสรรพากร กรมศุลกากร การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
และร่วมกันแก้ต่างโครงการที่รัฐบาลไทยถูกกล่าวหาว่าให้การอุดหนุน 19 โครงการ เช่น การยกเว้นอากรขาเข้าจากการนำเข้าเครื่องจักร การยกเว้นภาษีเงินได้ การให้สินเชื่อระยะสั้น การจัดหาไฟฟ้า และการให้เช่าที่ดิน เป็นต้น
โดยพิสูจน์ข้อเท็จจริงพร้อมยืนยันว่ารัฐบาลไทยไม่ได้ให้การอุดหนุนตามที่อินเดียกล่าวหา และไม่สามารถเก็บอากร CVD เพิ่มเติมกับสินค้า ECH ที่ส่งออกจากไทยได้ ซึ่งต่อมา เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 รัฐบาลอินเดีย ได้ประกาศยุติการไต่สวน CVD สินค้า ECH ที่ส่งออกจากไทยอย่างเป็นทางการ เป็นผลให้ผู้ส่งออกไทยไม่ถูกเก็บอากร CVD กับสินค้า ECH ที่ส่งไปขายตลาดอินเดีย
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอินเดียไต่สวนการทุ่มตลาด (Anti – Dumping: AD) กับสินค้า ECH จากไทยด้วยเช่นกัน ซึ่งไต่สวน AD เสร็จสิ้นแล้วในเดือนสิงหาคม 2567 และปัจจุบันรัฐบาลกลางอินเดียอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเรียกเก็บอากร AD หรือไม่ ซึ่งหากมีการตัดสินให้เรียกเก็บอากร AD ผู้ส่งออกไทยจะถูกเก็บในอัตรา 298 – 327 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน
ทั้งนี้ กรมฯ อยู่ระหว่างการเร่งช่วยเหลือผู้ส่งออกไทยในการทำข้อโต้แย้งต่อผลการไต่สวน AD ดังกล่าว ไปถึงรัฐบาลกลางอินเดียเพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้ส่งออกไทย และไม่ใช้มาตรการ AD กับสินค้า ECH จากไทย สำหรับสินค้า ECH เป็นสารตั้งต้นในการผลิต Epoxy Resin ซึ่งเป็นพลาสติกเหลวชนิดหนึ่ง ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมปลายน้ำ เช่น สีและสารเคลือบผิว ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ กาว หรือแม้กระทั่งในเลนส์แว่นตา
โดยในปี 2566 ไทยส่งออกสินค้า ECH ไปอินเดียปริมาณ 5.6 หมื่นตัน คิดเป็นมูลค่า 2.3 พันล้านบาท ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศ มีการติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด และพร้อมให้ความช่วยเหลือ ผู้ส่งออกไทยที่ถูกรัฐบาลต่างประเทศไต่สวนมาตรการเยียวยาทางการค้าจากทุกประเทศ และขอแนะนำให้ผู้ส่งออกไทยระมัดระวังราคาส่งออกของตนเองไม่ให้เป็นการทุ่มตลาดเพื่อป้องกันการถูกประเทศผู้นำเข้าใช้มาตรการ AD ได้
