การจัดทำความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางราชการ/พิเศษระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งรัฐกาตาร์
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ ดังนี้
1. การจัดทำร่างความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางราชการ/พิเศษระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งรัฐกาตาร์ (กาตาร์) (Agreement on Exemption of Visa Requirements for Holders of Diplomatic and Official/Special Passports between the Government of the Kingdom of Thailand and the Government of the State of Qatar) (ความตกลงฯ)
2. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามร่างความตกลงฯ ทั้งนี้ ในกรณีมอบหมายผู้แทน ให้ กต. จัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้ผู้ลงนามดังกล่าว
3. ให้ กต. ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการมีผลใช้บังคับของร่างความตกลงฯ
4. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างความตกลงฯ โดยไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหรือให้ความเห็นชอบไว้ ให้ กต. สามารถดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมชี้แจงเหตุผล และประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
ทั้งนี้ จะมีการลงนามความตกลงฯ ในห้วงการประชุมระดับผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย (Asia Cooperation Dialogue (ACD) Summit) ครั้งที่ 3 ณ กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 2 - 3 ตุลาคม 2567
สาระสำคัญ
ร่างความตกลงฯ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูต หนังสือเดินทางราชการและหนังสือเดินทางพิเศษระหว่างประเทศไทยและกาตาร์ในการเดินทางเข้า เดินทางผ่าน พำนักใน และเดินทางออกจากดินแดนของอีกฝ่ายหนึ่งเป็นระยะเวลาสูงสุด 90 วัน นับตั้งแต่วันที่เดินทางเข้า โดยมีเงื่อนไขว่าบุคคลเหล่านั้นจะไม่ทำงานใด ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินกิจการของตนเองหรือกิจกรรมส่วนตัวอื่นในดินแดนของอีกฝ่าย
กต. แจ้งว่า ปัจจุบันผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการของประเทศไทยที่ประสงค์จะเดินทางไปกาตาร์ต้องขอรับการตรวจลงตราซึ่งมีขั้นตอนและใช้เวลานาน ดังนั้นการจัดทำความตกลงฯ จึงเป็นประโยชน์ในการช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางติดต่อระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและช่วยกระตุ้นให้เกิดปฏิสัมพันธ์ รวมทั้งความร่วมมือระหว่างภาครัฐของทั้ง 2 ประเทศเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ร่างความตกลงฯ เป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศ และเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งจะต้องขอความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีก่อนการลงนามและดำเนินการให้มีผลผูกพัน แต่ไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 178 วรรคสองของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่จะต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) 1 ตุลาคม 2567
1084