พาณิชย์ เข้าพบ 'บิ๊กต่าย' ผนึกกำลังปราบปราม 'นอมินี' และ 'บัญชีม้านิติบุคคล'
พาณิชย์ เข้าพบ 'บิ๊กต่าย' หารือแนวทาง มาตรการ ข้อกฎหมาย และความร่วมมือ 2 หน่วยงาน เร่งปราบปรามนอมินี และบัญชีม้านิติบุคคล เตรียมร่วมมือทุกรูปแบบ ทั้งประสานข้อมูล ตรวจค้น บังคับใช้กฎหมาย นำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ เพื่อกำจัดอาชญากรทางเศรษฐกิจ ลดความสูญเสียทรัพย์สินของประชาชน และสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ประกอบการไทย
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้เข้าพบพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อหารือถึงแนวทาง มาตรการ ข้อกฎหมาย และความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องปรามมิให้คนไทยหรือนิติบุคคลไทยมีการกระทำในลักษณะให้ความช่วยเหลือ หรือสนับสนุน หรือร่วมประกอบธุรกิจ หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าว (นอมินี) โดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืน พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 รวมทั้งการป้องกันและปราบปรามปัญหาการเปิดบัญชีม้าของนิติบุคคล
ทั้งนี้ ผลการหารือ ผบ.ตร. ได้ยืนยันให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์อย่างเต็มที่ เพราะเป็น 1 ในนโยบายการบริหารราชการ 15 ข้อ ที่ ผบ.ตร. เน้นย้ำและให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อเร่งปราบปรามอาชญากรรมทุกรูปแบบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาให้กับพี่น้องประชาชน
โดยเน้นการทำงานอย่างใกล้ชิดในมิติที่ลึกขึ้น ทั้งการร่วมกำหนดมาตรการแนวทางการดำเนินงานทั้งระยะสั้น กลาง ยาว การแลกเปลี่ยนและเชื่อมโยงข้อมูลสำหรับใช้เป็นฐานข้อมูลในการสืบสวน สอบสวน จับกุมผู้กระทำความผิด ซึ่งจะทำให้การสืบสวนข้อเท็จจริงเป็นไปด้วยความรวดเร็วและมีหลักฐานดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดได้ครบถ้วนขึ้น การลงพื้นที่ตรวจสอบ ตรวจค้นนิติบุคคลกลุ่มเป้าหมายที่มีความเสี่ยง การบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มประสิทธิภาพ และการนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษอย่างจริงจัง
นางอรมน กล่าวว่า ในส่วนของกรม จะร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานพันธมิตรอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันและปราบปรามปัญหานอมินี และบัญชีม้านิติบุคคลให้หมดสิ้นไปตามนโยบายของรัฐบาล โดยกรมจะเพิ่มความเข้มงวดด้านการจดทะเบียนธุรกิจอย่างรัดกุม
เพื่อป้องกันปัญหาบัญชีม้านิติบุคคลที่อาจจะเกิดขึ้นและปิดโอกาสไม่ให้มิจฉาชีพนำความน่าเชื่อถือจากการจดทะเบียนนิติบุคคลไปใช้หลอกลวงประชาชน รวมถึงติดตามตรวจสอบนิติบุคคลที่เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงในการเป็นนอมินี และร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเพื่อลงโทษผู้กระทำความผิด
ขณะเดียวกัน จะแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้เชี่ยวชาญของกองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่จะให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบธุรกิจนอมินีและบัญชีม้านิติบุคคล โดยสามารถนำองค์ความรู้และข้อมูลดังกล่าวไปพัฒนารูปแบบการตรวจสอบหาพยานหลักฐานในการกระทำความผิดและเทคนิคในการพิจารณาความผิดปกติของธุรกิจที่เข้าข่ายเป็นนอมินี หรือรู้ทันกลอุบายของมิจฉาชีพที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ทำให้สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้อย่างรวดเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้เสียหายได้อย่างทันท่วงที ลดปัญหาทางสังคม และลดการทำลายเศรษฐกิจในประเทศไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม
“การแก้ไขปัญหาบัญชีม้าและนอมินีในนิติบุคคล เป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ด้วยความร่วมมือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานพันธมิตรทุกภาคส่วนที่บังคับใช้กฎหมายหรือสนับสนุนป้องปราม ทำให้เชื่อมั่นว่าจะสามารถลดช่องทางการกระทำผิดของมิจฉาชีพ ลดความเสียหายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความโปร่งใสให้กับระบบธุรกิจของประเทศ”นางอรมนกล่าว
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 4 พ.ย.2567 กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เรื่อง การป้องกันและปราบปรามปัญหาการเปิดบัญชีม้าของนิติบุคคลและการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (นอมินี) กับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งทั้งสองหน่วยงานจะทำงานร่วมกันในการสืบสวนสอบสวนการเปิดบัญชีม้าในรูปแบบนิติบุคคล และในกรณีที่มีคนไทยรับจ้างเป็นนอมินีให้แก่คนต่างชาติเพื่อเอื้อในการทำธุรกิจที่ผิดกฎหมายหรือหลบเลี่ยงกฎหมายของไทย
สำหรับ ปัญหาดังกล่าว รัฐบาลได้ให้ความสำคัญเรื่องนี้ โดยนายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย เพื่อกำหนดนโยบายและมาตรการที่จำเป็นเร่งด่วนในการป้องกันและปราบปรามสินค้าและธุรกิจจากต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย โดยมีนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน
ซึ่งนายพิชัย ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว (NOMINEE) โดยมีนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานอนุกรรมการ มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมสอบสวนคดีพิเศษ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมการจัดหางาน กรมการท่องเที่ยว กรมที่ดิน และกรมสรรพากร ร่วมเป็นคณะอนุกรรมการฯ
เพื่อกำหนดแผนการดำเนินการร่วมกันในระยะสั้น กลาง ยาว เพื่อประสานแลกเปลี่ยนข้อมูลสำหรับใช้เป็นฐานข้อมูลใน การสืบสวน สอบสวน จับกุม ผู้กระทำความผิด ซึ่งขอบคุณที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นอย่างดี