ผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2567 การช่วยเหลือประชาชนที่อยู่อาศัยในเขตที่ดินของรัฐให้เข้าถึงสาธารณูปโภคไฟฟ้า ประปา และการเร่งรัดดำเนินการพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของบุคคลในเขตที่ดินของรัฐ
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบในการผ่อนผันมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2546 เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่อยู่อาศัยในเขตที่ดินของรัฐให้เข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานต่างๆ เช่น ไฟฟ้า ประปา เป็นต้น ในพื้นที่นำร่องจังหวัดกาญจนบุรีและแม่ฮ่องสอน โดยมีกลุ่มเป้าหมายแบ่งเป็น กลุ่มเป้าหมายที่ 1 ประชาชนที่ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิในที่ดิน หรือ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 กลุ่มนี้ควรจะได้รับการพิจารณาผ่อนผันก่อนเป็นลำดับแรก และกลุ่มเป้าหมายที่ 2 ประชาชนที่ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐประเภทอื่นๆ ควรจะพิจารณาผ่อนผันตามเหตุผลและความจำเป็น เป็นรายกรณี โดยไม่ขัดหรือแย้งกับมาตรการการบุกรุกที่ดินของรัฐมาตรการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยและทำกิน และการใช้ประโยชน์ตามภารกิจของหน่วยงานของรัฐนั้นๆ
2. เห็นชอบให้คณะอนุกรรมการพิสูจน์สิทธิในที่ดินของรัฐจังหวัด (คพร.จังหวัด) กาญจนบุรีและแม่ฮ่องสอน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบ รวบรวม ข้อมูลข้อเท็จจริง เพื่อเร่งรัด การพิสูจน์สิทธิ ในที่ดินให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี หากมีเหตุผลความจำเป็นให้ สคทช. ประสานกำหนดแผนการดำเนินการเพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเสนอสำนักงบประมาณ (สงป.) พิจารณาต่อไป
สาระสำคัญ
เรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2567 และ 12 มีนาคม 2567 ที่มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) เร่งพิจารณาขอผ่อนผันการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2546 (ประชาชนผู้ได้รับทะเบียนบ้านชั่วคราวมาขออนุญาตใช้บริการไฟฟ้าและน้ำประปาจะอนุญาตได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากหน่วยงานของรัฐเจ้าของที่ดิน) เพื่อให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในที่ดินของรัฐโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงผู้ที่อยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิสามารถเข้าถึงสาธารณูปโภคทั้งไฟฟ้าและน้ำประปาได้เป็นการชั่วคราวตามหลักสิทธิมนุษยชน โดยให้ดำเนินการนำร่องในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีและแม่ฮ่องสอน ซึ่งในครั้งนี้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ในคราวประชุม ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 ได้กำหนดประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับการผ่อนผันการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2546 ให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้นกว่าที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2567 โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
ประชาชน |
ความหมาย |
ผ่อนผันการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี |
||
กลุ่มที่ 1 |
ประเภทที่ 1 คือ ผู้ที่ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิในที่ดิน (ประมาณ 33,019 แปลง) ประเภทที่ 2 คือ ผู้ที่ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 (ประมาณ 5,582 ครัวเรือน) |
ให้ได้รับการผ่อนผันการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2546 เพื่อให้สามารถขออนุญาตใช้บริการไฟฟ้าและน้ำประปาได้ โดยไม่ต้องมีทะเบียนบ้านชั่วคราวหรือได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากหน่วยงานของรัฐเจ้าของที่ดิน |
||
กลุ่มที่ 2 |
ประชาชนที่ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐประเภทอื่นๆ นอกเหนือจากกลุ่ม 1 (ประมาณ 6,086 ครัวเรือน) |
ให้พิจารณาเหตุผลและความจำเป็นในการผ่อนผันการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2546 เพื่อให้สามารถขออนุญาตใช้บริการไฟฟ้าและน้ำประปาได้เป็นรายกรณี |
2. การผ่อนผันมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2546 ในครั้งนี้ เป็นขั้นตอนในการผ่อนคลายข้อกำหนดในการขออนุญาตใช้บริการไฟฟ้าและน้ำประปาตามหลักมนุษยธรรม สำหรับประชาชนที่อยู่อาศัยในป่าประเภทต่างๆ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิการครอบครอง โดยลดเงื่อนไขที่ผู้ขออนุญาตจะต้องมีทะเบียนบ้านชั่วคราวหรือได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากหน่วยงานของรัฐเจ้าของที่ดิน ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ประชาชนที่อยู่อาศัยในเขตพื้นที่ให้บริการไฟฟ้า (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเป็นหน่วยงานรับผิดชอบ) หรือน้ำประปา (องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของแต่ละพื้นที่เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ) แต่สำหรับการเข้าถึงระบบสาธารณูปโภคของประชาชนที่อยู่อาศัยนอกเขตพื้นที่ให้บริการไฟฟ้าหรือน้ำประปานั้น ยังขึ้นอยู่กับความพร้อมของหน่วยงานที่รับผิดชอบการให้บริการสาธารณูปโภคดังกล่าวหรือความเหมาะสมคุ้มค่าในการลงทุนเพื่อขยายเขตบริการให้ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ เช่น การปักเสาไฟฟ้าเพื่อขยายเขตไฟฟ้า การวางท่อขยายเขตให้บริการน้ำประปา โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนที่มีลักษณะเป็นเชิงเขา
3. กระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) พิจารณาแล้วเห็นชอบ/ไม่ขัดข้อง มีความเห็นเพิ่มเติมบางประการ เช่น ควรผ่อนผันการขออนุญาตใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ (ทุกประเภท) เพื่อวางท่อส่งน้ำประปาและการขยายเขตระบบไฟฟ้าหากมีกิจกรรมที่รบกวนระบบนิเวศต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันแก้ไขและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด เขตอุทยานและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ายังไม่สามารถก่อสร้างสิ่งสาธารณูปโภคใหม่ได้ในขณะนี้เว้นเป็นการบำรุงซ่อมแซมสิ่งก่อสร้างส่วนการขอทำประโยชน์ในเขตป่าไม้และป่าสงวนแห่งชาติให้ดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น
(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร (นายกรัฐมนตรี) 8 ตุลาคม 2567
10275