ฟิทช์ เรทติ้งส์ – กรุงเทพฯ – 12 พฤษภาคม 2566: บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ที่ 'AA(tha)' และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น (National Short-Term Rating) ที่ 'F1+(tha)' แก่บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ MST โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับเครดิตมีปัจจัยสนับสนุนจากผู้ถือหุ้น: อันดับเครดิตของบริษัทพิจารณาจากความคาดหวังของฟิทช์ว่า ธนาคารแม่ที่เป็นผู้ถือหุ้นสูงสุด ซึ่งคือ Malayan Banking Berhad (หรือ Maybank) จะให้การสนับสนุนเป็นพิเศษนอกเหนือจากการสนับสนุนในด้านการดำเนินงานตามปรกติ (extraordinary support) แก่ MST ในกรณีที่มีความจำเป็น
มีบทบาทสำคัญในเชิงกลยุทธ์ : ฟิทช์เชื่อว่า MST ยังคงมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนแผนกลยุทธ์ของMaybank เพื่อที่จะเป็นสถาบันการเงินชั้นนำในภูมิภาค MST เป็นตัวหลักในการสนับสนุนธุรกิจของกลุ่มในประเทศไทย
ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับตลาดหลักทรัพย์ และให้บริการบริหารความมั่งคั่ง (wealth management) ของ MST ช่วยส่งเสริมธุรกิจในภูมิภาคของกลุ่ม แต่อย่างไรก็ตาม ฟิทช์ไม่ได้มองว่า MST เป็นบริษัทลูกหลัก (core subsidiary) ของ Maybank เนื่องจากขนาดธุรกิจและสัดส่วนของผลประกอบการที่ค่อนข้างจำกัดเมื่อเทียบกับกลุ่ม
มีความเชื่อมโยงระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง : ฟิทช์ ยังเชื่อว่า มีการเชื่อมโยงกันอย่างมีนัยสำคัญระหว่าง Maybank และ MST ซึ่งเพิ่มระดับของโอกาสในการให้การสนับสนุนแก่บริษัทลูก โดยกลุ่มธนาคารแม่มีสัดส่วนการถือหุ้นที่ 83.5% ใน MST และมีการใช้ชื่อทางการค้าร่วมกันกับบริษัทลูก
นอกจากนี้ ยังมีการผสานการดำเนินงานระหว่างกัน (Integration) ในแง่ของผลิตภัณฑ์และทีมบริหารงาน รวมทั้งความร่วมมือกัน (synergies) ในแง่ของการแนะนำลูกค้าจากต่างประเทศภายในกลุ่ม ฟิทช์ คาดว่า การเชื่อมโยงระหว่างกันดังกล่าวจะยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องในระยะสั้น
ผลการดำเนินงานที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ : บริษัทมีผลประกอบการตลอดวัฏจักรธุรกิจที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ ตั้งแต่การเข้าซื้อกิจการของ Maybank เมื่อปี 2554 ความสามารถในการทำกำไรของ MST ปรับตัวลดลงในปี 2565 สอดคล้องกับภาพรวมของอุตสาหกรรม
โดยมีปัจจัยหลักมาจากการหดตัวของปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์โดยรวมของตลาดหลักทรัพย์ แต่อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมีอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อส่วนผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (operating profit/average equity) ที่ทรงตัวอยู่ในระดับที่ค่อนข้างดีที่ 14.2%
ฟิทช์ คาดว่า ความผันผวนของผลประกอบการในอนาคตจะยังคงมีอยู่ จากการที่ธุรกิจของบริษัทต้องพึ่งพาสภาวะตลาดหลักทรัพย์ อย่างไรก็ตามผลประกอบการของบริษัทน่าจะยังคงได้รับแรงหนุนจากการสนับสนุนจากเครือข่ายธุรกิจของธนาคารแม่และเครือข่ายธุรกิจหลักทรัพย์ภายในประเทศที่แข็งแกร่งของบริษัท
มีการจัดการสภาพคล่องในระดับที่เพียงพอ : ฟิทช์เชื่อว่าโครงสร้างการระดมเงินทุน (funding) และสภาพคล่อง (liquidity) ของ MST ยังคงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ หนุนด้วยความสามารถในการเข้าถึงการระดมเงินทุนผ่านตลาดทุนภายในประเทศ และวงเงินกู้จากธนาคารหลายแห่ง
นอกจากนี้ ธนาคารแม่ยังให้การสนับสนุนเงินทุนเพื่อใช้ในการดำเนินงานตามปรกติในรูปแบบของวงเงินกู้ยืมระหว่างบริษัทในกลุ่ม (intra-group liquidity lines) และเงินกู้ด้อยสิทธิ ซึ่งจะช่วยรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนด้านผลประกอบการและสภาพคล่องที่อาจเกิดขึ้นได้
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ MST จะเปลี่ยนแปลงในทิศทางเดียวกันกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเครดิตของ Maybank โดยการปรับลดอันดับเครดิตอาจเกิดขึ้นได้ หากความสามารถของธนาคารแม่ในการให้การสนับสนุนแก่บริษัทลูกมีการปรับตัวลดลง
ทั้งนี้ การปรับลดอันดับเครดิตจะพิจารณาเปรียบเทียบโครงสร้างเครดิตของ MST กับสถาบันการเงินรายอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศด้วยเช่นกัน
การปรับลดลงของโอกาสที่ Maybank จะให้การสนับสนุนแก่ MST ก็จะส่งผลต่ออันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวด้วยเช่นเดียวกัน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้ในกรณีที่ธนาคารแม่ลดสัดส่วนผู้ถือหุ้นลงต่ำกว่า 75%
ควบคู่ไปกับการลดระดับของอำนาจในการควบคุมด้านการบริหารจัดการ ระดับความเชื่อมโยงด้านการดำเนินงานหรือความร่วมมือระหว่างกัน ด้านธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ฟิทช์ ไม่คาดว่า ระดับของการให้การสนับสนุนจากธนาคารแม่จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญในระยะสั้นถึงระยะกลาง
อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของ MST ไม่น่าจะถูกปรับลดอันดับ เว้นแต่ในกรณีที่อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัทถูกปรับลดอันดับลงไปที่ 'A+(tha)' หรือ ต่ำกว่า
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ MST อาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิต หากธนาคารแม่มีโครงสร้างเครดิตที่แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งบ่งชี้ถึงความสามารถในการให้การสนับสนุนแก่บริษัทลูกที่เพิ่มขึ้น
อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวอาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับ
หากฟิทช์ เชื่อว่า โอกาสที่ธนาคารแม่จะให้การสนับสนุนแก่บริษัทลูกในประเทศไทยมีการปรับตัวสูงขึ้น โดยเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้หาก MST กลายเป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญอย่างมากต่อเครือข่ายธุรกิจของธนาคารแม่
อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น ไม่มีโอกาสที่จะได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิต เนื่องจากอันดับเครดิตอยู่ในระดับสูงสุดของอันดับเครดิตภายในประเทศแล้ว
อันดับเครดิตที่มีความเชื่อมโยงกับอันดับเครดิตอื่น
อันดับเครดิตของ MST มีความเชื่อมโยงกับโครงสร้างเครดิตของ Maybank
ติดต่อ
อาลฎา สุขะการผดุง
Associate Director
Primary Rating Analyst
+662 108 0163
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จากัด
อาคารปาร์คเวนเชอร์ ชั้น 17
57 ถนน วิทยุ ลุมพินี
ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
กุลรัตน์ ลีลานิรมล
Associate Director
Secondary Rating Analyst
+662 108 0154
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
Elaine Koh
Senior Director
Committee Chairperson
+65 6796 7239
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ข้อมูลเพิ่มเติมหาได้จาก www.fitchratings.com