พาณิชย์ เผยโรงสกัดเดินเครื่องเต็มสูบ ลานเทเปิดซื้อทุกแห่ง ดันราคาปาล์มเกิน 5 บาท

กรมการค้าภายในแจ้งสถานการณ์ปาล์มน้ำมันล่าสุด โรงงานสกัดเดินเครื่องเต็มสูบทุกโรง ลานเทเปิดรับซื้อตามปกติทุกแห่ง ดันราคาปาล์มคุณปาล์มขยับเกินกิโลกรัมละ 5 บาท แนะเกษตรกรตัดปาล์มสุก หาทางลดต้นทุน ส่วนผู้ประกอบการต้องซื้อปาล์มคุณภาพ CPO 18% ขึ้นไป เผยยังได้ประสานฝ่ายมั่งคง ฝ่ายปกครอง คุมเข้มลักลอบ เข้มงวดการขนย้าย ติดตามการรับซื้อต่อ        

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงการติดตามสถานการณ์ปาล์มน้ำมัน ล่าสุด ณ วันที่ 19 ม.ค.2566 ว่า ขณะนี้ปัญหาปาล์มน้ำมันที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มทุกโรง และลานเททุกแห่ง ได้เปิดดำเนินการตามปกติ และทำการรับซื้อผลปาล์มจากแหล่งปลูกเข้าสู่โรงงานสกัดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาปาล์มคุณภาพขณะนี้ ได้ขยับขึ้นมาเกิน 5 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) แล้ว

“วันนี้ ทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติ ไม่มีการปัญหารอคิวหน้าโรงงาน ไม่มีปัญหาลานเทชะลอการรับซื้อ ขอให้พี่น้องชาวสวนปาล์มสบายใจ สามารถตัดปาล์มส่งขายได้ตามปกติ ส่วนราคารับซื้อหน้าโรงงานก็ขยับสูงขึ้นเกิน 5 บาทไปแล้ว ตัวเลขล่าสุดอยู่ที่ 4.50-5.20 บาทสำหรับปาล์มคุณภาพหรือผลปาล์มสุก”นายอุดมกล่าว

นายอุดม กล่าวว่า ไม่อยากให้เกษตรกรมุ่งไปที่ราคาเพียงอย่างเดียว แต่ให้มามองต้นทางกระบวนการผลิตปาล์มคุณภาพด้วย ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อราคา และต้องหาวิธีลดต้นทุนการผลิตในด้านต่าง ๆ เช่น ทำอย่างไรให้ลดการใช้ปุ๋ยเคมีลง แต่ไม่ส่งผลต่อคุณภาพผลผลิต การเพิ่มอินทรีย์วัตถุในดินจากทางใบปาล์ม ซึ่งจะช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้ระดับหนึ่ง เป็นต้น และต้องหมั่นดูแลต้นปาล์ม โดยการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ

เนื่องจากปาล์มเป็นพืชที่ต้องการน้ำในปริมาณมาก ที่สำคัญต้องตัดปาล์มสุกเท่านั้น จะได้น้ำหนักมากและจำหน่ายได้ในราคาสูง ส่วนผู้ประกอบการ จะต้องรับซื้อผลปาล์มคุณภาพที่ CPO 18% ขึ้นไป และปฏิเสธรับซื้อปาล์มอ่อนในทุกกรณี

ทั้งนี้ กรมฯ ยังได้ประสานฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครอง ตลอดจนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ในการเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าทั้งน้ำมันปาล์มดิบและน้ำมันปาล์มเมล็ดใน และเข้มงวดการขนย้าย หากพบมีการลักลอบนำเข้าหรือลักลอบขนย้าย ได้กำชับให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนกรณีกดราคารับซื้อหรือหยุดรับซื้อโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร จะมีโทษฐานทำให้เกิดความปั่นป่วนซึ่งราคา มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยหากมีเบาะแสหรือพบพฤติกรรมดังกล่าว แจ้งได้ที่สายด่วน 1569

ก่อนหน้านี้ สถานการณ์ปาล์มน้ำมันใน 6 จังหวัดภาคใต้ เกิดปัญหาผลผลิตตกค้าง เพราะโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มปิดหยุดเดินเครื่องช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2566 ทำให้ผลผลิตปาล์มน้ำมันไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการแปรรูปได้ และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเร่งแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็ว ต่อมาวันที่ 12 ม.ค.2566 กรมการค้าภายใน ได้ลงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อร่วมประชุมหารือกับสมาคมโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม ผู้ประกอบลานเท และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาทางออกร่วมกัน

พร้อมสั่งการให้โรงงานสกัดน้ำมันที่หยุดทำการกลับมาเดินเครื่องตามปกติในทันที ยกเว้นบางโรงที่ปิดเพื่อซ่อมตามวงรอบประจำปี โดยล่าสุดโรงงานสกัดทั้งหมด 131 โรงได้เปิดเดินเครื่องและดำเนินการรับซื้อทั้งหมดแล้ว

Click Donate Support Web