จุรินทร์ เผยการรับซื้อปาล์มเป็นปกติแล้ว โรงงานสกัดใน 6 จังหวัดใต้ เปิด 60 แห่ง จาก 61 แห่ง

    จุรินทร์ เผยโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มใน 6 จังหวัดภาคใต้ ทั้งหมด 61 โรง กลับมาเปิดรับซื้อแล้ว 60 โรง หลังลงพื้นที่เข้าไปแก้ไขปัญหา ทั้งขอความร่วมมือให้หยุดซ่อมเครื่องจักร ชะลอการซ่อม และแจ้งแผนการซ่อม ทำการซื้อขายผลปาล์มดิบกลับเข้าสู่ภาวะปกติ พร้อมมอบผู้ว่าฯ ตรวจสอบใกล้ชิด หากพบใครสร้างความปั่นป่วนด้านราคา ให้จัดการเด็ดขาด

     นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาราคาปาล์มน้ำมัน ว่า ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เกิดการติดขัด เกษตรกรชาวสวนปาล์มนำปาล์มไปขายที่โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มและลานเท แต่เกิดการหยุดรับซื้อ หรือชะลอการรับซื้อ สาเหตุเกิดขึ้นเพราะทุกปีที่ผ่านมา

     ในช่วงนี้ ผลผลิตปาล์มจะออกเป็นปริมาณน้อย เป็นสาเหตุให้โรงงานสกัดปิดซ่อมบำรุง แต่ปีนี้มีปริมาณผลปาล์มจำนวนมาก แต่โรงสกัดปิดซ่อมเหมือนทุกปีที่ผ่านมา จึงทำให้เกษตรกรที่นำปาล์มไปขายที่ลานเท และโรงงานสกัด เกิดการจราจรติดขัด และโรงสกัดไม่สามารถรับซื้อได้ ส่งผลให้ลานเท ก็รับซื้อไม่ได้ แต่ขณะนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายลงแล้ว

       ทั้งนี้ ตนได้สั่งการให้นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน และนายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ไปเร่งแก้ปัญหา ในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดย 1.ให้โรงสกัดหยุดซ่อมเครื่องจักร ยกเว้นที่กำลังซ่อมอยู่ ก็ให้ซ่อมให้เสร็จโดยเร็วที่สุด 2.ถ้ายังไม่ซ่อม ให้หยุดซ่อม และให้รับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรตามปกติไปก่อน 3.ให้แจ้งแผนการซ่อมให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและกรมการค้าภายในทราบแผนการซ่อมว่าจะเสร็จเมื่อไร เพื่อที่จะได้อนุญาตให้ซ่อม แต่ไม่ซ่อมพร้อมๆ กัน เพราะจะกระทบ ทำให้เกษตรกรขายปาล์มไม่ได้

    “จากการเข้าไปแก้ไขปัญหา ขณะนี้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม ได้หันกลับมาซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรชาวสวนปาล์มทั้งชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง กระบี่ พังงา ทั้ง 6 จังหวัด มีทั้งหมด 61 โรงงาน ขณะนี้เปิดรับซื้อ 60 โรงงาน จึงเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ได้เข้าไปแก้ปัญหาตามที่ผมได้มอบหมายไป”นายจุรินทร์กล่าว

     นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการส่วนจังหวัดว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ให้ตรวจสอบการรับซื้อปาล์มอย่างใกล้ชิด หากใครทำผิดกฎหมายให้ดำเนินคดีตามมาตรา 29 คือ ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ในข้อหาสร้างความปั่นป่วนเรื่องราคา และยังกำกับให้กรมการค้าภายในและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดด้วย

Click Donate Support Web