หมวดหมู่: มติ ครม.

GOV4 copy


การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) Re-Open ธุรกิจโรงแรมและ Supply Chain ของโรงแรม

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) Re-Open ธุรกิจโรงแรมและสาขาธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง (Supply Chain) ของโรงแรม1 เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Small and Medium Enterprises: SMEs) ในธุรกิจโรงแรมและ Supply Chain ของโรงแรมให้มีเงินทุนเพียงพอสำหรับ การดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยให้รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการขยายระยะเวลาการกู้เงิน จาก 7 ปี เป็น 10 ปี และให้ผู้ประกอบการ รายย่อยสามารถเข้าร่วมโครงการได้ด้วย ไปพิจารณาดำเนินการ

          สาระสำคัญของเรื่อง 

          กค. รายงานว่า

          1. โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) Re-Open ธุรกิจโรงแรมและ Supply Chain ของโรงแรมมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนสินเชื่อเพื่อเป็นเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ในธุรกิจโรงแรมและ Supply Chain ของโรงแรมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19) เพื่อปรับปรุงหรือซ่อมแซมสถานประกอบกิจการหรือลงทุนในอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เครื่องอบผ้า เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้าอุตสาหกรรม เป็นต้น รวมถึงเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ โดยปัจจุบันธนาคารออมสินอนุมัติสินเชื่อไปแล้วจำนวน 64 ราย จำนวน 124 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.48 ของวงเงินรวมทั้งหมด 5,000 ล้านบาท (ข้อมูล วันที่ 30 กันยายน 2565) 

          2. กค. เห็นว่า เพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ในธุรกิจโรงแรมและ Supply Chain ของโรงแรมให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างทั่วถึงและต่อเนื่องมากขึ้น ทำให้มีเงินทุนในการฟื้นฟูธุรกิจและ มีสภาพคล่องที่เพียงพอให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ และเพื่อให้ธนาคารออมสินมีระยะเวลาในการประชาสัมพันธ์โครงการและนำเสนอผลิตภัณฑ์แก่กลุ่มเป้าหมาย จึงเห็นควรทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 โดยปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการดำเนินโครงการในส่วนของคุณสมบัติผู้กู้ วัตถุประสงค์การให้สินเชื่อ ระยะเวลาชำระเงินกู้ และระยะเวลารับคำขอสินเชื่อ สรุปได้ ดังนี้

 

หลักเกณฑ์และเงื่อนไข

หมายเหตุ

มติคณะรัฐมนตรี

วันที่ 26 กรกฎาคม 2565

 

ขอปรับปรุงหลักเกณฑ์ในครั้งนี้

 

1. คุณสมบัติผู้กู้

1.1 ผู้ประกอบการ SMEs ในธุรกิจโรงแรมและ Supply Chain ของโรงแรมที่เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศ ซึ่งมีบุคคลสัญชาติไทยถือหุ้นเกินกว่าร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียน ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ทั้งทางตรงและทางอ้อม

 

คงเดิม

 

-

1.2 กรณีเป็นผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรมหรืออยู่ระหว่างดำเนินการขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรมก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2563

 

กรณีเป็นผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมต้องมีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรมหรืออยู่ระหว่างดำเนินการขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรม

 

เพื่อให้การช่วยเหลือครอบคลุมผู้ประกอบการที่ยังอยู่ระหว่างยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรมด้วย

1.3 มีกำไรอย่างน้อย 1 ใน 3 ปีย้อนหลังล่าสุด

 

มีกำไรอย่างน้อย 1 ใน 5 ปีย้อนหลังล่าสุดและปัจจุบันยังประกอบกิจการอยู่

 

เพื่อให้ครอบคุลมผู้ประกอบการที่มีผลประกอบการดีก่อนสถานณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19

1.4 กรณีเป็นนิติบุคคล ส่วนของผู้ถือหุ้นต้องไม่ติดลบ

 

คงเดิม

 

-

1.5 ประวัติการชำระหนี้

      - ไม่เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-Performing Loan: NPLs) ไม่ถูกดำเนินคดี ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย วันยื่นคำขอ

      - กรณีลูกหนี้ปกติ ไม่มีหนี้ค้างชำระก่อนวันยื่นขอเข้าโครงการ

      - กรณีลูกหนี้เคยปรับเงื่อนไขการชำระหนี้หรือเคยปรับโครงสร้างหนี้ที่ผ่านมา ต้องไม่มีหนี้ค้างชำระก่อนวันยื่นขอเข้าโครงการ

 

ทั้งนี้ เป็นการให้สินเชื่อใหม่แก่ลูกค้าเดิมหรือลูกค้าใหม่ และไม่ใช่ลูกหนี้ที่โอนหนี้ (Refinance)

 

ประวัติการชำระหนี้ ข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้

- กรณีมีประวัติการผ่อนชำระปกติต้องมีสถานะบัญชีปกติ2 วันที่ยื่นขอเข้าโครงการ

- กรณีมีประวัติค้างชำระไม่เกิน 90 วัน ต้องมีสถานะบัญชีปกติ วันที่ยื่นขอเข้าโครงการ

- กรณีมีประวัติเป็น NPLs ต้องอยู่ระหว่างปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ต้องผ่อนชำระได้ตรงตามเงื่อนไข และไม่มีหนี้ค้างชำระตามสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ วันที่ยื่นขอเข้าโครงการ

 

โดยต้องไม่ถูกดำเนินคดีและไม่เป็นบุคคลล้มละลาย ทั้งนี้ เป็นการให้สินเชื่อใหม่แก่ลูกค้าเดิมหรือลูกค้าใหม่ และไม่ใช่ลูกหนี้ที่โอนหนี้ (Refinance)

 

ปรับปรุงถ้อยคำและเพิ่มความชัดเจนในการพิจารณาช่วยเหลือผู้ประกอบการที่มีประวัติชำระหนี้ดี หรือมีหนี้ค้างชำระ และมีการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้วแต่สามารถชำระหนี้ได้ เพื่อให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น

2. วัตถุประสงค์

เพื่อปรับปรุงหรือซ่อมแซมสถานประกอบกิจการหรือลงทุนในอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เครื่องอบผ้า เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้าอุตสาหกรรม เป็นต้น

 

เพื่อปรับปรุงหรือซ่อมแซมสถานประกอบกิจการหรือลงทุนในอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เครื่องอบผ้า เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้าอุตสาหกรรม เป็นต้น รวมถึงเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

 

ขยายวัตถุประสงค์การให้สินเชื่อเพื่อให้ครอบคลุมถึงการให้สินเชื่อเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการสำหรับเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจดังกล่าวด้วย

3. ประเภทสินเชื่อ

เงินกู้ระยะยาว (L/T)

 

คงเดิม

 

-

4. วงเงินโครงการ

5,000 ล้านบาท

 

คงเดิม

 

-

5. วงเงินสินเชื่อต่อราย

ไม่เกินรายละ 5 ล้านบาท

 

คงเดิม

 

-

6. ระยะเวลาชำระเงินกู้

ระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 7 ปี โดยมีระยะเวลาปลอดชำระเงินต้น (Grace Period) ไม่เกิน 2 ปี ในกรณีที่มีระยะเวลาการกู้ตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป

 

- กรณีให้สินเชื่อเพื่อปรับปรุงซ่อมแซมสถานประกอบกิจการ และลงทุนในอุปกรณ์ต่างๆ ระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 7 ปี โดยมีระยะเวลาปลอดชำระเงินต้น (Grace Period) ไม่เกิน 2 ปี ในกรณีที่มีระยะเวลาการกู้ตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป

- กรณีให้สินเชื่อเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 5 ปี โดยมีระยะเวลาปลอดชำระเงินต้น (Grace Period) ไม่เกิน 1 ปี 6 เดือน ในกรณีที่มีระยะเวลาการกู้ตั้งแต่ 1 ปี 6 เดือนขึ้นไป

 

-

7. อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 

ปีที่ 1 - 2 ร้อยละ 1.99 ต่อปี

ปีที่ 3 - 7 เป็นไปตามที่ธนาคารออมสินกำหนด

 

คงเดิม

 

-

8. หลักประกัน

(1) หลักทรัพย์ค้ำประกันเต็มวงเงิน หรือ

(2) หลักทรัพย์ค้ำประกันร่วมกับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) หรือ

(3) บสย. ค้ำประกันเต็มวงเงิน

 

คงเดิม

 

-

9. ระยะเวลาการยื่นขอสินเชื่อ

ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2565 หรือจนกว่าวงเงินสินเชื่อรวมในโครงการจะหมด แล้วแต่ระยะเวลาใดจะถึงก่อนและให้เบิกจ่ายเงินกู้ให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี นับจากวันทำนิติกรรมสัญญา ทั้งนี้ ไม่เกินวันที่ 30 ธันวาคม 2566

 

ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566 หรือจนกว่าวงเงินสินเชื่อรวมในโครงการจะหมด แล้วแต่ระยะเวลาใดจะถึงก่อนและให้เบิกจ่ายเงินกู้ให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี นับจากวันทำนิติกรรมสัญญา ทั้งนี้ ไม่เกินวันที่ 30 ธันวาคม 2566

 

เพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างทั่วถึงและต่อเนื่องมากขึ้น และเพื่อให้ธนาคารออมสินมีระยะเวลาในการประชาสัมพันธ์โครงการและนำเสนอผลิตภัณฑ์แก่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย รวมถึงให้ลูกค้ามีระยะเวลาจัดเตรียมเอกสารและเตรียมความพร้อมในการยื่นขอสินเชื่อ

10. การชดเชยจากรัฐบาล

รัฐบาลชดเชยต้นทุนเงินให้กับธนาคารออมสินในอัตราร้อยละ 2 ต่อปี เป็นระยะเวลา 2 ปี รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 200 ล้านบาท (วงเงิน 5,000 ล้านบาท * ร้อยละ 2 ต่อปี * ระยะเวลา 2 ปี) โดยธนาคารออมสินจะทำความตกลงกับสำนักงบประมาณเพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณเป็นรายปีตามความเหมาะสมและความจำเป็นต้อไป

 

คงเดิม

 

-

11. เงื่อนไขอื่นๆ

(1) ธนาคารออมสินแยกบัญชีโครงการเป็นบัญชีธุรกรรมนโยบายรัฐ (Public Service Account : PSA) 

(2) ธนาคารออมสินสามารถนำส่วนต่างระหว่างค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เกิดขึ้นจริงและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ได้รับชดเชยเพื่อบวกกลับในการคำนวณโบนัสประจำปีของพนักงานได้ และเป็นส่วนหนึ่งในการปรับตัวชี้วัดทางการเงินที่เกี่ยวข้องตามบันทึกข้อตกลงประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจได้

(3) ธนาคารออมสินสามารถกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีปฏิบัติตามระเบียบคำสั่งของธนาคารได้

 

คงเดิม

 

-

 

          ทั้งนี้ การปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวไม่ได้ก่อให้เกิดภาระงบประมาณเพิ่มขึ้น โดยยังอยู่ภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณชดเชยเดิม รวมทั้งหลักเกณฑ์และเงื่อนไขอื่นๆ ยังคงเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของโครงการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 

_____________________________

1 กค. แจ้งว่า ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง (Supply Chain) ของโรงแรม หมายถึง ธุรกิจที่ผลิตสินค้าและบริการให้กับธุรกิจโรงแรม เช่น ร้านซักรีด ธุรกิจติดตั้งระบบไฟฟ้า/ระบบปรับอากาศ ธุรกิจจัดเลี้ยง (catering) เป็นต้น โดยธนาคารออมสินจะเป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์ในการพิจารณาว่าธุรกิจใดบ้างที่เข้าข่ายเป็น Supply Chain ของธุรกิจโรงแรมดังกล่าว

2 เป็นสถานะบัญชีในรายงานข้อมูลเครดิตบูโร โดยสถานะบัญชีปกติ หมายถึง มีการชำระสินเชื่อตามปกติ จ่ายครบจ่ายตรงตามเงื่อนไข ไม่มียอดค้างชำระหรือค้างชำระไม่เกิน 30 วัน

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์  จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 22 พฤศจิกายน 2565

สำนักโฆษก   สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396

 

A11974

Click Donate Support Web  

EXIM One 720x90 C J

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

PTG 720x100TU720x100sme 720x100

BANPU 720x100QIC 720x100

ธกส 720x100

ใจฟู720x100px

ais 720x100

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!