หมวดหมู่: พาณิชย์

1aปรับโฉมคลัง


เกรียงศักดิ์โชว์ผลงาน อคส. ปรับโฉมคลัง เพิ่มรายได้ สะสางข้าว มัน ข้าวโพด ถุงมือยาง

    เกรียงศักดิ์โชว์ผลการขับเคลื่อนงาน อคส. ในรอบ 2 ปี หลังรับตำแหน่ง ลุยปรับโฉมคลังสินค้า เพิ่มรายได้ค่าเช่าคลังสูงสุดรอบ 30 ปี กำไรขั้นต้นพุ่งสูงสุดรอบ 20 ปี เร่งใช้ประโยชน์จากคลังสินค้าที่มีอยู่ และเปิดคลังในต่างประเทศ เผยยังสามารถสะสางการระบายข้าว มัน ข้าวโพด และเร่งดำเนินคดีการทุจริต ติดตามค่าเสียหายคืน ส่วนการทุจริตถุงมือยาง อายัดเงินได้ภายใน 50 วัน

  นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของ อคส. ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หลังจากเข้ามารับตำแหน่งตั้งแต่ช่วงเดือนก.ย.2563 ว่า การเข้ามาขับเคลื่อน อคส. เป็นช่วงที่เกิดวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 พอดี แต่ก็สามารถผลักดันให้องค์กรมีความก้าวหน้า และเปลี่ยนแปลงได้ในหลายเรื่อง โดยเฉพาะการสร้างรายได้จากทรัพย์สินหลักของ อคส. คือ คลังสินค้า ซึ่งได้มีการปรับปรุงหลังคาคลังสินค้าธนบุรีใหม่ เพื่อให้เพิ่มปริมาณเก็บสินค้าได้เพิ่มขึ้น มีการขุดลอกท่าเทียบเรือ เพื่อให้เรือใหญ่เข้ามาเทียบท่าเพื่อขนส่งสินค้าได้สะดวกขึ้น จนสามารถทำให้ อคส. มีรายได้จากค่าเช่าคลังสินค้าในปี 2565 อยู่ที่ 72.3 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 30 ปี และหากรวมรายได้จากโครงการอื่นๆ ทำให้ อคส.มีกำไรขั้นต้นในปี 2565 ถึง 81.5 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 20 ปี แต่ภาพรวมในปี 2565 อคส. ยังขาดทุนอยู่ประมาณ 120 ล้านบาท แต่มั่นใจว่า ภายในปี 2567 น่าจะพลิกกลับมามีกำไรได้ หลังจากที่มีแผนในการสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

       สำหรับ แผนการใช้ประโยชน์จากคลังสินค้า เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับ อคส. จะใช้ประโยชน์จากคลังสินค้าที่มีอยู่เพิ่มเติม ได้แก่ คลังสินค้าอุทยานวิทยาศาสตร์วังจันทร์ จ.ระยอง ใช้เป็นโรงงานผลิตสารสกัดจากกระท่อม คลังสินค้าลพบุรี เป็นที่เก็บและแปรรูปข้าวพื้นแข็ง คลังมหาสารคาม ทำเป็นห้องเย็นสำหรับเก็บผลผลิตทางการเกษตร เช่น ปลา เนื้อวัว คลังสุรินทร์ ทำเป็นที่เก็บเนื้อวัวพรีเมียม คลังกระบี่ เก็บเนื้อแพะ และคลังนราธิวาส ใช้เป็นคลังสินค้าเพื่อสนับสนุนการค้าชายแดน และเก็บทุเรียนแช่แข็ง

      นอกจากนี้ ได้เพิ่มสาขาคลังสินค้าในต่างประเทศที่ทวาย ซึ่งได้ทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับเมียนมาไปแล้ว มีระยะทางจากไทยถึงคลังสินค้า 180 กิโลเมตร สะดวกในการส่งสินค้าไปจีนและตะวันออกกลาง และจะตั้งที่หนานซา มณฑลกวางตุ้ง ของจีน จะทำเป็นคลังแฝด (ธนบุรี-หนานซา) ซึ่งกำลังรอผู้บริหารชุดใหม่ของท่าเทียบเรือหนานซาดำเนินการต่อ

      ส่วนการเพิ่มรายได้อื่น ๆ ได้ผลักดันให้มีการลงทุนทำเครื่องคัดแยกชนิดปลาโดยใช้ AI ลงทุนสายพานลำเลียงปลาทูน่า ทำ Pallet จากกากมะพร้าว ลงทุนผลิตสารสกัดจากกระท่อม ทำปุ๋ยไตโตรเจนจากน้ำแป้ง การขายข้าวชนิดพิเศษ เช่น ข้าวนุ่ม ข้าวเสาไห้ ข้าวเหนียวเขี้ยวงู ข้าว กข.79 ข้าวประกาอำปึล ข้าวหอมแม่จัน และข้าวหอมมะลิ ตามโครงการ “ข้าวพูดได้” โดยสามารถสแกน QR Code เพื่อฟังรายละเอียดของข้าวแต่ละชนิดได้ และโครงการ “ผ่านตั๋ว” ที่ อคส. จะให้ผู้ประกอบการเอาแบงก์การันตีมาวาง แล้ว อคส. จะให้วงเงินกับผู้ประกอบการเกินไปกว่าแบงก์การันตี ซึ่งเตรียมวงเงินไว้ 1,000 ล้านบาท จะมีรายได้จากการคิดดอกเบี้ยประมาณ 6% หรือ 60 ล้านบาท

      นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับงานสะสาง ได้ระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลหมด ล็อตสุดท้ายเป็นข้าวนอกบัญชีปี 2548/49 และได้ฟ้องดำเนินคดีผู้กระทำการทุจริตแล้ว 1,179 คดี มูลค่าความเสียหาย 503,590 ล้านบาท ระบายมันสำปะหลังได้หมด และฟ้องดำเนินคดี 166 คดี ความเสียหาย 20,065 ล้านบาท ส่วนข้าวโพด ก็ระบายหมดทุกคลัง ฟ้องร้องดำเนินคดี 4 คดี ความเสียหาย 1,072 ล้านบาท ส่วนโครงการทุจริตถุงมือยาง ได้ดำเนินการอายัดเงิน 2,000 ล้านภายใน 50 วัน และมีการดำเนินการต่อโดยไล่ออกผู้กระทำความผิด และขณะนี้ อยู่ระหว่างการดำเนินการของ ป.ป.ช.

     นอกจากนี้ อคส. ยังได้ผ่านเกณฑ์การประเมินคุณธรรมและความ โปร่งใสในการดาเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี โดยผ่านเกณฑ์ 2 ปีซ้อน คือ ปี 2564 และ 2565 และยังเป็นอันดับ 3 ของกระทรวงพาณิชย์

 

Click Donate Support Web  

 

EXIM One 720x90 C J

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

PTG 720x100TU720x100sme 720x100

BANPU 720x100QIC 720x100

ธกส 720x100

ใจฟู720x100px

ais 720x100

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!