หมวดหมู่: พาณิชย์

1aเจรจาซื้อปุ๋ย


จุรินทร์ ถกคาซัคสถาน เจรจาซื้อปุ๋ย ก่อนมอบ 3 สมาคมหารือรายละเอียดต่อ

     จุรินทร์ หารือวุฒิสมาชิกคาซัคสถาน สบช่องเจรจาซื้อขายปุ๋ยเพิ่ม แทนแหล่งนำเข้าเดิมรัสเซีย-เบลารุส ที่มีปัญหา มอบกรมการค้าภายใน กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เป็นตัวกลางนำผู้นำเข้าไทยจาก 3 สมาคม หารือกับผู้ส่งออกคาซัคสถาน มั่นใจช่วยเพิ่มปริมาณปุ๋ยในประเทศ และแก้ปัญหาขาดแคลนปุ๋ย

     นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือกับนายมูซาบาเยฟ ทัลกัต อมันเกลดีวิช สมาชิกวุฒิสภาคาซัคสถาน ว่า ได้ใช้โอกาสนี้หารือเรื่องปุ๋ย ซึ่งคาซัคสถานเป็นผู้ผลิตปุ๋ยรายสำคัญแห่งหนึ่งของโลก และปัจจุบันไทยได้รับผลกระทบจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ทำให้มีปัญหาในการนำเข้าปุ๋ยจาก 2 แหล่งที่สำคัญ คือ รัสเซียและเบลารุส

เพราะมีอุปสรรคทั้งด้านการขนส่งและการชำระเงิน ซึ่งไทยนำเข้าปุ๋ยจากรัสเซีย สูตร 15-15-15 ประมาณ 75% ของการนำเข้าทั้งหมด และยังนำเข้าฟอสฟอรัส ประมาณ 8% ในส่วนของเบลารุส ไทยนำเข้าโปแตสเซียมจำนวน 27% ถือเป็นอันดับ 2 รองจากแคนาดาที่ไทยนำเข้า 37% ดังนั้น การเพิ่มโอกาสในการซื้อปุ๋ยจากคาซัคสถาน ก็จะเป็นแหล่งนำเข้าใหม่ของไทย เพื่อทดแทน 2 แหล่งนำเข้าเดิม

    “ได้มอบหมายให้กรมการค้าภายใน และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เป็นตัวกลางจัดหารือระหว่างผู้ส่งออกปุ๋ยของคาซัคสถานกับผู้นำเข้าปุ๋ยของไทยจาก 3 สมาคม มาร่วมเจรจาการค้าเพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน โดยละเอียดต่าง ๆ ของข้อตกลงในเรื่องของการซื้อขาย ให้เป็นเรื่องของภาคเอกชนของทั้ง 2 ฝั่ง ได้ดำเนินการต่อไป”นายจุรินทร์กล่าว

      ทั้งนี้ การเจรจาซื้อปุ๋ยจากคาซัคสถานดังกล่าว จะช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเรื่องปุ๋ยขาดแคลน และราคาปุ๋ยที่ยังคงสูงอยู่มาก อันเนื่องมาจากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากราคาก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน ซึ่งเป็นวัตถุดิบผลิตปุ๋ย ยังมีราคาสูงอยู่ หากไทยสามารถมีแหล่งซื้อปุ๋ยในราคาถูกได้ ก็จะช่วยทำให้ราคาปุ๋ยในประเทศลดลง

      อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพบว่าราคาปุ๋ยในประเทศ เริ่มลดลงมาบ้างแล้ว เช่น ยูเรีย ลดลงไปแล้ว 18% เมื่อเทียบกับช่วงที่สงครามรัสเซียกับยูเครน และปุ๋ยสำหรับใส่ต้นปาล์ม สูตร 21-0-0 ราคาก็ลดลงมากถึงประมาณ 20-25%

    ส่วนประเด็นอื่น ๆ ได้หารือกับคาซัคสถานถึงการทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไทยกับสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย ซึ่งมีคาซัคสถานเป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งวุฒิสมาชิกรับที่จะนำไปแจ้งให้รัฐบาลช่วยเร่งดำเนินการแล้ว และยังได้หารือถึงการส่งเสริมกิจกรรมทางการค้าระหว่างกันของทั้ง 2 ประเทศ เพื่อเพิ่มยอดมูลค่าการส่งออกให้กับสินค้าไทยด้วย

     สำหรับ ไทยกับคาซัคสถาน มีความสัมพันธ์ทางการทูตมาตั้งแต่ปี 2535 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 30 ปี และคาซัคสถานถือเป็นหนึ่งใน 5 ประเทศที่เป็นสมาชิกในสหภาพยูเรเซีย และเป็นหนึ่งใน 9 ประเทศที่เป็นสมาชิกกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (CIS) โดยคาซัคสถานเป็นคู่ค้าในลำดับที่ 114 ของไทยในโลก และเป็นอันดับ 3 ในสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย (EAEU) โดยปี 2564 มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับคาซัคสถาน มีจำนวน 2,100 ล้านบาท และ 8 เดือนของปี 2565 (ม.ค.-ส.ค.) ไทยส่งออกไปคาซัคสถานจำนวน 1,200 ล้านบาท และนำเข้า 130 ล้านบาท สินค้าที่สำคัญที่ไทยส่งออกไปคาซัคสถาน ได้แก่ รถยนต์ เครื่องจักรกล ผลิตภัณฑ์ยางพารา ตู้เย็น ตู้แช่แข็ง ผลไม้กระป๋องและผลไม้แปรรูป อาหารแปรรูป เป็นต้น ส่วนที่ไทยนำเข้าจากคาซัคสถาน ประกอบด้วย สินแร่ โลหะ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรกลทรานซิสเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และสิ่งทอ เป็นต้น

 

Click Donate Support Web  

 

EXIM One 720x90 C J

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

PTG 720x100TU720x100sme 720x100

BANPU 720x100QIC 720x100

ธกส 720x100

ใจฟู720x100px

ais 720x100

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!