MOSHI ผู้นำธุรกิจค้าปลีกไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของไทย ทุบสถิติไตรมาส 4 โชว์ SSSG พุ่งทะยานกว่า 20% รับความสำเร็จกลยุทธ์ Collaboration Project ตลอดปี 2567 มั่นใจกวาดรายได้ทะลุเป้าโต 20%
‘บมจ. โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น’ หรือ MOSHI ผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของประเทศไทย ประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการออกคอลเลกชัน Collaboration Project ร่วมกับศิลปินและบุคคลที่มีชื่อเสียง ตลอดทั้งปี 2567 ส่งท้ายปี 67 ด้วยคอลเลกชันสุดพิเศษ Jukka and Friend ดันรายได้เติบโตทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ 20% สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมของสินค้าและกลยุทธ์ทางการตลาดที่ประสบความสำเร็จ เดินหน้านำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ในปีนี้กว่า 15,000 SKUs มากที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา แย้มผลงานไตรมาส 4 ทุบสถิติทำ SSSG (QTD) พุ่งทะยานกว่า 20%
นายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MOSHI เปิดเผยว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจค้าปลีกที่มุ่งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีการออกแบบเป็นเลิศและโดดเด่นด้วยความน่ารัก ประณีต คุณภาพดี ในราคาที่ผู้บริโภคสามารถจับต้องได้ เพื่อส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าในทุกๆ วัน ด้วยการนำเสนอสินค้าไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายครอบคลุมทั้งของใช้ในบ้าน ตุ๊กตา เครื่องเขียน เครื่องแต่งกาย กระเป๋า แฟชั่น อุปกรณ์เสริมความงาม เครื่องสำอาง อุปกรณ์ IT ของเล่น ขนม อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง และหมวดอื่นๆ ที่นำเสนอสินค้าที่กำลังเป็นที่นิยมตามความต้องการของผู้บริโภค บริษัทฯ มีความโดดเด่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของตลาด มีความคล่องตัวในการปรับตัวตามเทรนด์ พร้อมทั้งมีศักยภาพทางการตลาดที่โดดเด่น ส่งผลให้สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุม
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการดำเนินชีวิตของผู้บริโภค เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด โดยตลอดทั้งปี MOSHI ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 15,000 รายการ (SKUs) ถือว่ามากที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา นับเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายทั้งในด้านรูปแบบและการออกแบบ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเพื่อให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ อีกทั้ง บริษัทฯ ยังได้พัฒนา Collection Collaboration Project ออกผลิตภัณฑ์ K-POP Merchandise คาแรกเตอร์ NCT Dream คอลเลกชัน Moshi x NCT DREAM DREAM( )SCAPE และ คาแรกเตอร์ TEN ในคอลเลกชัน “Moshi Moshi x TEN & CANELE” ซึ่งช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับกลุ่มลูกค้าและเชื่อมโยงกลุ่มเป้าหมายให้ได้รู้สึกใกล้ชิดกับไอดอลที่ตัวเองชื่นชอบมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ร่วมทำ Collaboration กับ Designer ชาวไทยต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยได้ร่วมกับ ศิลปินครีเอเตอร์แบรนด์ ‘Butterclub’ (บัตเตอร์คลับ) และ ศิลปินครีเอเตอร์แบรนด์ Fluffy Omelet (ฟลัฟ ฟี่ ออม เล็ต) และได้ทำจัดทำคอลเลกชันสุดพิเศษลาย Hello Kitty ครบรอบ 50 ปี และลายสุดพิเศษของกลุ่มตัวละครซานริโอ้ จัดจำหน่ายเฉพาะในงานนิทรรศการ Hello Kitty Exhibition Celebration of Friendship and Sario Characters the Funtastic Exhibition ณ House of Illumination เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 7 ซึ่งดำเนินการภายใต้บริษัทร่วมทุนกับพันธมิตร โดยการลงทุนครั้งนี้ ถือเป็นการศึกษาโอกาสทางธุรกิจใหม่และสามารถขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มคนวัยทำงานที่เป็นแฟนคลับ Hello Kitty ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพ พร้อมกันนี้ ยังได้มีวางจำหน่ายสินค้ากล่องสุ่มลิขสิทธิ์และอาร์ตทอยส์จำนวนมาก เพื่อรองรับความต้องการของตลาด Blind Box และ Model Toys ที่เป็นเทรนด์มาแรงมากในปีนี้
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MOSHI กล่าวเพิ่มว่า ในช่วงส่งท้ายปี 2567 บริษัทฯ ได้เปิดตัวคอลเลกชันใหม่ Jukka and Friends ต้าวน้อนจระเข้และแก๊งเพื่อนสุดน่ารัก ซึ่งจะยกขบวนความคิ้วท์มาที่ร้าน Moshi Moshi โดยมีครบทั้ง หมอนรองคอ, ผ้าห่ม, กิ๊บ, พวงกุญแจ, พรม และอีกเพียบ! ราคาเริ่มต้นเพียง 39 บาทเท่านั้น เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป สามารถติดตามรายละเอียดข้อมูลสาขาร้าน Moshi Moshi ที่ร่วมรายการได้ที่ Facebook Fanpage Moshi Moshi: https://www.facebook.com/moshimoshi.jp และ ช่องทางออนไลน์ Shopee: https://shopee.co.th/moshimoshi_officialshop
อย่างไรก็ตาม คอลเลกชันทั้งหมดที่ได้ออกในปีนี้ จะช่วยเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าและสามารถกระตุ้นยอดขาย ผลักดันผลการดำเนินงานในปี 2567 ให้เติบโตได้เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 20% ขณะเดียวกันอัตราการเติบโตดังกล่าว ยังมาจากการที่ MOSHI มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและความยืดหยุ่น โดยนำเสนอสินค้าไลฟ์สไตล์คุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงได้ ประกอบกับมีการขยายสาขาให้ครอบคลุมกว่า 60 จังหวัด การพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ส่งผลดีต่อเติบโตของยอดขายจากร้านสาขาใหม่และสาขาเดิม โดยเฉพาะการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ในไตรมาส 4/67 ที่มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น โดยเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 20% (QTD) อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ พร้อมเดินหน้ายกระดับประสบการณ์ลูกค้า การเพิ่มการรับรู้แบรนด์ผ่านกิจกรรมการตลาด การปรับปรุงประสิทธิภาพต้นทุน การปรับสัดส่วนผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และการแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับความเป็นเลิศในห่วงโซ่อุปทานและความสามารถทางการตลาดที่แข็งแกร่ง เพื่อรักษาผลการดำเนินงานที่สม่ำเสมอและความสามารถในการแข่งขันในตลาด ขณะเดียวกัน ยังได้รับแรงสนับสนุนจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ทั้งการกลับมาของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศ ส่งผลดีต่อกำลังซื้อให้ฟื้นตัวตามไปด้วย
12524