หมวดหมู่: บริษัทจดทะเบียน

TRIS7 17


ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กร 'บ.ซิงเกอร์ประเทศไทย' ที่ 'BBB-' และเปลี่ยนแนวโน้ม เป็น 'Stable' จาก 'Negative'

      ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ 'BBB-' และปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น 'Stable' หรือ 'คงที่' จาก'Negative' หรือ 'ลบ' โดยการปรับแนวโน้มอันดับเครดิตสะท้อนถึงคุณภาพสินทรัพย์ เสถียรภาพของรายได้ และคุณภาพของผลประกอบการที่พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงฐานทุนที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ธุรกิจที่มีขนาดค่อนข้างเล็กและกลุ่มลูกค้าสินเชื่อเพื่อการบริโภครายย่อยและธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่มีความเสี่ยงค่อนข้างสูงเป็นปัจจัยลดทอนอันดับเครดิต

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

สถานะความเสี่ยงพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น

      การประเมินของทริสเรทติ้งสะท้อนถึงสถานะความเสี่ยงของซิงเกอร์ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง การตัดหนี้สูญและระบบการจัดเก็บหนี้ที่ดีขึ้นส่งผลให้อัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-performing loans-NPLs) ลดลง สำรองหนี้สูญที่เพิ่มสูงขึ้นก็ช่วยเพิ่มอัตราส่วนสำรองหนี้สูญให้แข็งแกร่งขึ้น ในขณะที่การรุกเข้าไปในตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ที่มีอัตราการชำระหนี้ล่าช้าน้อยกว่าก็ช่วยทำให้คณภาพสินทรัพย์โดยรวมแข็งแกร่งขึ้นและช่วยกระจายความเสี่ยงธุรกิจได้

      อัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ลดลงสู่ระดับ 6.5% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2563 จากระดับ 12.2% ในปีก่อน โดยยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ลดลง 24% การก่อตัวของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ก็ลดลงสู่ระดับ 9.6% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 จากระดับ 19.1% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 การตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มจำนวน 339 ล้านบาท ตามการบังคับใช้ครั้งแรกของมาตรฐานบัญชี TFRS9 ได้เพิ่มความแข็งแกร่งของอัตราส่วนสำรองหนี้สูญขึ้นสู่ระดับ 93% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2563 โดยอัตราส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากระดับ 25% ณ สิ้นปี 2562 ก่อนการบังคับใช้มาตรฐานบัญชี TFRS9

      แม้ว่า คุณภาพสินทรัพย์จะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น แต่ทริสเรทติ้งยังคาดว่าบริษัทจะได้รับผลกระทบด้านคุณภาพสินทรัพย์จากสภาพเศรษฐกิจที่อ่อนแออันเป็นผลกระทบที่เกิดจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19) เช่นเดียวกับสถาบันการเงินแห่งอื่น โดยประมาณการอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้จะอยู่ที่ระดับ 7%-8% และต้นทุนทางเครดิตจะอยู่ที่ระดับ 8%-9% ในช่วงปี 2563-2565 ซึ่งสะท้อนการเสื่อมถอยของคุณภาพสินเชื่อเช่าซื้อที่เพิ่มสูงขึ้นจากสัดส่วนสินเชื่อที่มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของความเสี่ยงด้านเครดิต (Underperforming หรือ Stage-2) และการผิดนัดชำระหนี้ที่เริ่มส่งสัญญาณเพิ่มสูงขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 แม้กระนั้น คุณภาพสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ยังอยู่ในระดับค่อนข้างคงที่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยมีสัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ระดับ 0.9% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2563

คุณภาพผลประกอบการดีขึ้น

      ทริสเรทติ้ง คาดว่าคุณภาพของผลประกอบการของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้นในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า นโยบายควบคุมราคาขายของตัวแทนจำหน่ายจะช่วยหนุนกำไรขั้นต้นของบริษัทให้อยู่ในระดับที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน ธุรกิจรายย่อยซึ่งมีพื้นที่ครอบคลุมทั่วประเทศประกอบกับการรุกเข้าสู่ตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ น่าจะช่วยสร้างผลตอบแทนจากการปล่อยกู้ที่มีการปรับค่าความเสี่ยงที่มั่นคงได้มากขึ้น ทริสเรทติ้ง ยังคาดว่า การขยายธุรกิจผ่านช่องทางแฟรนไชส์จะช่วยรักษาระดับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานให้อยู่ในระดับต่ำได้

      ทริสเรทติ้ง ประมาณการความสามารถในการทำกำไรของบริษัทซึ่งวัดโดยอัตราส่วนกำไรก่อนหักภาษีต่อสินทรัพย์เสี่ยงเฉลี่ยที่ระดับประมาณ 5.3% ในปี 2563 และ 4.1% ในปี 2564-2565 บริษัทสามารถปรับปรุงผลกำไรให้ดีขึ้นตั้งแต่ปี 2562 โดยมีอัตราส่วนกำไรก่อนหักภาษีต่อสินทรัพย์เสี่ยงเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 2.7% ในปี 2562 จากระดับ -1.1% ในปี 2561 โดยมีต้นทุนทางเครดิตที่ลดต่ำลง ประกอบกับกำไรขั้นต้นและประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้นเป็นปัจจัยหลัก

ธุรกิจกระจายตัวมากขึ้น

      สถานะทางธุรกิจของบริษัทสะท้อนถึงขนาดธุรกิจที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก ประกอบไปด้วยธุรกิจจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนแบบเงินผ่อน และการปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ซึ่งมุ่งเน้นผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อม โดยมีขนาดสินทรัพย์รวมของบริษัทมีมูลค่า 6.9 พันล้านบาท ณ เดือนมิถุนายน 2563 แม้ว่าบริษัทจะมุ่งขยายธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถเชิงพาณิชย์ในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่ยังคงมุ่งเน้นธุรกิจสินเชื่อเงินผ่อนสำหรับลูกค้ารายย่อย ซึ่งช่วยลดความกระจุกตัวของแหล่งรายได้และสินเชื่อ เครือข่ายทั่วประเทศของบริษัท

      ซึ่งอยู่ในช่วงของการขยายตัวประกอบด้วย 175 สาขา 1,360 แฟรนไชส์ และพนักงานขายกว่า 3,800 คน เป็นปัจจัยเกื้อหนุนความกระจายตัวของพื้นที่ครอบคลุมทางธุรกิจ ที่มาของรายได้หลักของบริษัทมาจากการขายเครื่องใช้ไฟฟ้า (ประมาณ 60% ของรายได้รวมในปี 2562) ตามมาด้วยรายได้จากดอกเบี้ย (ประมาณ 40%) นอกจากนี้สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ขนาดใหญ่ที่สุด 20 อันดับแรกมีสัดส่วนอยู่ที่ระดับ 25% ซึ่งเป็นระดับที่บริหารจัดการได้

เงินทุนแข็งแกร่ง

      ทริสเรทติ้ง คาดว่าระดับฐานทุนของบริษัทยังคงอยู่ในระดับแข็งแกร่งได้ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า โดยประมาณการอัตราส่วนเงินทุนที่ปรับความเสี่ยงที่ระดับ 17%-22% ในช่วงปี 2563-2565 แม้ว่าจะมีอัตราการขยายตัวของสินเชื่อในระดับสูง โดยประมาณการอัตราการเติบโตของรายได้จากการจำหน่ายสินค้าและการปล่อยสินเชื่อที่ระดับ 40%-50% ในปี 2563 ตามด้วยระดับ 10%-20% ในปี 2564-2565 การเติบโตที่แข็งแกร่งคาดว่า จะมาจากรายได้จากการจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าและการปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์

      และอัตราการจ่ายเงินปันผลตามนโยบายของบริษัทที่ระดับ 60% อีกด้วย ซิงเกอร์ได้ตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มเติมเพื่อรองรับมาตรฐานบัญชี TFRS9 เป็นมูลค่า 339 ล้านบาทโดยหักจากกำไรสะสม ณ ต้นปี 2563 ส่งผลให้อัตราส่วนเงินทุนที่ปรับความเสี่ยงลดลงสู่ระดับ 26.7% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2563 จากระดับ 33.0% ณ สิ้นปี 2562 อัตราการก่อหนี้ของบริษัทยังอยู่ในระดับปานกลาง ตามข้อกำหนดทางการเงินที่สำคัญของหุ้นกู้ บริษัทจำเป็นจะต้องดำรงอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นให้ต่ำกว่า 3 เท่า

แหล่งเงินทุนและสภาพคล่องเพียงพอ

      แหล่งเงินทุนที่เพียงพอของบริษัทสะท้อนถึงแหล่งเงินทุนที่มีความมั่นคงซึ่งเพียงพอต่อความต้องการใช้เงินทุนในระยะยาวของบริษัท ทริสเรทติ้งประมาณการอัตราส่วนแหล่งเงินทุนที่มีเสถียรภาพเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 100% ระหว่างปี 2562-2563 ซึ่งเป็นระดับที่ค่อนข้างสูง ณ เดือนมิถุนายน 2563 บริษัทมีตราสารหนี้คงค้างเป็นมูลค่า 3.6 พันล้านบาท โดยประมาณ 2 ใน 3 ของตราสารหนี้มีวันครบกำหนดชำระเกิน 1 ปี

      ทริสเรทติ้ง ยังคาดว่า แหล่งที่มาของสภาพคล่องที่พอเพียงและกระแสเงินสดจากสินเชื่อจะเพียงพอสำหรับการชำระคืนหนี้ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า นอกจากนี้บริษัทยังมีวงเงินสินเชื่อแบบมีเงื่อนไขผูกมัด (Committed Credit Facilities) จากสถาบันการเงินที่ยังไม่ได้เบิกใช้อยู่เป็นมูลค่า 466 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2563

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน (ในระหว่างปี 2563-2565)

  • การขยายตัวของสินเชื่อคงค้างจะอยู่ที่ระดับ 40% ในปี 2020 และ 17%-18% ต่อปีในปี 2564-2565
  • ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับ 13%-13.5%
  • ค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญจะอยู่ในระดับ 7%-8% ต่อปี

แนวโน้มอันดับเครดิต

      แนวโน้มอันดับเครดิต 'Stable' หรือ 'คงที่' สะท้อนถึงความเห็นของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถคงคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีอยู่อย่างต่อเนื่องได้ ในขณะที่คงระดับเงินทุนที่แข็งแกร่ง และคุณภาพของผลประกอบการที่ดีได้ในระยะปานกลาง และยังคาดว่าบริษัทจะสามารถบริหารจัดการวันครบกำหนดชำระหนี้และคงแหล่งสภาพคล่องที่เพียงพอไว้ได้

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

      ทริสเรทติ้ง อาจปรับลดอันดับเครดิต/แนวโน้มอันดับเครดิตลงหากคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทเสื่อมถอยลงอย่างมีนัยสำคัญ และ/หรือเงินทุนอ่อนแอลงอย่างมาก ทริสเรทติ้งยังสามารถปรับลดอันดับเครดิตลงหากแหล่งเงินทุนและสภาพคล่องมีการลดลงลงอย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย

ทั้งนี้ โอกาสในการปรับเพิ่มอันดับเครดิตในระยะใกล้มีจำกัด

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร, 17 กุมภาพันธ์ 2563

บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) (SINGER)

อันดับเครดิตองค์กร: BBB-

แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com

      ติดต่อ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500

      บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2563 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้

      ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

FBS728

EXNESS

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!