หมวดหมู่: บริษัทจดทะเบียน

FITCH12 20


ฟิทช์ ปรับแนวโน้มเครดิต บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย เป็นลบ คงอันดับเครดิตที่ ‘A+(tha)’

 

      ฟิทช์ เรทติ้งส์ – กรุงเทพฯ – 30 มกราคม 2563: บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ  SCC เป็นลบจากมีเสถียรภาพ  ในขณะเดียวกัน ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ระยะยาวของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC ที่ ‘A+(tha)’ อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิของบริษัทฯ ที่ ‘A+(tha)’ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น (National Short-term Rating) ที่ ‘F1(tha)’

     นอกจากนี้ ฟิทช์ประกาศจัดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long Term Rating) หุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิชุดใหม่ของ SCC – ชุดที่ 1/2563 มูลค่า 2.5 หมื่นล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2567 – ที่ระดับ ‘A+(tha)’  เงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ครั้งนี้จะนำไปใช้สำหรับชำระคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนด หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับเครดิตในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ SCC เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวมีสถานะเท่าเทียมกับหนี้ไม่มีหลักประกัน และไม่ด้อยสิทธิของ SCC และหุ้นกู้ดังกล่าวมีความด้อยสิทธิในเชิงโครงสร้าง (Structural Subordination) อยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากจำนวนหนี้สินที่มีหลักประกันและหนี้ที่มีลำดับสิทธิสูงกว่าของบริษัทในกลุ่ม SCC มีอยู่ในระดับที่จำกัด

        การปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ สะท้อนถึงความเสี่ยงจากอัตราส่วนหนี้สินของบริษัทฯ ที่เพิ่มสูงขึ้น   ฟิทช์คาดว่ากระแสเงินสดจากธุรกิจเคมิคอลส์ที่มีแนวโน้มอ่อนแอลง ประกอบกับค่าใช้จ่ายลงทุนที่มีภาระผูกพัน (Committed Capex) ที่อยู่ในระดับสูงในช่วงสามปีข้างหน้า น่าจะส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน (FFO adjusted net leverage) ของ SCC เพิ่มขึ้นไปอยู่ในระดับที่เกิน 3.0 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่ไม่สอดคล้องกับอันดับเครดิตในปัจจุบันของบริษัทฯ ในช่วงที่มีการลงทุนขยายธุรกิจ แผนการเพิ่มทุนผ่านการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ของบริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ซึ่งได้มีการยื่นคำขอต่อสำานักงาน ก.ล.ต. แล้วเมื่อเดือนธันวาคม 2562 นั้น น่าจะช่วยลดแรงกดดันต่ออัตราส่วนหนี้สินของบริษัทฯ ในช่วงที่มีการใช้เงินลงทุนสูง และทำให้อัตราส่วนหนี้สินฯ ของบริษัทฯ กลับมาอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับอันดับเครดิตได้ โดยผลสำเร็จของแผน IPO และการใช้เงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนดังกล่าวเพื่อชำระหนี้หรือเพื่อการลงทุนต่อเนื่อง จะเป็นปัจจัยที่กำหนดอัตราการลดลงของอัตราส่วนหนี้สินของบริษัทฯ ในช่วงหนึ่งถึงสามปีข้างหน้า

ปัจจัยที่มีผลต่ออันดับเครดิต

       กระแสเงินสดจากธุรกิจเคมิคอลส์ที่อ่อนแอลง – ธุรกิจเคมิคอลส์ที่อ่อนแอลงอย่างรุนแรงมากกว่าที่คาด น่าจะส่งผลให้ กระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน (FFO) ของ SCC ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 5.0-5.5 หมื่นล้านบาทต่อปี จากที่เคยคาดการณ์ไว้เดิมที่ 6.0-6.5 หมื่นล้านบาทต่อปี ในช่วงปี 2563-2564 (ปี 2561 อยู่ที่ระดับ 6.3 หมื่นล้านบาท) ซึ่งเป็นผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกากับจีน อย่างไรก็ตาม ธุรกิจเคมิคอลส์ที่อ่อนแอลงน่าจะได้รับการชดเชยจากการเติบโตของธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง รวมถึงธุรกิจแพคเกจจิ้งของบริษัทฯ ซึ่งน่าจะส่งผลให้รายได้และกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ของบริษัทฯ ยังคงเติบโตในอัตราร้อยละ 3-4 ในปี 2563

      การฟื้นตัวเล็กน้อยของธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างและกระแสเงินสดที่เพิ่มสูงขึ้นจากการขยายธุรกิจแพคเกจจิ้งช่วยลดผลกระทบจากธุรกิจเคมิคอลส์ที่อ่อนแอลงในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2562 ส่งผลให้ EBITDA ลดลงในอัตราร้อยละ 19 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลประกอบการของธุรกิจเคมิคอลส์ยังคงอ่อนแอต่อเนื่องในไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 เนื่องจากการปรับตัวลดลงของส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับวัตถุดิบของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ฟิทช์คาดว่าความต้องการสินค้าจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป จากความตึงเตรียดทางการค้าโลกที่ผ่อนคลายและราคาน้ำมันดิบที่ลดลงในช่วงสามปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม อัตราส่วน EBITDA ต่อรายได้ (EBITDA Margin) ของธุรกิจเคมิคอลส์ยังคงถูกกดดันจากอุปทานในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มโพลีโอเลฟินส์

       อัตราส่วนหนี้สินอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง – ฟิทช์คาดว่า FFO adjusted net leverage ของ SCC จะเพิ่มขึ้นและคงอยู่ในระดับสูงกว่า 3.0 เท่า ในปี 2563-2565 (อัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 2.9 เท่า ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2562) ซึ่งเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายลงทุน (Committed Capex) ที่สูงกว่า 17.5 หมื่นล้านบาท ในช่วงปี 2563-2566 โดยส่วนใหญ่เป็นเงินลงทุนสำหรับโครงการปิโตรเคมีที่เวียดนาม (Long Son  Petrochemicals: LSP) ซึ่งจะยังไม่สร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานจนกระทั่งปี 2566  อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนหนี้สินที่อยู่ในระดับสูงนี้อาจลดลงได้ หากบริษัทฯ นำเงินที่ได้รับจากการ IPO ไปชำระหนี้

        การกระจายความเสี่ยงในธุรกิจที่หลากหลาย – อันดับเครดิตของ SCC ได้รับการสนับสนุนจากการที่บริษัทฯ มีการกระจายความเสี่ยงที่ดี ในด้านความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และในทางภูมิศาสตร์ สำหรับธุรกิจหลักของบริษัทฯ ได้แก่ ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ธุรกิจเคมิคอลส์ และธุรกิจแพคเกจจิ้ง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงเฉพาะที่อาจเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การกระจายความเสี่ยงดังกล่าวส่งผลให้กระแสเงินสดของบริษัทฯ มีความสม่ำเสมอมากขึ้น ซึ่งรวมถึงภาวะอุตสาหกรรมขาลงของธุรกิจเคมิคอลส์ในรอบนี้ ที่บริษัทฯ สามารถบรรเทาผลกระทบบางส่วนได้จากการเติบโตของธุรกิจแพคเกจจิ้ง 

     ในอดีตที่ผ่านมา ความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในตลาดภายในประเทศที่แข็งแกร่งได้ช่วยชดเชยผลกระทบจากวัฏจักรขาลงของธุรกิจเคมิคอลส์ในช่วงปี 2554-2555 ในขณะที่ผลกำไรจากธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างที่ลดลงในช่วงปี 2558-2561 ได้รับการชดเชยจากวัฏจักรธุรกิจขาขึ้นของธุรกิจเคมิคอลส์และการขยายตัวของธุรกิจแพคเกจจิ้ง  

        ธุรกิจหลักทั้งหมดของ SCC มีการกระจายตัวในหลายประเทศในอาเซียน ฟิทช์คาดว่าสัดส่วนรายได้จากการดำเนินธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 20-25 ในช่วงสามถึงห้าปีข้างหน้า (ปี 2561 ประมาณร้อยละ 15)  โดยได้รับการสนับสนุนจากผลประกอบการของโรงงานปูนซีเมนต์ในอาเซียนที่เติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป และการขยายกำลังการผลิตของธุรกิจแพคเกจจิ้งในอาเซียน  นอกจากนี้ SCC ยังมีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกไปยังตลาดโลกอยู่ที่ประมาณร้อยละ 24 ของรายได้รวมในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2562

        สถานะความเป็นผู้นำตลาด – SCC เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อันดับเครดิตของ SCC  ได้รับการสนับสนุนจากสถานะความเป็นผู้นำตลาดในธุรกิจหลักของบริษัทฯ โดย SCC มีกำลังการผลิตและส่วนแบ่งการตลาดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและในหลายประเทศในอาเซียน สำหรับกลุ่มสินค้าปูนซีเมนต์ กระเบื้องเซรามิก เคมีภัณฑ์ขั้นปลาย (โพลีโอเลฟินส์และพีวีซี) และกระดาษบรรจุภัณฑ์

        ความผันผวนของธุรกิจ – อันดับเครดิตยังพิจารณารวมถึงการที่ SCC ต้องเผชิญกับความผันผวนของธุรกิจเคมิคอลส์  ทั้งนี้ SCC มีอำนาจในการกำหนดราคาที่จำกัด เนื่องจากสินค้าหลักส่วนใหญ่เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งถูกกำหนดราคาโดยอุปสงค์และอุปทานในตลาดโลก

การกำหนดอันดับเครดิตโดยสรุป

       SCC มีสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งกว่าบริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) (SCCC, ‘A(tha)’/แนวโน้มเครดิตเป็นลบ) ซึ่งอยู่ในธุรกิจวัสดุก่อสร้าง โดย SCC มีส่วนแบ่งทางการตลาดปูนซีเมนต์ในประเทศที่สูงกว่า สถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งกว่าของ SCC ซึ่งเป็นผลจากขนาดธุรกิจที่ใหญ่กว่ามาก และมีการกระจายความเสี่ยงในหลากหลายธุรกิจ ทำให้ SCC มีอันดับเครดิตที่สูงกว่า SCCC หนึ่งอันดับ แม้ว่า SCC จะมีอัตราส่วนหนี้สินสูงกว่าเล็กน้อย ทั้งนี้ ทั้งสองบริษัทมีแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ ซึ่งสะท้อนถึงอัตราส่วนหนี้สินที่อยู่ในระดับสูง อันเป็นผลจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่อ่อนแอลงและแผนการลงทุนขนาดใหญ่

       เมื่อเปรียบเทียบกับ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC, อันดับเครดิต ‘AA+(tha)’ แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ, อันดับเครดิตโดยลำพัง ‘aa-(tha)’) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจปิโตรเคมีและโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย   SCC มีการกระจายความเสี่ยงในธุรกิจที่หลากหลายกว่า ซึ่งทำให้ SCC มีความเสี่ยงต่อความผันผวนของอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์น้อยกว่า อย่างไรก็ตาม PTTGC มีอัตราส่วนหนี้สินที่ต่ำกว่า จึงมีอันดับเครดิตที่สูงกว่า SCC

สมมุติฐานที่สำคัญ

สมมุติฐานที่สำคัญของฟิทช์ที่ใช้ในการประมาณการ

-              รายได้เติบโตในอัตราร้อยละ 3-4 ในปี 2563 โดยการเพิ่มขึ้นของรายได้มาจากธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง และธุรกิจแพคเกจจิ้งเป็นหลัก  ในขณะที่รายได้จากธุรกิจเคมิคอลส์คาดว่าจะลดลง อัตราการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 7-10 ในปี 2564-2565  โดยได้รับการสนับสนุนจากความต้องการสินค้าที่คาดว่าจะฟื้นตัวในทุกธุรกิจและการขยายกำลังการผลิต

-         EBITDA Margin อยู่ที่ระดับร้อยละ 12-13 ในปี 2562-2564 (ปี 2561 อยู่ที่ร้อยละ 14)

-         ค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุน (Committed Capex เป็นหลัก) ประมาณ 2.5 แสนล้านบาท ในช่วงปี 2562-2566

-         อัตราการจ่ายเงินปันผลต่อกำไรสุทธิ (Dividend Payout) ที่ระดับร้อยละ 40-50 ในปี 2562-2564 (ปี 2561 อยู่ที่ร้อยละ 50)

 

ปัจจัยที่อาจมีผลกับอันดับเครดิตในอนาคต

ปัจจัยบวก: 

-        แนวโน้มอันดับเครดิตอาจกลับมามีเสถียรภาพได้หาก FFO adjusted net leverage ของ SCC สามารถปรับตัวลดลงมาอยู่ในระดับประมาณ 3 เท่า ได้ในช่วงปี 2563-2565 (ตามประมาณการ) โดยอาจเกิดจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่สูงกว่าที่คาด หรือกระแสเงินสดจากการเพิ่มทุน

ปัจจัยลบ:

-       สถานะทางธุรกิจและการเงินของบริษัทฯ ที่อ่อนแอลง ซึ่งส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน (FFO adjusted net leverage) อยู่ในระดับสูงกว่าระดับ 3 เท่า ในช่วงที่มีการลงทุนขยายธุรกิจ หรือสูงกว่า 2 เท่า อย่างต่อเนื่อง ในช่วงที่ดำเนินธุรกิจปกติโดยไม่มีการลงทุน

สภาพคล่อง

      สภาพคล่องอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถบริหารจัดการได้: สภาพคล่องของ SCC ได้รับการสนับสนุนจากเงินสดและเงินลงทุนที่มีสภาพคล่องเทียบเท่าเงินสด (ตามการปรับปรุงตัวเลขโดยฟิทช์) จำนวนประมาณ  3.1 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นเดือนกันยายน 2562  กระแสเงินสดจากการดำเนินงานในระดับประมาณ 5 หมื่นล้านบาทต่อปี  และความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ผ่านตลาดทุนและตลาดตราสารหนี้ในประเทศ รวมถึงสินเชื่อจากสถาบันการเงิน  สภาพคล่องของ SCC ในช่วงสองปีข้างหน้ายังต้องพึ่งพิงแหล่งเงินทุนจากภายนอกเนื่องจากแผนค่าใช้จ่ายลงทุนที่สูง อย่างไรก็ตาม SCC ได้รับการสนับสนุนวงเงินกู้จากสถาบันการเงินสำหรับโครงการลงทุนหลักแล้ว

               ณ สิ้นเดือนกันยายน 2562 บริษัทฯ มีหนี้สินทั้งหมดจำนวน 2.2 แสนล้านบาท โดยร้อยละ 84 เป็นหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิ ในสกุลเงินบาท และประมาณร้อยละ 30 ของหนี้สินทั้งหมดจะถึงกำหนดชำระในช่วง 12 เดือนข้างหน้า

Fitch Revises Siam Cement's Outlook to Negative; Affirms at 'A+(tha)'

Fitch Ratings - Bangkok - 30 January 2020:

      Fitch Ratings (Thailand) has revised The Siam Cement Public Company Limited's (SCC) Outlook to Negative from Stable. The agency has also affirmed SCC's National Long-Term Rating and senior unsecured rating at 'A+(tha)' and its National Short-Term Rating at 'F1(tha)'.

       At the same time, Fitch has assigned a National Long-Term Rating of 'A+(tha)' to the company's proposed senior unsecured debentures - No.1/2563 - of up to THB25 billion due 2024. The proceeds will be used to refinance maturing debentures. The notes are rated at the same level as SCC's National Long-Term Rating as they constitute direct, unsecured, unconditional and unsubordinated obligations of the company, and because of the debentures' low structural subordination on account of SCC's limited secured- and prior-ranking debt.

        The Negative Outlook reflects elevated risks associated with SCC's high leverage. Fitch expects weaker cash flow from the chemicals business and a high committed capex plan over the next three years to result in funds from operations (FFO) adjusted net leverage staying above 3.0x, a level that is no longer consistent with its rating in its expansion phase. An equity-raising plan via an IPO of subsidiary SCG Packaging Public Company Limited, which was filed with the Thai Securities and Exchange Commission in December 2019, can alleviate the pressure on SCC's leverage profile during the period of heavy committed capex and return the company's leverage profile to the parameters of its rating. The success of the IPO and SCC's use of the proceeds, in terms of directing cash to debt repayment or re-investment in the business, will determine the pace of deleveraging.

KEY RATING DRIVERS

        Weaker Cash Flow from Chemicals: The decline of the chemicals business has been more severe than we expected. SCC's FFO is likely to drop to around THB50 billion-THB55 billion a year against our previous expectation of THB60 billion-THB65 billion a year in 2020-2021 (2018: THB63 billion) as the division was affected by the US-China trade war. We expect the weakness in the chemicals business to be offset by its cement and building materials (CBM) and packaging businesses. Consequently, we expect revenue and EBITDA to rise by around 3%-4% in 2020.

         A mild improvement in the CBM industry and increasing contribution from the expansion in its packaging business cushioned the impact from the chemicals downturn in 9M19 as EBITDA fell 19% yoy. The company's chemicals performance remained weak in 4Q19 due to a compressed product spread. We expect demand to gradually recover as global trade tensions ease and crude oil prices drop over the next three years, but its chemicals EBITDA margin will remain pressured by increasing supply, particularly polyolefin products.

     Leverage to Stay High: Fitch expects SCC's FFO adjusted net leverage to stay above 3.0x in 2020-2022 (end-9M19: 2.9x) due to high committed capex of around THB175 billion over 2020-2023. The majority of the capex will be spent on the Long Son Petrochemicals project in Vietnam, which will not generate cash inflow until 2023. The elevated leverage could be reduced by the receipt of the IPO proceeds if the company directs the funds to the repayment of debt.

         Well-Diversified Businesses: SCC's ratings are supported by both product and geographical diversity of its core CBM, chemicals and packaging businesses. This helps to mitigate some sector-specific risks. SCC has benefitted from the diversification, which has smoothed out the cash flow in several years, including the current chemicals downturn as the impact was partly mitigated by the growth of its packaging business. Strong domestic cement demand compensated for the previous trough in petrochemicals demand in 2011-2012, and the shrinking cement earnings over 2015-2018 were offset by the upturn in the chemicals segment and the expanding packaging business.

         SCC has diversified its footprint across ASEAN countries for all its key businesses and Fitch expects SCC's revenue generation from the region to increase to 20%-25% over the medium term (2018: 15%). This rise will be supported by gradual improvement in regional cement operations and expansion of the packaging business in ASEAN. SCC also exports to global markets, which accounted for 24% of total sales in 9M19.

         Leading Market Position: SCC is one of Thailand's largest conglomerates. Its ratings are underpinned by its leading market position in its core products. SCC has the largest capacity and market share in cement, ceramic tiles, downstream chemicals such as polyolefins and polyvinyl chloride, and packaging paper in the domestic market and several ASEAN countries.

          Product Cyclicality: The ratings also take into account SCC's inherent exposure to the cyclicality of the chemicals business. Furthermore, SCC has limited ability to influence the pricing of many of its products in light of their commoditised nature as prices are determined by global demand and supply.

DERIVATION SUMMARY

        SCC has a stronger business profile than its closest peer in Thailand's building-materials sector, Siam City Cement Public Company Limited (SCCC, A(tha)/Negative), in light of SCC's larger domestic cement market share. SCC's stronger business profile, taking into account the company's significantly larger operating scale and diversification across various businesses, warrants the one-notch higher ratings. This is despite SCC's slightly higher leverage. The leverage profiles of both SCC and SCCC are pressured by weakened operating cash flow with heavy investment, reflected by their Negative Outlook.

         SCC has a smaller chemicals business than PTT Global Chemical Public Company Limited (PTTGC, AA+(tha)/Stable, Standalone Credit Profile of aa-(tha)), the largest integrated refining and petrochemical operator in Thailand. However, SCC has broader diversification across industries, which reduces its exposure to volatility in the chemicals industry. Nevertheless, PTTGC has a more conservative financial profile, resulting in a higher rating.

KEY ASSUMPTIONS

Fitch's Key Assumptions Within Our Rating Case for the Issuer

               - Consolidated revenue to increase by 3%-4% in 2020, mainly from CBM and packaging while we expect revenue from the chemicals business to drop.

               - Consolidated revenue growth to pick up to 7%-10% a year in 2021-2022, supported by demand growth in its segments and capacity expansion.

               - EBITDA margin to decline to 12%-13% in 2019-2021 (2018: 14%)

               - Five-year capex (mainly committed plan) of about THB250 billion (2019-2023)

               - Dividend payout ratio of 40%-50% in 2019-2021 (2018: 50%)

RATING SENSITIVITIES

        Developments That May, Individually or Collectively, Lead to Positive Rating Action

        - The rating Outlook could be revised to Stable if SCC's FFO adjusted net leverage can be sustained at around 3x during 2020-2022 on a projected basis, provided it has stronger-than-expected operating cash flow or cash inflow from the equity injection.

        Developments That May, Individually or Collectively, Lead to Negative Rating Action

        - A weakening of the company's business or financial profile resulting in FFO adjusted net leverage at above 3.0x during a business expansion phase, or above 2.0x for a sustained period during the normal run of business.

LIQUIDITY AND DEBT STRUCTURE

     Manageable Liquidity: SCC's liquidity is supported by cash and Fitch-defined liquid investments of about THB31 billion at end-September 2019, cash flow from operations of about THB50 billion a year, and strong refinancing ability through local debt-capital markets and bank funding. SCC's liquidity over the next two years is likely to rely on external funding because of its large capex. However, SCC has secured bank loans for its major committed projects.

       Total debt was THB216 billion at end- September 2019, 84% of which was Thai baht-denominated senior unsecured debentures. About 30% of total debt will mature in the next 12 months.

Additional information is available on www.fitchratings.com

FITCH RATINGS ANALYSTS

Primary Rating Analyst

Nichaya Seamanontaprinya

Associate Director

+66 2 108 0161

Fitch Ratings (Thailand) Limited

Park Ventures, Level 17 57 Wireless Road, Lumpini

Bangkok 10330

Secondary Rating Analyst

Somruedee Chaiworarat

Director

+66 2 108 0160

Committee Chairperson

Hasira De Silva, CFA

Senior Director

+65 6796 7240

******************************************

 

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!