หมวดหมู่: บล.

Fitch


ฟิทช์ ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเครดิตของ บล. เคทีบีเอสที เป็น ‘มีเสถียรภาพ’ และคงอันดับเครดิตที่ ‘BB(tha)’

       ฟิทช์ เรทติ้งส์ – กรุงเทพฯ– 18 มกราคม 2564: ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating)  ของบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) หรือ KTBSTSEC เป็น "แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ" จาก "แนวโน้มอันดับเครดิตแป็นลบ" พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ ‘BB(tha)’ และคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘B(tha)’ รายละเอียดอันดับเครดิตทั้งหมดได้แสดงไว้ในส่วนท้าย

         การปรับเป็น ‘แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ’ เนื่องจากผลประกอบการของ KTBSTSEC ยังคงมีความยืดหยุ่นและอยู่ในเกณฑ์ดีในช่วงปี 2563 แม้ต้องเผชิญกับภาวะชะงักงันทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสในประเทศไทย โดย KTBSTSEC มีกำไรสุทธิ 25.8 ล้านบาท และมีอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเฉลี่ยที่ 9.8% ณ สิ้น ครึ่งแรกของปี 2563 (ปี 2562: 46.6 ล้านบาท และ 8.8%) โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากทัศนคตินักลงทุน (investor sentiment) ที่ดีกว่าคาดการณ์ไว้และปริมาณการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ที่ปรับตัวสูงขึ้น

        ฟิทช์ คาดว่า แนวโน้มของผลประกอบการของบริษัทจะยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องสำหรับครึ่งหลังของปี 2563 สอดคล้องกับส่วนแบ่งทางการตลาดในด้านมูลค่าการซื้อ  (ไม่รวมบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ หรือ proprietary trading) ที่เพิ่มขึ้นเป็น 1.3% ณ สิ้นงวด 9 เดือนแรกของปี 2563 จาก 1.1% ณ สิ้นปี 2562 และปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ที่ค่อนข้างสูงรวมทั้งบรรยากาศการลงทุนยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี

        นอกจากนี้ การปรับแนวโน้มอันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความคาดหมายของฟิทช์ที่มองว่าสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานของอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ของไทยน่าจะมีระดับความเสี่ยงที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากฟิทช์คาดว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจน่าจะเริ่มฟื้นตัวในปี 2564 และปี 2565

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

อันดับเครดิตภายในประเทศ

       อันดับเครดิตภายในประเทศของ KTBSTSEC สะท้อนถึงเครือข่ายธุรกิจหลักทรัพย์ (franchise) ในประเทศไทยที่ดำเนินงานอย่างอิสระโดยไม่ได้พึ่งพาบริษัทแม่และยังมีขนาดค่อนข้างเล็ก โดยบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดในด้านมูลค่าการซื้อขายในช่วงหลายปีที่ผ่านมาสูงกว่า 1% เพียงเล็กน้อย  นอกจากนี้อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงฐานเงินทุนที่ยังคงมีขนาดค่อนข้างเล็กและมีระดับหนี้สินสูงกว่าเมื่อเทียบกับบริษัทหลักทรัพย์รายอื่นที่จัดอันดับเครดิต โดยฟิทช์ และในระยะสั้นบริษัทยังคงมีความเสี่ยงในด้านความสามารถในด้านการระดมเงินและสภาพคล่อง (funding and liquidity) เนื่องจากผลการระดมทุนของบริษัทที่ผ่านมายังไม่ได้รับการทดสอบเพียงพอว่ามีเสถียรภาพและสม่ำเสมอและยังมีประวัติในการระดมเงินในตลาดทุนที่ค่อนข้างจำกัด ทั้งนี้บริษัทได้มีการปรับโครงสร้างของกลุ่ม โดยได้จัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งขึ้น (บริษัท เคทีบีเอสที โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)) ซึ่งอาจจะช่วยให้ KTBSTSEC มีความยืดหยุ่นทางด้านการระดมเงินมากขึ้นได้ในระยะปานกลาง

หุ้นกู้ด้อยสิทธิ

        อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของหุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันที่ B(tha) พิจารณาจากอันดับเครดิตภายในประเทศในกรณีที่หุ้นกู้ดังกล่าวเป็นหุ้นกู้ระยะยาว (implied National Long-Term Rating) ซึ่งจะได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ BB-(tha) และจะเทียบเคียงมาเป็นอันดับเครดิตระยะสั้น ทั้งนี้ การเทียบเคียงดังกล่าวเป็นไปตามเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตระยะสั้นของฟิทช์ (Non-Bank Financial Institutions Rating Criteria)

         อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิในกรณีที่เป็นอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ BB-(tha) นั้นเป็นระดับที่ต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KTBSTSEC อยู่ 1 อันดับ เพื่อสะท้อนถึงความเสี่ยงของการขาดทุนจากการชำระคืนเงินกู้ (loss severity risks) ของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีมากกว่าเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ที่ไม่ด้อยสิทธิ ซึ่งเป็นแนวทางการพิจาณาอันดับเครดิตที่สอดคล้องกับเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตของฟิทช์ (Corporate Hybrids Treatment and Notching Criteria) 

        ทั้งนี้ ความเสี่ยงดังกล่าวเป็นผลมาจากสถานะด้อยสิทธิของหุ้นกู้ โดยผู้ถือหุ้นกู้จะมีลำดับสิทธิในการเรียกร้อง (priority of claims) ด้อยกว่าเจ้าหนี้สามัญ ฟิทช์ไม่ได้ปรับลดอันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวเพิ่มเติม เนื่องจากไม่มีคุณสมบัติรองรับผลขาดทุนระหว่างการดำเนินกิจการ (going-concern loss absorption features) และไม่มีคุณสมบัติการแปลงเป็นทุน (equity conversion)   

        สำหรับ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้จากประกาศหัวข้อ ‘Fitch Rates KTB Securities' THB Short-Term Subordinated Debenture 'B(tha)’ ลงวันที่ 14 กันยายน 2563

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

       ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

อันดับเครดิตภายในประเทศของ KTBSTSEC อาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับ หากบริษัทยังคงแสดงให้เห็นถึงการปรับตัวดีขึ้นของผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องในระยะปานกลาง โดยมีปัจจัยหลักมาจากโครงสร้างบริษัท (company profile) ที่ปรับตัวแข็งแกร่งขึ้นโดยมิใช่การเพิ่มระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ตัวอย่างเช่นหากอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเฉลี่ยปรับตัวมาอยู่ในระดับที่สูงกว่า 10% อย่างต่อเนื่องและมีการปรับตัวอย่างยั่งยืนในด้านขนาดธุรกิจและความแข็งแกร่งของเครือข่ายการดำเนินธุรกิจในประเทศ (franchise) ปัจจัยดังกล่าวน่าจะเป็นปัจจัยบวกต่ออันดับเครดิต

       อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของหุ้นกู้ด้อยสิทธิจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KTBSTSEC ซึ่งเป็นอันดับเครดิตอ้างอิง แต่อย่างไรก็ตามโอกาสที่หุ้นกู้ด้อยสิทธิจะได้รับการปรับเพิ่มอันดับมีความเป็นไปได้น้อย ยกเว้น KTBSTSEC ได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตขึ้นไปหลายอันดับจนสูงกว่า ‘BBB(tha)’

       ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

หากแนวโน้มการปรับตัวดีขึ้นของฐานะทางการเงินของ KTBSTSEC ที่ผ่านมา มีการกลับตัวเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่แย่ลงอย่างมีนัยสำคัญ เช่น ในด้านฐานะเงินทุน ด้านอัตรากำไรที่ลดลง หรือ การลดลงของสภาพคล่อง ซึ่งเป็นระดับที่มากกว่าการคาดการณ์ของฟิทช์และแนวโน้มของอุตสาหกรรมโดยรวม ตัวอย่างเช่น หาก KTBSTSEC มีผลประกอบการขาดทุน หรือมีสัญญาณที่บ่งชี้ว่าความเชื่อมั่นของเจ้าหนี้มีการปรับตัวลดลง เช่น ในกรณีที่บริษัทต้องเผชิญกับความท้าทายในการต่ออายุเงินกู้ยืม (roll over maturing debt) นอกจากนี้สภาวะแวดล้อมในการดำเนินงานที่แย่ลงเป็นระยะเวลาต่อเนื่องหรือภาวะการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงขึ้น อาจะส่งผลกระทบในเชิงลงต่ออันดับเครดิตของบริษัทได้เช่นกัน  เนื่องจากบริษัทยังมีเครือข่ายธุรกิจหลักทรัพย์ที่มีขนาดจำกัด

          การปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KTBSTSEC ลงไปในกลุ่มอันดับเครดิต ‘B(tha)’ จะส่งผลให้อันดับเครดิตระยะสั้นของหุ้นกู้ด้อยสิทธิถูกปรับลดอันดับเครดิต

รายละเอียดอันดับเครดิตทั้งหมด มีดังนี้:

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับเครดิต ที่ ‘BB(tha)’ ปรับเป็น แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

จาก แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับเครดิต ที่ ‘B(tha)’

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นของหุ้นกู้ด้อยสิทธิ คงอันดับเครดิตที่ ‘B(tha)’

ติดต่อ

Primary Analysts

พชร  ศรายุทธ

Director                                                                                                        

+662 108 0152

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด

อาคารปาร์คเวนเชอร์ ชั้น 17

57 ถนน วิทยุ ลุมพินี

ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330

จินดารัตน์ สิริสิทธิโชติ

Associate Director

+662 108 0153

Committee Chairperson

Mark Young

Managing Director

+44 20 3530 1318

ข้อมูลเพิ่มเติมหาได้ที่ www.fitchratings.com

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

FBS728

EXNESS

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!