หมวดหมู่: ตลาดหลักทรัพย์
 ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งตัว ตามข้อมูล GDP จีนเช้านี้ ,จับตาการเมือง-สถานการณ์โควิดในปท.stock inside
     นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มองว่าการเคลื่อนไหวขึ้นอยู่กับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/63 ของจีนที่จะออกมาในเช้านี้ ซึ่งถ้าออกมาดีก็จะทำให้ตลาดเป็นบวกได้ แต่ถ้าออกมาไม่ดีเชื่อว่าตลาดก็จะอ่อนตัวลงแค่เล็กน้อย เนื่องจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่จะประกาศออกมาดี ทั้งในไทย และสหรัฐฯ โดยเมื่อวานนี้หุ้น DTAC ประกาศงบการเงินไตรมาส 2/63 ออกมาดีกว่าคาด และบริษัทในสหรัฐฯก็ประกาศงบฯดีกว่าคาดเช่นกัน อีกทั้งยังมีปัจจัยบวกจากความคืบหน้าเรื่องวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ด้วย
     อย่างไรก็ดี การปรับตัวขึ้นของดัชนีหุ้นไทยอาจจะจำกัดและยังมีโอกาสที่จะปรับตัวลงได้ เนื่องจากปัจจัยในประเทศที่ดูจะมีอิทธิพลในช่วงนี้ ทั้งเรื่องสถานกาณณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในไทย และปัจจัยการเมืองที่จะต้องจับตาการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร
      ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ในช่วงรอดู GDP ของจีนที่จะประกาศเช้านี้ พร้อมให้แนวรับ 1,340-1,330 จุด ส่วนแนวต้าน 1,365-1,370 จุด ล่าสุดสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/63 ขยายตัว 3.2% ซึ่งฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่หดตัวลง 6.8% ในไตรมาส 1 และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัวเพียง 2.5%
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (15 ก.ค.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,870.10 จุด เพิ่มขึ้น 227.51 จุด (+0.85%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,226.56 จุด เพิ่มขึ้น 29.04 จุด (+0.91%) ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,550.49 จุด เพิ่มขึ้น 61.91 จุด (+0.59%)
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 37.54 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 4.94 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 67.82 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 29.81 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 1.42 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 3.03 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.24 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (15 ก.ค.63) 1,354.31 จุด เพิ่มขึ้น 13.24 จุด (+0.99%)
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,349.01 ล้านบาท เมื่อวันที่ 15 ก.ค.63
ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (15 ก.ค.63) ปิดที่ 41.20 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 91 เซนต์ หรือ 2.3%
ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (15 ก.ค.) อยู่ที่ -0.81 ดอลลาร์/บาร์เรล
เงินบาทเปิด 31.60 อ่อนค่าตามแรงซื้อดอลล์ มองกรอบวันนี้ 31.55-31.70
ยอดผู้ลงทะเบียน "เราเที่ยวด้วยกัน" วันแรกเฉียด 2 ล้านราย สศค. ย้ำให้ยืนยันตัวตนบนแอปฯ เป๋าตังภายใน 3 วันทำการ เมื่อได้รับเอสเอ็มเอสแจ้ง ขณะที่การจองห้องพักเริ่มได้ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 18 ก.ค. 63 เป็นต้นไป โดยต้องจองล่วงหน้า 3 วันก่อนเข้าพัก ส่วนการได้รับสิทธิจะเกิดขึ้นเมื่อมีการจองห้องพักและชำระเงิน 60% แล้ว
"สมคิด" แจ้ง "บิ๊กตู่" ขอลาออกจากตำแหน่งรองนายกฯ แล้ว อ้างเหตุผลเรื่องสุขภาพ ส่วน รมต.สี่กุมารเตรียมยื่นหนังสือไขก๊อกเช้าวันนี้ (16 ก.ค.) เพื่อเปิดทางให้ปรับคณะรัฐมนตรี "บิ๊กตู่" เผยรับทราบข่าวการลาออกแล้ว แต่ยังไม่เห็นหนังสือลาออก ขณะที่คณะทำงาน "สมคิด" ทยอยเก็บของใช้ส่วนตัวออกจากทำเนียบฯ ด้าน "อุตตม" ยืนยันเตรียมยื่นลาออกจากตำแหน่ง รมต. พร้อม "สมคิด-สนธิรัตน์-สุวิทย์-กอบศักดิ์" จริง เตรียมร่วมแถลงความชัดเจน
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการร้องเรียนจากประชาชนถึงสถานการณ์ราคาหมูเนื้อแดงในหลายพื้นที่ ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคาล่าสุดเพิ่มขึ้นจากกิโลกรัม (กก.) ละ 150-160 บาท เป็น กก.ละ 170-180 บาท เนื่องจากราคาหมูเป็นปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น กก.ละ 86-87 บาท สูงกว่าราคาเดิมที่กรมการค้าภายในเคยตกลงไว้กับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติว่าจะคุมราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มไม่ให้เกิน กก.ละ 80 บาท จึงเป็นสาเหตุให้ราคาหมูเนื้อแดงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และกลับมาทำให้ราคาเนื้อหมูแพงสุดในรอบ 10 ปี
9 แบงก์รัฐผนึกกำลังประคองลูกค้าฝ่าโควิด ออกมาตรการเพิ่มเติมทั้งพักชำระหนี้ ลดดอกเบี้ย ให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ โดยครึ่งแรกช่วยไปแล้ว 11.16 ล้านราย วงเงินสินเชื่อรวม 3.78 ล้านล้านบาท ก่อนขยายไปถึงต.ค. หรือสิ้นปี
*หุ้นเด่นวันนี้
CPF (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 36.25 บาท ได้ Sentiment บวกจากค่าเงินบาทอ่อนค่า ด้านผลประกอบการคาดมีกำไรปกติของ Q2/63 ที่ 5.6 พันล้านบาท (+38% yoy, -10% qoq) โดยมีปัจจัยหนุนจากราคาหมูในเวียดนามที่สูงขึ้น 110% yoy แต่ลดลง 2% qoq และไตรมาสนี้มี Stock gain (Biological gain) ใน 2Q63F จะอยู่ที่ราว 0.9 พันล้านบาท ช่วยหนุนกำไรสุทธิสู่ระดับ 6.6 พันล้านบาท (+58% yoy, +6% qoq)
DTAC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 50 บาท กำไรดีกว่าคาดเพราะคุมต้นทุน แต่ Net add ติดลบอีก 8.5 แสนราย ทั้งนี้ กำไรสุทธิอยู่ที่ 1.89 พันล้านบาท +26% Q-Q, +20% Y-Y ถ้าตัดรายการพิเศษซึ่งส่วนใหญ่มาจาก TFRS9 ออก กำไรปกติอยู่ที่ 1.57 พันล้านบาท +15% Q-Q, -5% Y-Y รายได้ลดตามคาดเพราะ โควิด-19 แต่ชดเชยได้จากลดค่าใช้จ่ายขายและบริหาร พร้อมปรับกำไรปีนี้ขึ้น 7% เป็น 5.53 พันล้านบาท -7% Y-Y (เดิม -13% Y-Y) ยังมีมุมมองระมัดระวังต่อการเติบโตในระยาวเพราะลงทุน 5G ช้ากว่าคู่แข่ง (ประกาศปันผล 0.87 บ./หุ้น Yield 2.2% XD 24 ก.ค. 2563)
--อินโฟเควสท์

******************************************

 

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!