ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,138.27 จุด เพิ่มขึ้น 32.76 จุด (+2.96%) มูลค่าการซื้อขาย 69,237.21 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยทำระดับสูงสุดที่ 1,142.47 จุด และทำระดับต่ำสุด 1,105.31 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 705 หลักทรัพย์ ลดลง 455 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 342 หลักทรัพย์
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน-กลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวด์ตาม Sentiment บวกจากตลาดต่างประเทศ โดยตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ปรับตัวขึ้นกัน เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่บวกได้เกือบ 2% รับแรงหนุนจากสินค้าโภคภัณฑ์ที่ช่วยประคองตลาดฯไว้ หลังจากที่มีข่าวว่า ทางการจีนกำลังดำเนินการตามแผนในการซื้อน้ำมันเข้าคลังสำรองฉุกเฉิน ทำให้ราคาน้ำมันฟิวเจอร์สรีบาวด์ขึ้นมา 9-10%
ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานขึ้นมานำตลาดฯ แต่ก็มองว่ากลุ่มพลังงานขึ้นมาตอบรับในทางบวกมากเกินไป จากแรงเก็งกำไรทำให้ดีดตัวแรง อย่างหุ้น TOP ที่ปรับขึ้นชนซีลลิ่ง
อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งวันนี้ติดตามยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (3 เม.ย.) นายกรภัทร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะมี upside จำกัด พร้อมให้แนวรับ 1,113-1,110 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,150-1,164 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 7,735.46 ล้านบาท ปิดที่ 33.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
BAM มูลค่าการซื้อขาย 4,924.46 ล้านบาท ปิดที่ 21.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 4,704.75 ล้านบาท ปิดที่ 75.25 บาท เพิ่มขึ้น 8.25 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 2,928.56 ล้านบาท ปิดที่ 34.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,912.66 ล้านบาท ปิดที่ 22.40 บาท เพิ่มขึ้น 1.10 บาท
มูลค่าซื้อขาย 10 อันดับ
หลักทรัพย์ มูลค่า AOM ล่าสุด เปลี่ยนแปลง
('000 บาท) (%)
PTT 7,735,462.32 33.75 +3.50 (+11.57%)
BAM 4,924,458.53 21.3 +0.90 (+4.41%)
PTTEP 4,704,746.05 75.25 +8.25 (+12.31%)
PTTGC 2,928,562.88 34.75 +3.50 (+11.20%)
IVL 1,912,658.35 22.4 +1.10 (+5.16%)
CPALL 1,881,835.88 61.75 +1.50 (+2.49%)
AOT 1,807,683.50 50.25 +0.75 (+1.52%)
ADVANC 1,659,830.65 199 +3.50 (+1.79%)
TOP 1,653,419.52 35.5 +4.50 (+14.52%)
SCC 1,557,240.40 316 -2.00 (-0.63%)
ราคาเพิ่มขึ้น 10 อันดับ
หลักทรัพย์ ปริมาณ AOM ล่าสุด เปลี่ยนแปลง
(หุ้น) (%)
EIC 300 0.04 +0.01 (+33.33%)
GJS 10,926,700 0.06 +0.01 (+20.00%)
WICE 9,091,900 1.61 +0.21 (+15.00%)
TLHPF 5,100 9.8 +1.25 (+14.62%)
TOP 48,473,100 35.5 +4.50 (+14.52%)
TTA 16,585,400 2.54 +0.32 (+14.41%)
BCP 6,561,900 17.3 +2.10 (+13.82%)
MANRIN 100 27 +3.00 (+12.50%)
ESSO 81,798,000 4.72 +0.52 (+12.38%)
PTTEP 63,701,600 75.25 +8.25 (+12.31%)
ดัชนี SET ช่วงบ่ายพุ่งเป็นกว่า 20 จุด แรงซื้อหุ้น PTT หนุนจากเตรียมส่ง OR เข้าตลาดหุ้น
ดัชนีหุ้นไทยภาคบ่ายพุ่งเป็นกว่า 20 จุด รับแรงซื้อหุ้นบมจ.ปตท. (PTT) ที่เข้ามาอย่างคึกคัก หลังแจ้งเตรียมส่งบริษัทลูก บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) เข้าตลาดหุ้น โดยได้ยื่นแบบไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ยังเคลื่อนไหวในแดนบวกด้วย
เมื่อเวลา 14.33 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,127.88 จุด เพิ่มขึ้น 22.37% (+2.02%)
ล่าสุด เวลา 14.56 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,132.82 จุด เพิ่มขึ้น 27.31 จุด (+2.47%)
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนี SET ภาคบ่ายปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 20 จุด ต่อเนื่องจากช่วงเช้า รับปัจจัยหนุนของหุ้นกลุ่ม PTT ทั้ง PTT, PTTEP, PTTGC และ TOP ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ขานรับปัจจัยบวกจากการที่สหรัฐฯประกาศเป็นตัวกลางในการหารือสถานการณ์น้ำมันระหว่างซาอุดีอาระเบียกับรัสเซีย ส่งผลให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นกลุ่ม PTT ที่จะได้รับประโยชน์ในเรื่องดังกล่าว แม้ว่าทิศทางของราคาน้ำมันในขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจนก็ตาม
อนึ่ง ราคาหุ้น PTT ปรับขึ้นแรงกว่า 13% ในการซื้อขายภาคบ่าย หลังจากที่บริษัทได้แจ้งว่า OR ได้ยื่นแบบเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต.แล้ว โดยจะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 2,700 ล้านหุ้น (ไม่รวมจำนวนหุ้นส่วนเกินสำหรับการให้สิทธิซื้อหุ้นส่วนเกิน) โดย OR จะจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนไม่เกิน 300 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของ ปตท. เฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นใน ปตท. เพื่อรักษาสิทธิ (Pre-emptive Rights)
ขณะที่อาจจะมีการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพิ่มเติมในจำนวนไม่เกิน 300 ล้านหุ้น ให้แก่ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกิน (Over-Allotment Agent) เพื่อการส่งคืนหุ้นที่ยืมจาก ปตท. ในการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (หากมี)
สรุปภาวะตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียประจำวันที่ 2 เมษายน 2563
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดตลาดวันนี้ร่วงลง เนื่องจากหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลดลง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่ยืดเยื้อจากโควิด-19
ดัชนี S&P/ASX 200 ร่วง 104.30 จุด หรือ 1.98% ปิดที่ 5,154.30 จุด ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดวันนี้ที่ 5,188.70 จุด ลดลง 102.00 จุด, -1.93%
-- ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงในวันนี้เป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่า บรรดาบริษัทของญี่ปุ่นอาจได้รับผลกระทบอย่างหนัก ขณะที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงกดดันความเชื่อมั่นทางธุรกิจโดยรวม
ดัชนีนิกเกอิปิดร่วง 246.69 จุด หรือ 1.37% แตะที่ 17,818.72 จุด
-- ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดบวกในวันนี้ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในจีนเริ่มส่งสัญญาณดีขึ้น ภายหลังจากทางการจีนยืนยันว่าไม่พบการติดเชื้อภายในประเทศในขณะนี้
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดบวก 46.12 จุด หรือ +1.69% แตะที่ 2,780.64 จุด
-- ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ดีดตัวขึ้น ตามทิศทางดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีน หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในจีนเริ่มส่งสัญญาณดีขึ้น โดยทางการจีนยืนยันว่าไม่พบการติดเชื้อภายในประเทศในขณะนี้
ดัชนีฮั่งเส็งเพิ่มขึ้น 194.27 จุด หรือ +0.84% ปิดวันนี้ที่ 23,280.06 จุด
-- ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวขึ้นกว่า 2% ในการซื้อขายวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น
ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) เพิ่มขึ้น 39.40 จุด หรือ 2.34% ปิดที่ 1,724.86 จุด มีปริมาณการซื้อขายปานกลางที่ 752 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 9.5 ล้านล้านวอน (7.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในสัดส่วน 708 ต่อ 154
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)