SORKON เดินหน้าทำตลาดอาหารฮาลาล ขยายตลาดเจาะประเทศกลุ่มมุสลิมในไตรมาส 4 ปีนี้ พร้อมเพิ่มเมนูใหม่และขยายสาขากลุ่มร้านอาหารบริการด่วน หนุนรายได้รวมเข้าเป้า พร้อมโชว์รายได้ไตรมาส 2/58 ทำรายได้รวม 587 ล้านบาท กำไรสุทธิ 23.8 ล้านบาท หลังผลิตภัณฑ์อาหารพื้นเมืองและกลุ่มอาหารขบเคี้ยวเติบโตได้ดี หนุนภาพรวมรายได้ในครึ่งปีแรกเติบโตแข็งแกร่ง

      นายเจริญ รุจิราโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SORKON ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์รายใหญ่ของไทยครอบคลุมตั้งแต่เนื้อหมู เนื้อปลาและเนื้อไก่ เปิดเผยว่า ภาพรวมครึ่งปีหลัง บริษัทฯ มีแผนทำตลาดผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาล โดย ส.ขอนแก่น จะเริ่มส่งออกผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารขบเคี้ยวที่ผลิตจากซีฟู้ดและเนื้อไก่ใน  ไตรมาสที่ 4 ไปยังตลาดตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้ามุสลิม หากได้รับใบอนุญาตใช้เครื่องหมายฮาลาลทันตามกำหนด โดยได้ขยายไลน์สินค้าสู่ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปจากเนื้อปลาและเนื้อไก่ เพื่อขยายตลาดส่งออกไปยังลูกค้ามุสลิมในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง กลุ่มประเทศอาเซียนและกลุ่มลูกค้าในประเทศจีน เข้ามาช่วยเสริมศักยภาพการทำตลาดทั้งในและต่างประเทศเพิ่มเติม โดยบริษัทฯ เตรียมส่งออกอาหาร ขบเคี้ยวแบรนด์ ‘ออง-เทร่’ ที่ผลิตจากโรงงานที่ได้เครื่องหมายอาหารฮาลาล ไปจำหน่ายในกลุ่มประเทศมุสลิมใน ไตรมาส 4 ปีนี้               

     ด้านผลการดำเนินงานไตรมาส 2/58 บริษัทฯ มีรายได้รวม 587 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 550 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 23.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 23.6 ล้านบาท หลังบริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการทำตลาดผลิตภัณฑ์อาหารกลุ่มพื้นเมืองซึ่งมีสัดส่วนรายได้สูงสุด มีอัตราการเติบโต 12% จากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในราคาย่อมเยาที่  สอดรับกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อยู่ในภาวะชะลอตัว เป็นผลให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี

     ขณะเดียวกัน กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารขบเคี้ยวซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอัตราการขยายตัวโดดเด่นเช่นกัน โดยทำยอดขายเติบโต 26% ซึ่งเป็นผลมาจากการกลยุทธ์การดำเนินงานของบริษัทฯ ที่มุ่งสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้า เช่นเดียวกับกลุ่มร้านอาหารบริการด่วนภายใต้แบรนด์ ข้าวขาหมูยูนนานและร้านแซบ เอ็กซ์เพรส ก็เติบโตเพิ่มขึ้น 67% รวมถึงมีการขยายสาขาใหม่เพิ่มเติมในไตรมาส 2 อีก 6 สาขา ส่งผล ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2558 มีสาขารวมกัน 36 สาขา

     ทั้งนี้ จากการเติบโตของยอดขายและกำไรสุทธิในไตรมาส 2/58 ส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2558 ที่มียอดขายรวม  1,154 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

   “ผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 2/58 และ 6 เดือนแรกของปีนี้ เรายังรักษาการเติบโตได้อย่างโดดเด่น ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่ยังชะลอตัว ซึ่งเป็นผลมาจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารพื้นเมืองและผลิตภัณฑ์อาหารขบเคี้ยว ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ดี” นายเจริญ กล่าว

 สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย