หมวดหมู่: ตลาดหลักทรัพย์
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับลงตามภูมิภาค กังวลโควิดระบาดในสหรัฐฯ-ไทย ,ราคาน้ำมันร่วงstock inside
       นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างปรับตัวลงราว 0.2-1% จากความกังวลการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอก 2 แม้ระหว่างการซื้อขายของตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อวานนี้ ดัชนีดาวโจนส์สามารถปรับตัวขึ้นไปกว่า 500 จุด ขานรับข่าวไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี ได้รับสถานะ "fast track" จากสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ในการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้การพัฒนาวัคซีนเป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น แต่สุดท้ายดาวโจนส์ก็ลดช่วงบวกลงมาปิดบวกแค่ 10 กว่าจุดเท่านั้น หลังจากที่มีข่าวว่า ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียได้สั่งปิดสถานประกอบการบางประเภทอีกครั้ง หลังจากยอดติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างความกังวลให้กับนักลงทุน
      นอกจากนี้ ดัชนี Nasdaq ได้ปรับตัวลง 2% จากการโดน Take profit หลังจากที่ได้ปรับตัวขึ้นไปแรง ซึ่งหุ้นที่โดนขายเป็นหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี ทำให้ไปกดดันตลาดหุ้นในแถบเอเชียเหนือให้ปรับตัวลงเช้านี้ อย่างตลาดหุ้นญี่ปุ่น, ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เป็นต้น และดิสนีย์แลนด์ของฮ่องกงก็ปิดอีก
      ส่วนบ้านเราก็กลับมากังวลสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิดในไทยอีกครั้ง จากกรณีทหารอียิปต์ที่เดินทางเข้ามาพักใน จ.ระยอง และผลตรวจยืนยันพบการติดเชื้อ ทำให้จะต้องมีการจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดในไทยมากขึ้น ซึ่งต่างก็วิตกการใช้ชีวิตประจำวันอาจจะต้องกลับมาเข้มอีกครั้งถ้ามีการระบาดระลอก 2 เกิดขึ้น
     ด้านราคาน้ำมันในตลาดฟิวเจอร์สได้ปรับตัวลง 2% จากความกังวลการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ที่มีกระแสข่าวว่าบางประเทศต้องการจะให้กลับมาผลิตน้ำมันตามปกติหลังจากที่ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น ในขณะนี้ ทำให้วิตกถึง Supply ที่จะเพิ่มขึ้นมา นอกเหนือจากปัญหาการแพร่ระบาดโควิดอาจทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลงได้ พร้อมให้แนวรับ 1,325 จุด ส่วนแนวต้าน 1,350 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (13 ก.ค.63) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,085.80 จุด เพิ่มขึ้น 10.50 จุด (+0.04%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,155.22 จุด ลดลง 29.82 จุด (-0.94%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,390.84 จุด ลดลง 226.60 จุด (-2.13%)
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 152.87 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 8.27 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 108.96 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 8.67 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 9.63 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 13.10 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.85 จุด
ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (13 ก.ค.63) 1,342.37 จุด ลดลง 8.13 จุด (-0.60%)
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 424.47 ล้านบาท เมื่อวันที่ 13 ก.ค.63
ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (13 ก.ค.63) ปิดที่ 40.10 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 45 เซนต์ หรือ 1.1%
ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (13 ก.ค.) อยู่ที่ -0.41 ดอลลาร์/บาร์เรล
เงินบาทเปิด 31.44/50 จับตาสถานการณ์โควิดทั่วโลกและในประเทศ จากแนวโน้มระบาดระลอก 2
"สมคิด" สั่ง "ออมสิน" ปล่อยซอฟท์โลน เพิ่มอีก "แสนล้านบาท" หวังอุ้มธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ โดยปล่อยผ่านแบงก์พาณิชย์ 0.01% เพื่อปล่อยต่อให้ลูกค้าคิดดอกเบี้ยไม่เกิน 2% ต่อปี ดึง บสย. ช่วยค้ำประกัน พร้อมกันวงเงินอีก 2 หมื่นล้านบาท ปล่อยให้ลูกค้ารายย่อยเพื่อเสริมสภาพคล่อง ป้องก่อหนี้นอกระบบ คิดดอกเบี้ยเพียง 0.35% ต่อเดือน
"พิพัฒน์" ลุ้นนายกฯ เคาะ "ทราเวลบับเบิล" หาจุดสมดุลความปลอดภัยโควิด ชี้หากไม่เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ สิ้นปีนี้โรงแรมทั่วประเทศส่อปิดกิจการถาวร 60% ชูเปิดให้ต่างชาติเที่ยว 3 จังหวัดนำร่อง ภูเก็ต-กระบี่-สุราษฎร์ฯ รอประเมินกระแสการจองสิทธิ์ "เราเที่ยวด้วยกัน" หากกระแสดี ชงต่อเฟส 2
รายงานข่าวจากแวดวงการเงิน เปิดเผยว่า ธนาคารพาณิชย์ และบริษัทธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ เตรียมนำผลิตภัณฑ์ด้านสินเชื่อรถยนต์ไปร่วมจัดโปรโมชั่นภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41 ในวันที่ 15-26 ก.ค.นี้ ซึ่งถือเป็นงานจัดกิจกรรมอีเวนต์ขนาดใหญ่งานแรกหลังจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ทยอยคลี่คลาย เช่น ดอกเบี้ย 0% สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ บริการสินเชื่อออนไลน์ เป็นต้น โดยผู้ให้บริการสินเชื่อส่วนใหญ่ตามค่ายรถยนต์ที่มั่นใจว่าประชาชนจะสนใจเลือกซื้อ และเข้าร่วมชมงานจำนวนมาก เพราะครั้งนี้ได้มีเทคโนโลยีด้านยานยนต์ใหม่มาโชว์ในงานด้วย
*หุ้นเด่นวันนี้
CPF (เคจีไอ) "เก็งกำไร"เป้า 38 บาท ประเมินแนวโน้มกำไร Q2/63 โต +128.5% YoY แต่ลดลง -8.8% QoQ เป็น 4.3 พันล้านบาท โดยคาดกำไรที่โตเด่น YoY เป็นผลจากราคาหมูที่เวียดนามฟื้นตัวแรง แต่กำไรคาดลดลง QoQ เพราะผลกระทบจากโควิด-19 ขณะที่ยังคงประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน Q3/63 จะโตเด่นต่อเนื่องจากราคาเนื้อหมู + ไก่ ที่ฟื้นตัว และค่าเงินบาทที่อ่อนค่า รวมถึงการส่งออกเริ่มฟื้นตัว
PTTGC (กสิกรไทย) เป้า 55.25 บาท มูลค่าหุ้น PTTGC ที่ไม่แพง ด้วยการซื้อขายกันในระดับ PBV 0.64 เท่าสำหรับปี 2564, สภาวะตลาด PE ในเอเชียที่เป็นใจ เนื่องจากอุปสงค์ในกลุ่มปลายน้ำของจีนได้ฟื้นตัวขึ้น จากการกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
TU (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 15.3 บาท ได้ Sentiment บวกจากค่าเงินบาทที่เริ่มอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและเงินยูโร ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการ Q2/63 คาดมีกำไรสุทธิ 1.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 32%qoq (ดีกว่าที่เคยคาดไว้ก่อนหน้าที่ 900-1,000 ล้านบาท) นอกจากนี้ราคายังมี downside จำกัด เพราะมี P/E ต่ำเพียง 13 เท่า คิดเป็น -2SD
--อินโฟเควสท์

******************************************

 

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!