สื่ออ่วมโฆษณาหด 14% คาด 61 ฟื้นโต 20%นักวิชาการแนะธุรกิจเร่งปรับตัว

    ไทยโพสต์ : ไทยโพสต์ * มีเดีย อินไซต์ ฟันธงจบปี 2560 ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาโตลดลง 14% เชื่อปีหน้าผู้ประกอบการเริ่มใช้เงินกลับมาบวก 10-20% ด้านนักวิชาการเผยธุรกิจต้องปรับตัวเร็ว รับเทคโนโลยี

     นายภวัต เรืองเดชวรชัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มีเดีย อินไซต์ จำกัด ในเครือมีเดีย อินเทลลิเจนซ์ (เอ็มไอ) เปิดเผยว่า ในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมาภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาเติบโตลดลง 13.9% โดย ช่วงที่เหลือของเดือน ธ.ค. คงไม่สามารถกระเตื้องขึ้นได้มาก คาดการณ์จบปี 2560 จะมีอัตรา การเติบโตลดลง 14% ต่ำสุดในรอบ 10 ปี ส่วนแนวโน้มการใช้เม็ดเงินโฆษณาปี 2561 บริษัทมองว่าจะกลับมาเป็นบวกหรือเติบโต 10-20%

     ส่วนปัจจัยที่ช่วยสนับ สนุนให้อุตสาหกรรมปีหน้ากลับ มาปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากหลายธุรกิจเริ่มมาทำกิจรรมกันมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอุปโภค บริโภค, สื่อสารหรือเทเลคอม, รถยนต์, อินเทอร์เน็ตเซอร์วิส อาทิ อี-แบงกิ้ง รวมถึงกลุ่มรถยนตร์ แต่ในส่วนของสินค้านม เด็กอาจจำเป็นต้องลดการโฆษณา ลงไป เนื่องจากมีเรื่องกฎหหมายที่กำลังถูกบังคับใช้

     ขณะเดียวกัน สื่อที่ยังถูกเลือกใช้มากสุดยังคงเป็นทีวีมีสัดส่วนประมาณ 62% ตามด้วย สื่อนอกบ้าน (Out Of Home Me dia) เพราะสอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้ชีวิตนอกบ้าน และแน่นอนสื่อประเภทดิจิทัลที่ยังมาแรงต่อเนื่อง ส่วนมากยังอยู่ในเฟซบุ๊ก ยูทูบ กูเกิล เว็บไซต์ และอินฟลูเอ็นเซอร์

     นอกจากนี้ บริษัทยังมองว่าสื่อสิ่งพิมพ์และนิตยสารยังคงได้รับผลกระทบจากการเข้ามาของสื่อออนไลน์ โดยเมื่อช่วงกว่า 5 ปีที่ผ่านมา มีนิตยสารมากกว่า 183 หัว ปัจจุบันข้อมูลพบว่าเหลือ 129 หัว แต่ขณะเดียวกันนิตยสารจะมีความเป็นเฉพาะทางมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะยังอยู่ได้

     ด้านนายพสุ เดชะรินทร์ คณบดี คณะพาณิชยศาสตร์และ การบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยา ลัย เปิดเผยในงานสัมนา "แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในปี 2561" ว่า การดำเนินธุรกิจในปี 2561 มองว่าผู้ประกอบการต้องปรับตัวให้สอดรับกับสถานการณ์และความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องของเทคโนโลยีที่กำลังเข้ามามีบทบาทต่อการทำงานหลายด้าน  โดยปัจจัยที่ต้องเตรียมตัว คือ 1.คู่แข่ง ที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เป็นคู่แข่งที่ไม่เคยอยู่ในอุตสาหกรรมมาก่อน 2.การสะสมทุนเพื่อทำให้ธุรกิจมีขนาดใหญ่ขึ้น อาจไม่จำเป็น 3.หากรู้ความเคลื่อนไหวหรือการ เปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น ต้องรีบดำเนินการ ไม่ปรับตัวช้าจนเกินไป และ 4.การลงทุนด้านเทคโนโลยี อย่ารอให้นิ่งแล้วค่อยคิด เพราะอาจจะช้าเกินไป.