นายฤทธิกา สุภารัตน์ รักษาการผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า รฟม. เตรียมสรุปแผนธุรกิจ และแนวทางดำเนินงานโครงการบริหารจัดการตั๋วร่วมหรือตั๋วแมงมุมที่บรรจุอยู่ในแผนปฏิบัติการด้านคมนาคมขนส่งระยะเร่งด่วน (Action plan) ปี 2560 ว่ ภายในสิ้นเดือนธ.ค.2560 เพื่อผลักดันให้ระบบตั๋วร่วมเปิดบริการได้ตามเป้าหมายของกระทรวงคมนาคม

     ทั้งนี้ กำหนดการใช้ระบบตั๋วแมงมุมในการใช้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ในเดือน มิ.ย. 2561, รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สายสีม่วง และบีทีเอส เดือน ต.ค. 2561 โดยจะต้องเร่งหารือข้อสรุปวงเงินลงทุน สัดส่วนการลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน การเก็บและแบ่งปันผลประโยชน์

     "หากภายในเดือนนี้ยังสรุปไม่ได้ อาจจะใช้ทางเลือกอื่น ที่ทำให้โครงการเดินหน้าได้เร็ว เช่น ถ้าภาครัฐต้องอุดหนุนการลงทุนเปลี่ยนระบบตั๋วร่วมให้เอกชน ก็ต้องเร่งเสนอให้ครม. เห็นชอบ แต่ถ้าเอกชนสามารถลงทุนด้วยตัวเอง ก็ไม่จำเป็นต้องเสนอเข้า ครม. "

       ที่ผ่านมา รฟม. หารือกับผู้เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ส่งหนังสือสอบถามไปยังบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-เตาปูน และผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูนของ ถึงการลงทุนในการเปลี่ยนเป็นระบบตั๋วร่วม และความสามารถในการรับภาระของเอกชน เบื้องต้นต้องพิจารณาสัญญาระหว่าง BEM และ รฟม. แยกเป็นรายโครงการ เพราะ BEM ลงทุนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินแบบ PPP Net Cost และลงทุนรถไฟฟ้าสายสีม่วงแบบ PPP Gross Cost ซึ่งสัญญาจะชี้ได้ชัดเจนว่าผู้ลงทุนและการแบ่งสัดส่วนการลงทุน โดยเอกชนอาจลงทุนเองทั้งหมดถ้ามีกำไร แต่ถ้าขาดทุน อาจขอให้ภาครัฐอุดหนุนบางส่วน

       สำหรับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสก็ต้องหารือกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) เรื่องวงเงินการลงทุนและการแบ่งสัดส่วนการลงทุนเช่นกัน ขณะที่รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ จะใช้งบประมาณของบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ภายใต้การรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นผู้ลงทุน

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย