แนวหน้า : นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า การปรับประมาณการเศรษฐกิจของกระทรวงการคลังในเดือนตุลาคมนี้ จะมีการปรับเพิ่มขึ้นจากเดิม 3.6% แต่จะเพิ่มมากขึ้นเท่าไรจะต้องรอการประชุมพิจารณาปัจจัยบวกและลบอีกครั้งก่อนปรับประมาณการคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ที่คาดการณ์ล่าสุดเศรษฐกิจไทยทั้งปีจะขยายตัวได้ 3.8% และของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ 3.7%

      สำหรับ ปัจจัยบวกสนับสนุนเศรษฐกิจหลายตัว เช่น การเมืองที่มีโรดแมปและประกาศกำหนดเลือกตั้งออกมาชัดเจน ทำให้นักลงทุนเกิดความมั่นใจ เป็นผลดีกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

      นอกจากนี้ การส่งออกและการท่องเที่ยวขยายตัวได้ดี ราคาพลังงานหรือน้ำมันแม้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้นแต่ราคาไม่ได้สูงเกินไปจนกระทบการขยายตัวเศรษฐกิจ รวมถึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธปท.ที่ระดับ 1.5% ก็สนับสนุนการขยายตัวเศรษฐกิจ และประเทศไทยยังเป็นแหล่งลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงของนักลงทุนต่างชาติ

      อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ก็ยังมีปัจจัยลบจากการลงทุนภาคเอกชนที่ยังน้อยและกระจุกตัวในอุตสาหกรรมก่อสร้างและการส่งออกเท่านั้นหากเอกชนลงทุนมากกว่านี้และกระจายไปในอุตสาหกรรม อื่นๆ เพิ่มมากขึ้นเช่นอุตสาหกรรมเกษตรเป็นต้นก็จะทำให้การขยายตัวเศรษฐกิจไทยได้มากกว่านี้

       "การทำให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.1% ต้องอัดฉีดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจให้ได้ 1 แสนล้านบาท ดังนั้น การทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวได้4% เป็นเรื่องไม่ง่ายแต่ไม่ใช่ว่าจะปิดประตูทำก็เป็นไปไม่ได้เลย ถ้าหากมีการออกมาตรการอีกระดับหนึ่ง หรือการเร่งลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานให้เร็วขึ้นก็อาจทำให้เศรษฐกิจปีนี้ ขยายตัวได้ 4% ได้"นายสุวิชญกล่าว

        ขณะที่โครงการประชารัฐสวัสดิการให้กับผู้มี รายได้น้อย ก็มีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวได้อีกทาง เพราะเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว เนื่องจาก ผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับวงเงินในบัตรสวัสดิการนำไปใช้จ่าย ทั้งหมดในทันที