หมวดหมู่: ปปช.

NACCวชรพล ประสารราชกจ


ประธานป.ป.ช. ห่วงกม.ลูกส่อขัดรธน. ติงกรธ.กำหนดกรอบเวลากระทบการทำงาน

       พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่าในการพิจารณาประเด็นข้อเสนอแนะเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ที่จะส่งกลับไปให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) นั้น คณะกรรมการป.ป.ช.ได้มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวอีกครั้งในวันนี้เป็นครั้งที่สองก่อนเสนอความเห็นกลับไปยัง กรธ.เนื่องจากมีหลายประเด็นที่ ป.ป.ช.กังวล โดยเฉพาะการใช้อำนาจของ ป.ป.ช.ที่จะแตกต่างไปจากอดีต และการกำหนดกรอบเวลาที่เคร่งครัด ซึ่งจะส่งผลต่อกระบวนการไต่สวน เพราะแต่ละคดีนั้นย่อมมีกรอบเวลาในการพิจารณาที่ไม่เหมือนกัน แม้ว่าการพิจารณาคดีนั้นจะแล้วเสร็จตามกรอบเวลา แต่กังวลเรื่องของคุณภาพในขั้นตอนการไต่สวน โดยเฉพาะในคดีทุจริตนั้น การสืบพยานหลักฐานต่างๆ ล้วนเป็นเรื่องยาก

        ที่ผ่านมาคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีกรอบเวลาในการพิจารณาคดีของตัวเองตามกฎหมาย ป.ป.ช.อยู่แล้ว แต่กรอบที่ กรธ.กำหนดให้มานั้นอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการพิจารณาไต่สวนคดีที่จะส่งต่อไปยังอัยการสูงสุดและศาล โดยเจ้าหน้าที่อาจกังวลเรื่องกรอบเวลา เพราะหากทำไม่ทันก็ต้องรับโทษ ดังนั้นแทนที่จะเป็นประโยชน์แต่อาจเป็นโทษได้เหมือนกัน

       "ร่างดังกล่าวเป็นเพียงร่างแรกที่ กรธ.ส่งมาและเราก็อยากไปชี้แจงกับ กรธ.ก่อนที่เขาจะส่งให้ สนช.แต่ในขั้นแปรญัตติของ สนช.ก็จะต้องมีคนของ ป.ป.ช.เข้าไปอยู่ด้วย โดยจะใช้เวทีนี้เพื่อชี้แจงเรื่องต่างๆ และอยากให้ กรธ.ช่วยรับฟังความเห็นของผู้ปฏิบัติ เราไม่ได้ต้องการอะไรนอกจากการทำงานอย่างมืออาชีพให้มีประสิทธิภาพสมกับความคาดหวังของประชาชน" พล.ต.อ.วัชรพล กล่าว

        อีกทั้ง ยังเสนอประเด็นเกี่ยวกับการทำงานตามอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทุจริตของสหประชาชาติ โดยมีวิธีการสืบสวนสอบสวนแบบพิเศษซึ่ง ป.ป.ช.สามารถทำได้ แต่ที่ผ่านมาก็ไม่ได้รับการพิจารณาเลย

       นอกจากนี้ หลายเรื่องที่ กรธ.กำหนดไว้ในร่างกฎหมายดังกล่าวอาจขัดรัฐธรรมนูญ ส่วนประเด็นคุณสมบัติของกรรมการ ป.ป.ช.นั้นไม่มีการโต้แย้งเพราะเห็นด้วยที่จะให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ

        ด้าน พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า มีหลายประเด็นที่ ป.ป.ช.จะเสนอความเห็นเพิ่มเติม ทั้งประเด็นการไต่สวนเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ รวมถึงวาระการดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดปัจจุบันที่เห็นว่ายังขัดกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ

ป.ป.ช.มีมติรื้อคดีหวยบนดิน-EXIM Bank ปล่อยกู้เมียนมา เอาผิดทักษิณหลังกม.เปิดช่องพิจารณาลับหลัง

       พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติรื้อคดีที่ป.ป.ช.เป็นโจทก์ฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ภายหลังประกาศใช้พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีความอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองฉบับใหม่ ประกอบด้วย คดีที่เกี่ยวข้องกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 2 คดี คือ คดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว หรือหวยบนดิน และคดีธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ปล่อยกู้ให้รัฐบาลเมียนมา เพื่อทำสัญญากิจการโทรคมนาคม วงเงิน 4 พันล้านบาท โดยเป็นการเอื้อประโยชน์ บมจ.ชินแซทเทลไลท์ (SATTLE) หรือบมจ.ไทยคม (THCOM) ในปัจจุบัน และบมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น (SHIN) หรือ บมจ.อินทัช (INTUCH) ส่วนอีกเรื่องคือคดีทุจริตจัดซื้อรถดับเพลิงและเรือดับเพลิงของ กทม.ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเอกชน

        พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ได้มอบหมายให้สำนักคดีเป็นฝ่ายดำเนินการแทนทนาย ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐาน คาดว่าจะดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ ได้ในไม่ช้านี้

        ส่วนกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการจ้องเอาผิดอดีตนายกรัฐมนตรีย้อนหลังนั้น พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า เมื่อกฎหมายประกาศใช้แล้วก็ต้องปฏิบัติตาม เพราะกว่าจะออกเป็นกฎหมายก็ได้ผ่านกระบวนการกลั่นกรองหลายขั้นตอน และไม่คิดว่ากฎหมายขณะนี้มุ่งเอาผิดเฉพาะนายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเท่านั้น แต่อาจเป็นเพราะช่วงนี้มีคดีที่เกี่ยวกับทั้งสองบุคคลนี้เข้ามา

             อินโฟเควสท์

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!