เคทีซี เผยโฉมใหม่โมบายแอพฯ 'TapKTC'กับฟีเจอร์สุดล้ำด้วยระบบไบโอเมตริกสแกนม่านตาแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

     เคทีซี ส่งอาวุธหลักลงสนามการเงิน โมบายแอพฯ 'TapKTC' ที่มาพร้อมลุคใหม่ เน้นตอบโจทย์ผู้ใช้และสมาชิกกว่า 3 ล้านบัญชี ให้ได้รับประสบการณ์ที่ดี (Customer Experience) ด้วยภาพลักษณ์ที่ทันสมัย พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ง่าย สบายตากับฟีเจอร์จำเป็นที่เลือกได้เอง และระบบการล็อคอินเข้าใช้งานที่ปลอดภัยครบถ้วนเหนือใคร ด้วยการใช้ลายนิ้วมือและสแกนม่านตาตามมาตรฐานซัมซุง พาส (Samsung Pass) ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และที่ 3 ของโลก 

       นายธศพงษ์  รังควร  ผู้อำนวยการ ธุรกิจบัตรเครดิต 'เคทีซี' หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เคทีซีได้ปรับโฉมโมบาย แอพพลิเคชัน 'TapKTC' ใหม่ เพื่อรองรับกับเทรนด์ของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับไว ชู 3 เรื่องหลัก คือ ใช้ง่าย เสถียร และปลอดภัย ด้วยการเพิ่มฟังก์ชันใช้งานที่ตอบโจทย์สมาชิกทั่วประเทศให้ได้รับประสบการณ์ที่ดี (Customer Experience) ซึ่งนอกจากจะมีการดีไซน์ที่ทันสมัยแล้ว ยังเน้นการ ใช้งานที่สะดวกและสบายตากับฟีเจอร์จำเป็นที่สมาชิกเลือกได้เอง”

         “เคทีซี ยังเพิ่มความปลอดภัยระดับสูงสุดให้สมาชิกมั่นใจมากยิ่งขึ้น ด้วยทางเลือกในการยืนยันตัวตนหรือ อัตลักษณ์ (Biometrics) นอกเหนือจากการใช้รหัส (Pin) ที่เพิ่มความปลอดภัยด้วยแป้นพิมพ์ไดนามิค (Dynamic Keyboard) ในการล็อคอินเข้าใช้บริการตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำรายการธุรกรรมการเงินผ่านโมบาย แอพฯ 'TapKTC' ทั้งการสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint) และใหม่ล่าสุดกับเทคโนโลยีการสแกนม่านตา (Iris) กับบริการซัมซุง พาส (Samsung Pass) ซึ่งเคทีซีนับเป็นสถาบันการเงิน รายแรกและรายเดียวของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และที่ 3 ของโลกที่เริ่มใช้เทคโนโลยีนี้ โดยความร่วมมือกับซัมซุง ซึ่งผู้ใช้สมาร์ทโฟนซัมซุง แกแล็คซี่ (Samsung Galaxy) ที่มีอินฟราเรด สแกนม่านตา เช่น S8 / S8+ และ Note 8 สามารถใช้เทคโนโลยีนี้ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยที่ข้อมูลทางชีวภาพของสมาชิกจะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยที่คลาวด์ (Cloud) ในชื่อ FIDO (Fast Identity Online) ไม่เก็บที่อุปกรณ์สมาร์ทโฟน (Devices) ต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยการ Log in เข้าใช้บริการ TapKTC ด้วย การสแกนม่านตา (Iris) กับบริการซัมซุง พาส (Samsung Pass) นั้น ปัจจุบันได้อยู่ในการทดลองให้บริการ Regulatory Sandbox ของ ธนาคารแห่งประเทศไทย และนับจากไตรมาสสุดท้ายของปี 2560 ต่อเนื่องถึงปี 2561 “TapKTC” จะเป็นช่องทางสำคัญในการทำกิจกรรมการตลาดเชิงรุกเข้าถึงสมาชิกที่ทรงประสิทธิภาพที่สุด ซึ่งเราเชื่อว่า “TapKTC” เป็นโมบายแอพพลิเคชันที่ดีที่สุดของวงการบัตรเครดิตในขณะนี้”

       นายปริญญา อรรถพรมงคล  ผู้จัดการอาวุโส ธุรกิจบัตรเครดิต 'เคทีซี' กล่าวถึงจุดเด่นของฟังก์ชันการใช้งานใน “TapKTC” ว่า “เคทีซีได้เพิ่มฟีเจอร์สำคัญและจำเป็นที่สมาชิกสามารถทราบข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวกับบัญชีส่วนตัวได้กับลุคใหม่ที่ใช้งานง่ายและสะดวกใน My Account สามารถดูข้อมูลได้ในที่เดียว ไม่ว่าจะมีบัตรเคทีซีกี่ใบ ทั้งบัญชีบัตรหรือเช็คคะแนนสะสม การแสดงยอดเงินรวมของบัตรทุกใบที่ใช้ และวงเงินรวมคงเหลือของบัตรทุกใบ การบริหารจัดการข้อมูลที่เลือกได้เอง อาทิ การตั้งค่าแจ้งเตือนรายการเมื่อมีการใช้จ่ายผ่านบัตรโดยสามารถกำหนดยอดเงินให้ระบบแจ้งเตือน / การตั้งค่าแจ้งเตือนกำหนดชำระค่าใช้จ่ายล่วงหน้า / การอายัติบัตรชั่วคราวเมื่อสูญหาย / การกำหนดยอดการใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงยังสามารถสมัครหรือปรับเปลี่ยนวิธีการรับใบแจ้งยอดค่าใช้จ่ายง่ายๆ ได้ด้วยตนเอง”

      “นอกจากนี้ ยังสามารถใช้คะแนนสะสมแลกสินค้าและบริการได้เอง ไม่ว่าจะเป็นไมล์สะสมรอยัล ออร์คิด พลัส / แอร์ เอเชีย / ฟลายเออร์ โบนัส ของบางกอก แอร์เวยส์ / การแลกรับเงินคืน (Cash back) หรือการบริจาค / การโอนคะแนนสะสมระหว่างบัตรได้ง่ายๆ โดยไม่จำกัดคะแนนขั้นต่ำในการโอน / การบริหารค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนให้คล่องตัวขึ้นด้วย KTC FLEXI บริการแบ่งชำระค่าสินค้าและบริการผ่านบัตรเคทีซี โดยเลือกทำรายการเองได้ทันใจผ่านบริการออนไลน์ / การเบิกถอนเงินสดออนไลน์ทันทีได้ทุกที่ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านบัตรเครดิตเคทีซี หรือบัตรสินเชื่อพร้อมใช้   “เคทีซี พราว” โดยเงินจะโอนเข้าบัญชีเงินฝากที่มีกับธนาคารกรุงไทย”

        นางสาวเรือนแก้ว เกษมสวัสดิ์ศรี  ผู้จัดการอาวุโส บริหารจัดการข้อมูลลูกค้า 'เคทีซี' กล่าวถึงการสร้างประสบการณ์ที่ดีกับสมาชิกผ่าน TapKTC ว่า “เคทีซีได้พัฒนาแอพพลิเคชันที่ตอบโจทย์และมีคุณค่ากับสมาชิกอย่างแท้จริง เน้นให้ทุกฟังก์ชันมีประโยชน์ สะดวก และไม่เป็นภาระกับผู้ใช้งาน ตามแนวคิดใหม่ของแบรนด์ เคทีซี “ทำให้ง่ายและเข้าใจง่าย” (Smart Simplicity) โดยมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีกับสมาชิก (CX-Customer Experience) ผ่าน 3 แกนหลัก คือ 1. Smart Design ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้ทันสมัย เรียบง่ายและสบายตา เมนูการใช้งานอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม สมาชิกสามารถพบข้อมูลและฟังค์ชันที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว และเลือกใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย 2. Smart Process เน้นให้สมาชิกใช้เวลาทุกขั้นตอนบนแอพพลิเคชันให้น้อยที่สุด ตัดกระบวนการที่ยุ่งยาก (Customer Pain Points)

     และไม่จำเป็นออก เช่น การลงทะเบียน ที่ปรับให้เหลือแค่การกรอกข้อมูลเพียง 2 ฟิลด์ หรือหน้า My account ที่สมาชิกไม่จำเป็นต้องเพิ่มข้อมูลบัญชี ข้อมูลทุกผลิตภัณฑ์ของเคทีซีจะแสดงอัตโนมัติหลังลงทะเบียนเสร็จ โดยในทุกฟังค์ชันบนแอพพลิเคชัน สมาชิกจะสามารถทำสำเร็จโดยการกด (Tap) เพียงไม่กี่ครั้ง  3. Smart Move ใช้หลักการ Business Agility คือ ปรับเปลี่ยนและอัพเดทแอพพลิเคชันอย่างสม่ำเสมอ รวดเร็ว และต่อเนื่อง รวมถึงการเพิ่มฟีเจอร์การใช้งานใหม่ๆ เป็นระยะ เพื่อให้ตรงกับความต้องการของสมาชิกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ให้สมาชิกได้รับประสบการณ์ที่ดี และเกิดความประทับใจในระยะยาว”

        “เราหวังว่าโมบาย แอพพลิเคชัน 'TapKTC'โฉมใหม่นี้ จะเป็นเสมือนเพื่อนคู่กาย ที่เชื่อมโยงเคทีซีกับสมาชิกเข้าไว้ด้วยกัน โดยคาดว่าจะมีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านราย ภายในปี 2561” นายธศพงษ์กล่าวทิ้งท้าย

KTC releases the all new 'TapKTC' mobile app with spectacular features,

positioning the company as first in Southeast Asia to endorse Biometric Iris Recognition.

     KTC launches the newly improved and revamped 'TapKTC' mobile application into the finance industry to meet the needs of over 3 million member accounts for enhanced customer experiences through a modernized, simple and aesthetically pleasing design, along with customizable features and highly safe and secure log in system with fingerprint scans and Samsung Pass’ standard biometric iris recognition function, for the first time in Southeast Asia and as the 3rd country in the world.

         Mr.Tosapong Rangkawara, Vice President Credit Card Business,’KTC’ or Krungthai Card Public Company Limited, states, “KTC revamped the ‘TapKTC’ application interface to complement the rapid and ephemeral changes of technological trends. KTC prioritized 3 distinct areas: smart simplicity, stability and security, by adding functions that enhance customer experience for members across the country. Besides the modernized design, KTC emphasized accessibility and aesthetically pleasing features which members can select from and customize to one’s liking.”

       “In addition, KTC improved advanced security levels to further reassure the safety of members through the option of Biometrics Identification besides providing a pin number. Members can now experience enhanced log ins to access personal information using the dynamic keyboard, or make transactions through the “TapKTC” mobile application using the fingerprint scan, and the brand new biometric iris recognition with the Samsung Pass service. KTC is Southeast Asia’s first and only financial institute, and the 3rd in the world to endorse this technology in collaboration with Samsung. Current users of the Samsung Galaxy models with the infrared iris recognition feature, including the S8, S8+ and Note 8, can access this technology from today onwards. Abiding to the Bank of Thailand’s policy, user’s biological information will be securely stored in the FIDO (Fast Identity Online) Cloud and will not be stored in smartphone devices. TapKTC’s log in method using iris recognition with Samsung Pass is currently under the Bank of Thailand’s Regulatory Sandbox trial-run, and from the third trimester in 2017 until 2018, 'TapKTC' will become a crucial method for proactive marketing activities that most efficiently connects customers. We believe that 'TapKTC' is currently the leading mobile application within the credit card industry.”

         Mr. Parinya Attponmongkol, Senior Manager Credit Card Business, “KTC” explains the prominent points of user functions in “TapKTC”: “KTC added important and crucial features which allows customers to gain access to information relating to the personal account in a new look that is easy and convenient to use. Members can now view all information at a single location, My Account, regardless of the number of KTC cards in possession, including card accounts or points balance checks. Collective card balances for all cards will be displayed, including the remaining offset balance. Members will also enjoy customizable information management features, which includes the option to receive notification alert for transactions done via card payments for a set balance amount/ the option to receive notification alert for payment deadlines in a timely manner/ temporary blockage of cards in the case of lost or misplaced cards/ the option to set up spending limits for online purchase transactions, as well as the ability to easily register or change the method of billing options by themselves.”

          “Besides this, customers can redeem rewards points, including Royal Orchid Plus miles / Air Asia /  Bangkok Airway’s Flyer Bonus / Cash Back for products and services, or for donations/ transfer of rewards points between cards without a minimum points value / conveniently manage monthly payments with the KTC FLEXI installment plan to pay for products and services online / make online 24 hours withdrawals anywhere and everywhere with the KTC credit card or the ready to use “KTC PROUD” Revolving Loan card, where withdrawals will be transferred directly into the existing Krungthai savings account.”

        Miss Rueankeaw Kasemsavatsri Portfolio and Customer Relationship Management, KTC talks about TapKTC’s enhanced customer experience: “KTC developed an application that is not only valuable but also truly complements the customer’s needs, and put emphasis on the functions so that they are useful, convenient and won’t serve as a burden for users. These enhancements is in accordance to KTC’s latest brand concept, Smart Simplicity, with an aim to create great Customer Experience (CX)  through 3 main modes:  1. Smart Design a modernized, simple and aesthetically pleasing design with user menus located in appropriate positions for quick access to information,

functions and language options; 2. Smart Process complicated and unnecessary customer pain points are eliminated, and customers will spend the least amount of time in all steps in the application. This includes the registration method which is now reduced to only 2 required information fields, or the My account page, where customers no longer are required to manually include account information - information for every KTC products will be automatically displayed after registration is completed. Every functions included in the application can be completed in a few taps; 3. Smart Move KTC employs the Business Agility concept to make constant, quick and continuous updates on the application and additions of new features from time to time to complement the constantly changing needs of customers, in order to yield a great customer experience and create long term satisfaction.”

         “We hope that the revamped version of the “TapKTC” mobile application will serve like a companion which connects KTC to customers. It is expected that there will be an increase of 1.5 million users within the end of 2018.“, Mr. Tosapong says in conclusion.