ทิสโก้ จับมือ พรูเด็นเชียล ต่อยอดความสำเร็จยูนิตลิงค์ เปิดตัว 'ทิสโก้ มาย ลิงค์ -แบบชำระเบี้ยประกันภัยครั้งเดียว' เอาใจลูกค้าจ่ายเบี้ยฯ ครั้งเดียว รับโอกาสจากการลงทุนพร้อมความคุ้มครองชีวิต

      ธนาคาร ทิสโก้ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประสานความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง รุกตลาดประกันชีวิตควบการลงทุน นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ 'ทิสโก้ มาย ลิงค์ - แบบชำระเบี้ยประกันภัยครั้งเดียว' (หรือ TISCO My Link-Single Premium) ชูจุดเด่นครบครัน อาทิ ชำระเบี้ยประกันภัยเพียงครั้งเดียว พร้อมมอบความคุ้มครองชีวิตและมีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นจากการลงทุนผ่านกองทุนรวมชั้นนำทั้งในและต่างประเทศที่ได้รับคัดเลือกตามมาตรฐานพรูเด็นเชียล และยังมีความยืดหยุ่นสูงโดยสามารถสับเปลี่ยนกองทุนภายใต้กรมธรรม์ได้ฟรีถึง 12 ครั้งต่อปีกรมธรรม์ ทำให้ลูกค้าสามารถบริหารพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดและความต้องการขณะนั้น และยังเพิ่มถอนการลงทุนได้ตามข้อกำหนดของกรมธรรม์

      'ทิสโก้ มาย ลิงค์ – แบบชำระเบี้ยประกันภัยครั้งเดียว'รับประกันภัยลูกค้าที่มีอายุ ตั้งแต่ 1 เดือนถึง 65 ปี ลูกค้าสามารถนำเบี้ยประกันภัยในส่วนของการประกันชีวิตมาใช้เป็นสิทธิประโยชน์ทางภาษีสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ทั้งนี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร

      ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ตั้งแต่วันนี้ที่ธนาคารทิสโก้ ทุกสาขา หรือศูนย์บริการลูกค้า โทร. 02-633-6060

ข้อมูลคณะผู้บริหารที่ปรากฏในภาพ

กลุ่มทิสโก้

     - คุณเสถียร เลี้ยววาริณ (คนที่ 1 จากซ้าย)  ผู้บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจและกลยุทธ์ ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป

     - คุณพิชา รัตนธรรม (คนที่ 2 จากซ้าย)  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจธนบดี ธ.ทิสโก้

     - คุณธีรนาถ รุจิเมธาภาส (คนที่ 2 จากขวา) กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทิสโก้

     - คุณเมธา ปิงสุทธิวงศ์ (คนที่ 3 จากขวา) รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจธนบดีธนกิจและบริการธนาคาร ธ.ทิสโก้

บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

     - คุณพรพิมล ตรงเที่ยงธรรม (คนที่ 3 จากซ้าย)   ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพันธมิตรธุรกิจ

     - มร.จอห์น แฟลนเดอร์ส (คนที่ 1 จากขวา) ผู้อำนวยการบริหารการเงิน

คำเตือนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์

         การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้เอาประกันภัยอาจได้รับเงินคืนมากกว่าหรือน้อยกว่ามูลค่าเบี้ยประกันภัยที่ถูกจัดสรรเข้ากองทุนรวม โดยหากผลการดำเนินงานของกองทุนรวมมีกำไร ผู้เอาประกันภัยก็จะได้รับผลตอบแทนสูง แต่หากผลการดำเนินงานของกองทุนรวมขาดทุน ผู้เอาประกันภัยจะได้รับผลตอบแทนต่ำ หรือบางกรณีอาจขาดทุน กล่าวคืออาจไม่ได้รับเงินส่วนลงทุนคืนเต็มจำนวน ทั้งนี้ กรมธรรม์นี้ไม่มีการรับประกันเงินส่วนลงทุน

       กองทุนมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนในต่างประเทศถึงแม้ว่ากองทุน อาจป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม แต่เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนแรกเริ่มได้

         ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียด ความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง

         ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

เกี่ยวกับบริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

      บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 โดยเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการชั้นนำด้านการประกันชีวิตในประเทศไทยมากว่า 22 ปี พรูเด็นเชียล ประเทศไทย นำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่เหมาะสมกับหลากหลายรูปแบบความต้องการของลูกค้า อาทิ ผลิตภัณฑ์ที่เน้นการออม การลงทุน และความคุ้มครอง โดยลูกค้าสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการของเราผ่านหลากหลายช่องทาง อาทิ ช่องทางธนาคาร ตัวแทน ประกันชีวิตแบบกลุ่ม  โดยพรูเด็นเชียล ประเทศไทย พร้อมที่จะรับฟังและอยู่เคียงข้างทุกความสัมพันธ์ของครอบครัวคนไทยจากรุ่นสู่รุ่น

เกี่ยวกับทิสโก้

        ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน)  ก่อตั้งเป็น Investment Bank แห่งแรกในประเทศไทยเมื่อปี 2512 เป็นผู้ริเริ่มให้บริการจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และ บริการสินเชื่อเช่าซื้อเป็นครั้งแรกในประเทศไทย  และมีส่วนร่วมและบทบาทสำคัญในการพัฒนาตลาดเงินและตลาดทุนไทยมาโดยลำดับ  ทิสโก้ได้เริ่มประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบในปี พ.ศ.2548   มีกลยุทธ์การแข่งขันที่แตกต่างจากธนาคารพาณิชย์ทั่วไป โดยเน้นขยายตัวในธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญ อาทิ ธุรกิจสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค (Retail Loan)  ธุรกิจเงินฝากลูกค้ารายใหญ่ (Wealth Management) และ ธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisory)  ปัจจุบัน ธนาคารทิสโก้มีสาขาทั้งสิ้น 56 แห่งทั่วประเทศ โดยเป็นสาขาในกรุงเทพฯและปริมณฑล  30 แห่ง  และ สาขาต่างจังหวัดในเขตเศรษฐกิจที่สำคัญ 26 แห่ง