หมวดหมู่: มติ ครม.

GOV4 copy copy


ขออนุมัติร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถาน ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูต

 

      เรื่อง ขออนุมัติร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถาน ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางพิเศษ/หนังสือเดินทางราชการ

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ ดังนี้

               1. เห็นชอบร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถานว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางพิเศษ/หนังสือเดินทางราชการ

               2. อนุมัติให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามใน ร่างความตกลงฯ

               3. มอบหมายให้ กต. จัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ผู้ลงนาม

               4. อนุมัติในหลักการให้ กต. มีหนังสือแจ้งสาธารณรัฐคาซัคสถานเพื่อให้ความตกลงฯ มีผลบังคับต่อไป

               5. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างความตกลงฯ โดยไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติหรือให้ความเห็นชอบไว้ให้ กต. และคณะผู้แทนไทยที่เข้าร่วมประชุมดังกล่าวสามารถดำเนินการได้ โดยนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว

 

ร่างความตกลงฯ มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้

      1. ผู้ที่ได้รับสิทธิ พลเมืองที่ถือหนังสือเดินทางการทูตและหนังสือเดินทางพิเศษ/หนังสือเดินทางราชการ จะได้รับการยกเว้นการตรวจตราสำหรับการเดินทางเข้า พำนัก ออกหรือผ่านดินแดนของคู่ภาคีเป็นระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน แต่หากบุคคลนั้นได้รับมอบหมายให้เป็นสมาชิกในคณะผู้แทนทางทูต สถานทำการกงสุล หรือผู้แทนในองค์การระหว่างประเทศที่มีหน้าที่ในดินแดนของรัฐแต่ละคู่ภาคี รวมถึงสมาชิกในครอบครัวที่อาศัยอยู่รวมกันกับบุคคลเหล่านั้น จะได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับการเดินทางเข้า ออก หรือพำนักในดินแดนของ คู่ภาคีเป็นระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน (สามารถขยายระยะเวลาได้)

      2. เงื่อนไข ต้องไม่มีส่วนร่วมในการทำงาน การทำธุรกิจ และการทำกิจกรรมอื่นที่มีค่าตอบแทนภายในดินแดนของคู่ภาคี และต้องปฏิบัติตามกฎหมายของรัฐผู้รับในระหว่างการพำนักในดินแดนนั้น

      3. การระงับข้อพิพาท โดยการปรึกษาหารือและการเจรจาระหว่างคู่ภาคี

     4. การบังคับใช้ เมื่อผ่านไป 30 วัน นับจากวันที่ได้รับการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรครั้งสุดท้าย จากภาคีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผ่านช่องทางการทูต และไม่มีกำหนดเวลา จนกว่าจะได้รับการบอกเลิก (เป็นหนังสือ) ผ่านช่องทางการทุตล่วงหน้า 6 เดือน

        ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 13 มิถุนายน 2560

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!