‘วิษณุ’เผยสัปดาห์หน้า จะชง คสช.ออกม.44 คลายเกณฑ์ที่ ส.ป.ก.ทำธุรกิจพลังงาน - ทรัพยากร และสาธารณูปโภค แต่ไม่รับปากจะได้รับการเห็นชอบหรือไม่

    นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผย กล่าวถึงกรณีการสร้างโรงไฟฟ้ากังหันลม ในพื้นที่ ส.ป.ก.หรือการเช่าพื้นที่ ส.ป.ก.ในการวางแผงโซลาร์ฟาร์ม ว่าในสัปดาห์หน้าในการ  ประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะเสนอให้มีการออกคำสั่งตามมาตรา 44 เพื่อเปิดทางให้สามารถใช้พื้นที่ ส.ป.ก.เพื่อประโยชน์ด้านอื่นนอกเหนือจากการทำเกษตรกรรม โดยเบื้องต้นจะมีการพิจารณาผ่อนปรนหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ใน 3 เรื่อง คือ 1.ด้านพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นพลังงานลม หรือพลังงานน้ำ 2.ทรัพยากรธรรมชาติ คือ แร่ น้ำมัน และก๊าซ  และ 3.เรื่องสาธารณูปโภค ไม่ว่าจะเป็นถนน ทางรถไฟ หรือการวางระบบต่าง ๆ แต่ทั้งนี้ไม่รับปากว่าคสช.จะเห็นชอบหรือไม่  และมาตรา 44 เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวหรือไม่   

     โดยปัญหาในขณะนี้คือ มีพื้นที่บางแห่งที่เป็นพื้นที่ส.ป.ก.ไม่เหมาะสมที่จะทำการเกษตรต่อไป จึงเปลี่ยนให้ไปสัมปทานสำรวจแร่ แต่ก็มีปัญหาว่าขัดกับวัตถุประสงค์ ส.ป.ก.หรือไม่ ทั้งนี้ เราจะไม่ยอมให้มีการขายพื้นที่ หรือนำพื้นที่การเกษตรไปใช้ในด้านอื่น เราต้องการรักษาพื้นที่ตรงนี้ไว้ จึงต้องพิจารณาให้ละเอียดรอบคอบ  บน 3 แนวทาง ดังนี้คือ 1.พื้นที่นั้นถ้าทำการเกษตรได้จะไม่ยอมให้ใช้ประโยชน์ในด้านอื่น 2.ชั่งใจถึงประโยชน์ได้เสียต่อสาธารณะ และ 3.เงินที่เอกชนเช่าที่ส.ป.ก.จะต้องกลับสู่กองทุน ส.ป.ก.เพื่อนำกลับไปใช้แก่เกษตรกร

   “ต้องดูความคุ้มค่าระหว่างสาธารณะประโยชน์กับประโยชน์ด้านการเกษตร และจะเยียวยาได้อย่างไร แต่หลักคือ จะไม่พยายามถอน เพราะพื้นที่ ส.ป.ก.เป็นประโยชน์กับเกษตรกร ไม่ใช่ตัดที่ดินให้เช่าและให้เกษตรกรย้ายออก แล้วนอนเก็บเงิน เราไม่ต้องการให้เกิดเหตุแบบนั้น” นายวิษณุ กล่าว

ก.พลังงาน เผยความคืบหน้าแผน AEDP 2015 มั่นใจโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่ไม่เจอปัญหา ส.ป.ก.เหมือนวินด์ฟาร์ม

     ก.พลังงาน เผยความคืบหน้าแผน AEDP 2015 อยู่ระหว่างหารือเกี่ยวกับสัดส่วนพลังงานทดแทนที่เพิ่มขึ้น  เน้นพลังงานทุกรูปแบบ 2015 แต่เน้นโซลาร์เซลล์ มากสุด แต่ไม่รับปากแผนผลิตไฟฟ้า 2,000 MW ของ กฟผ. จะอยู่ในแผนนี้หรือไม่ พร้อมมั่นใจโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่ไม่เจอปัญหาของ ส.ป.ก.เหมือน  วินด์ฟาร์ม

     นายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการปรับแผนพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP 2015) ที่มีเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนการผลิตจากพลังงานของประเทศเป็น 40% จากปัจจุบันอยู่ที่ 19% หรือ 19,000 เมกะวัตต์ ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างหารือเกี่ยวกับสัดส่วนพลังงานทดแทนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งน่าจะมีการใช้เชื้อเพลิงทุกรูปแบบ แต่การใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด จากปัจจุบันมีนโยบายส่งเสริมทั้งโซลาร์เสรีบนหลังคาบ้าน และโซลาร์ฟาร์มบนดิน รวมทั้งมีการศึกษาโซลาร์ฟาร์มแบบลอยน้ำด้วย

     ส่วนการผลิตไฟฟ้า 2,000 เมกะวัตต์ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย  (กฟผ.) ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนว่าจะอยู่ในแผนนี้หรือไม่ ต้องเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) ซึ่งมีพลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงานเป็นประธานพิจารณาก่อน

  อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเชื่อว่าโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงประเภทอื่นจะไม่เกิดปัญหาเหมือนกรณีการใช้ที่ดินของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.) หลังศาลปกครองสูงสุดพิพากษาเพิกถอนโรงไฟฟ้าพลังงานลม (วินด์ฟาร์ม) ทำให้การใช้ที่ดินเพื่อกิจการอื่นไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะโรงไฟฟ้าประเภทอื่นตั้งอยู่ในพื้นที่ทั่วไป

 สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย