ฟิทช์ เรทติ้งส์ - กรุงเทพฯ / สิงคโปร์ - 12 เมษายน 2564 : ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศปรับแนวโน้มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากล (Insurer Financial Strength Rating: IFS Rating) ของบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI เป็นแนวโน้มมีเสถียรภาพจากแนวโน้มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินเป็นลบ และประกาศคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากลที่ ‘A-’ (หรืออยู่ในระดับ “แข็งแกร่ง”)
พร้อมกันนี้ ฟิทช์ปรับแนวโน้มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ (National IFS Rating) เป็นแนวโน้มมีเสถียรภาพจากแนวโน้มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินเป็นลบ และประกาศคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศที่ AAA(tha)
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
การปรับแนวโน้มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินเป็นมีเสถียรภาพนั้น สะท้อนถึง ผลประกอบการและระดับเงินกองทุนของ TLI ที่มีความแข็งแกร่งกว่า ผลการประเมินจากแบบจำลองภายใต้สมมติฐานของฟิทช์ ในกรณีผลกระทบรุนแรงจากการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรน่าไวรัสในปี 2563 ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานหลักในการปรับแนวโน้มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินเป็นลบในช่วงปีก่อน ทั้งนี้ฟิทช์ได้ปรับประมาณการของผลกระทบเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดฯ และคาดว่าความผันผวนของตลาดตราสารทุนจะกลับมาอยู่ในภาวะปกติ
การคงอันดับเครดิตสะท้อนถึงโครงสร้างธุรกิจประกันชีวิตของ TLI อยู่ในระดับที่แข็งแรง (Favourable business profile) ฐานะทางการเงิน และระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตยังมีความเสี่ยง ในส่วนของโครงสร้างการลงทุนจากสภาวะอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ และโครงสร้างของรายได้จากเบี้ยประกันใหม่ที่มีอัตราการเติบโตที่ช้าลง
อันดับเครดิตของ TLI สะท้อนถึงเครือข่ายทางธุรกิจในประเทศของบริษัทที่มีขนาดใหญ่ โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดในด้านเบี้ยประกันชีวิตรวมเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ขนาดของธุรกิจที่อยู่ในระดับปานกลางเมื่อเทียบกับบริษัทประกันชีวิตในภูมิภาค นอกจากนี้บริษัทยังมีผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่มีความหลากหลายและช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่ง ผ่านเครือข่ายตัวแทนขายประกันชีวิตและธนาคารพาณิชย์ ฟิทช์มีความเห็นว่าโครงสร้างธุรกิจประกันชีวิตของ TLI อยู่ในระดับที่แข็งแรง เมื่อเทียบกับบริษัทอื่นในอุตสาหกรรมประกันชีวิตไทย ดังนั้นจากมุมมองดังกล่าว ฟิทช์จึงให้อันดับ ‘a-’ ในด้านโครงสร้างธุรกิจประกันชีวิต (business profile credit factor score) แก่ TLI
ฟิทช์ คาดว่าระดับเงินกองทุนที่ต้องดำรงไว้ตามกฎหมาย (Risk-based capital ratio) ยังคงอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพที่ดี ในช่วงระยะกลาง ซึ่งจะช่วยเป็นกันชนและรองรับผลกระทบจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยในตลาดและรายได้ของTLI ทั้งนี้ TLI ยังคาดว่าระดับเงินกองทุนที่ต้องดำรงไว้ตามกฎหมาย ณ สิ้นปี 2563 ของบริษัทจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญจากร้อยละ 372 ณ สิ้น ไตรมาส 3 ปี 2563 ซึ่งยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่ 120% อีกทั้งผลการประมาณการระดับเงินกองทุนของบริษัทจากแบบจำลอง Fitch Prism Model (FBM) ของฟิทช์ยังอยู่ในระดับแข็งแกร่งมาก (‘Very Strong’) ซึ่งประเมินจากข้อมูลทางการเงิน ณ สิ้นไตรมาสที่สามของปี 2563
ผลการดำเนินงานของบริษัทคาดว่าจะอยู่ในระดับแข็งแกร่ง ถึงแม้สภาพตลาดจะมีความท้าทาย บริษัทมีอัตราส่วนกำไรก่อนภาษีเงินได้ต่อสินทรัพย์เฉลี่ยเฉลี่ยในช่วงปี2560-2562 อยู่ที่ 2% และคิดเป็นอัตราส่วนต่อปีที่ 3% สำหรับงวด ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ปี 2563 ซึ่งอัตราส่วนดังกล่าวยังคงสอดคล้องกับเกณฑ์ของฟิทช์สำหรับบริษัทประกันชีวิตที่มีอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินอยู่ในช่วงอันดับ ‘A’ รายได้ของบริษัทยังคงอยู่ในระดับที่ดีเนื่องจากผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายและกลยุทธ์ในการปรับราคาเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะตลาด ซึ่งชดเชยผลตอบแทนของการลงทุนที่ต่ำ และรายได้จากเบี้ยประกันใหม่ที่มีอัตราการเติบโตที่ช้าลง
ฟิทช์ คาดว่า บริษัทยังคงมีสัดส่วนการลงทุนอยู่ในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องที่ดี โดยตราสารหนี้และเงินฝากอยู่ในระดับที่ 84% ของเงินลงทุนทั้งหมด ณ สิ้นไตรมาสที่สามของปี 2563 โดยสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนลดลงและอยู่ที่ระดับ 9% ซึ่งต่ำกว่าค่าฉลี่ยของปี 2560-2562 ที่ 11% เนื่องจากความผันผวนของตลาดทุนในปี 2563 อย่างไรก็ตามฟิทช์คาดว่า TLI จะยังคงดำเนินกลยุทธ์ด้านการลงทุนอย่างระมัดระวัง และลงทุนในสินทรัพย์ที่ความเสี่ยงไม่สูงมากนัก เช่น ตราสารหนี้กลุ่มระดับลงทุนจากภาคธุรกิจ เพื่อรักษาระดับของผลตอบแทนโดยรวม
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากล/อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ
- การปรับตัวลดลงของสัดส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย (RBC) มาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 280% และ การปรับตัวแย่ลงของระดับเงินกองทุนของบริษัทซึ่งวัดจากแบบจำลอง Fitch Prism Model เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง
- การปรับตัวลดลงของความสามารถในการทำกำไรซึ่งสะท้อนจากอัตราส่วนกำไรก่อนภาษีเงินได้ต่อสินทรัพย์ที่ต่ำกว่า 1% เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากล
- การปรับตัวเพิ่มขึ้นของระดับเงินกองทุนของ TLI ซึ่งวัดจากแบบจำลอง Fitch Prism Model ให้อยู่ในระดับแข็งแกร่ง (‘Strong’) ได้อย่างต่อเนื่อง และ
- บริษัทมีขนาดของธุรกิจที่ใหญ่ขึ้นและมีการกระจายความเสี่ยงของธุรกิจ (business diversification) ที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เช่น บริษัทมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมหลากหลายประเภทธุรกิจมากขึ้น ธุรกิจมีการกระจายตัวเชิงภูมิศาสตร์ที่ดีขึ้น และช่องทางการขายมีการกระจุกตัวที่ลดลง
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ
- อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศของ TLI ไม่สามารถปรับเพิ่มขึ้นได้อีก เนื่องจากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศที่ ‘AAA(tha)’ เป็นอันดับเครดิตที่สูงที่สุดแล้ว
การพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)
ระดับคะแนนที่สูงที่สุดสำหรับความสัมพันธ์ของ ESG ต่ออันดับเครดิต (หากมีการเปิดเผย) แสดงว่าระดับคะแนนจะอยู่ที่ระดับ 3 ซึ่งหมายความว่าปัจจัยด้าน ESG จะไม่ส่งผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบในระดับที่น้อยมากต่ออันดับเครดิตของธนาคาร ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยจากลักษณะของธุรกิจหรือจากการบริหารจัดการของธนาคารก็ตามสาหรับรายละเอียดเพิ่มเติมหาได้จาก www.fitchratings.com/esg
ติดต่อ
Primary Analysts
Siew Wai Wan (อันดับเครดิตสากล)
Senior Director
+65 6796 7217
Fitch Ratings Singapore Pte Ltd
One Raffles Quay, South Tower #22-11
Singapore 048583
ชาลี ฉัตรเสถียรพงศ์ (อันดับเครดิตภายในประเทศ)
Associate Director
+66 2108 0162
บริษัท ฟิทช์เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด
ชั้น 17 อาคารปาร์คเวนเชอร์ 57 ถนน วิทยุ
ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
Secondary Analysts
Siew Wai Wan (อันดับเครดิตภายในประเทศ)
Senior Director
+65 6796 7217
ชาลี ฉัตรเสถียรพงศ์ (อันดับเครดิตสากล)
Associate Director
+66 2108 0162
Committee Chairperson
Jeffrey Liew
Senior Director
+852 2263 9939
ข้อมูลเพิ่มเติมหาได้ที่ www.fitchratings.com
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ