หมวดหมู่: บริษัทจดทะเบียน

FITCH12 26


ฟิทช์ จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ของ AIS ที่ ‘AA+(tha)’

       ฟิทช์ เรทติ้งส์- กรุงเทพฯ- 1 เมษายน 2564: บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศจัดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) หุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิชุดใหม่ จำนวนไม่เกิน 6.5 พันล้านบาท ของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ที่ ‘AA+(tha)’ เงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ครั้งนี้จะนำไปใช้สำหรับชำระคืนเงินกู้และใช้สำหรับเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจและการลงทุน หุ้นกู้ดังกล่าวมีสถานะเท่าเทียมกับหนี้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิของ AIS และได้รับการจัดอันดับเครดิตในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัทที่ ‘AA+(tha)’

ปัจจัยที่มีผลต่ออันดับเครดิต

อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะการเงินรวม: ฟิทช์จัดอันดับเครดิตของ AIS โดยพิจารณาจากสถานะทางการเงินรวมของกลุ่มซึ่งสะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับบริษัทลูกที่ประกิบธุรกิจให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ AWN (ซึ่งมีอันดับเครดิตที่ ‘AA+(tha)’ แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ) ตามหลักเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตของฟิทช์ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทแม่กับบริษัทลูก (Parent and Subsidiary Rating Linkage Criteria) AIS ถือหุ้นทั้งหมดใน AWN ทำให้มีอำนาจควบคุมการดำเนินธุรกิจ และนโยบายด้านการเงิน และการลงทุนของ AWN โดย AWN เป็นผู้ดำเนินการธุรกิจให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลุ่ม โดยมีสัดส่วนรายได้ และกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) คิดเป็นร้อยละ 93 และ 81 ของกลุ่ม ตามลำดับในปี 2562

ผลกระทบจากการแพร่ระบาดโคโรน่าไวรัสที่ยืดเยื้อ : ฟิทช์ คาดว่าการเติบโตของเศรฐกิจไทยจะอยู่ในระดับต่ำ หลังจากการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส และมาตรการต่างๆในการควบคุมการแพร่ระบาด ซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตของ AIS ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ฟิทช์คาดว่าการฟื้นตัวของธุรกิจของ AIS จะเป็นไปอย่างช้าๆ ในปี 2564 โดยมีการเติบโตของรายได้จากการให้บริการที่ประมาณร้อยละ 2-3 เศรฐกิจไทยจะยังคงได้รับแรงกดดันจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อ่อนแอ และการพึ่งพิงรายได้จากการท่องเที่ยว ซึ่งต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว ผู้ใช้บริการของ AIS ส่วนใหญ่จะอยู่ในระบบเติมเงิน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากกว่า กลุ่มผู้ใช้บริการระบบรายเดือน จากสภาะวะการว่างงานที่สูงขึ้น และเศรฐกิจที่อ่อนแอ

การแข่งขันด้านราคาที่ไม่มาก: ฟิทช์คาดว่าการแข่งขันด้านราคาในปี 2564 จะยังคงไม่สูงมาก เนื่องจากผู้ประกอบการน่าจะมุ่งเน้นการทำกำไร มากกว่าการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดโดยการให้ส่วนลดค่าเครื่อง ฟิทช์คาดว่านโยบายดังกล่าวน่าจะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรจากการให้บริการด้านข้อมูลให้ดีมากขึ้น และสนับสนุนให้ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่การให้บริการด้านข้อมูลมีความสำคัญมากขึ้นในระยะยาว

ความสามารถในการรองรับการลงทุน: ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน (FFO Net Leverage) จะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับประมาณ 1.3 เท่าในปี 2564 (2563 อยู่ที่ 1.1 เท่า) เนื่องจากค่าใช้จ่ายด้านการลงทุน และค่าคลื่นความถี่ที่อยู่ในระดับสูง AIS มีแผนใช้จ่ายด้านการลงทุน (ไม่รวมค่าคลื่นความถี่) ประมาณ 2.5-3.0 หมื่นล้านบาท ในปี 2564 (ปี 2563 อยู่ที่ 2.8 หมื่นล้าน) ในขณะที่มีค่าใช้จ่ายด้านคลื่นความถี่ยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 2.8 หมื่นล้านบาท (ปี 2563 อยู่ที่ 2.9 หมื่นล้านบาท) อย่างไรก็ตามอัตราส่วนหนี้สินที่อยู่ในระดับต่ำที่ 1.1 เท่า ณ สิ้นปี 2563 น่าจะทำให้บริษัทมีความคล่องตัวทางการเงินในการรองรับการลงทุนที่เพิ่มขึ้นได้

ฟิทช์ เชื่อว่า AIS มีความคล่องตัวในการบริหารจัดการอัตราส่วนหนี้สิน ซึ่งได้แก่การปรับลดการลงทุนในเครือข่าย 5G หรือปรับลดการจ่ายเงินปันผล หากความต้องการใช้งานเครือข่าย 5G อยู่ในระดับต่ำกว่าที่คาด AIS ดำเนินการขยายเครือข่าย 5G ในหัวเมืองหลักอย่างต่อเนื่อง และได้เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2563   แม้ว่าความต้องการใช้งานเครือข่าย 5G ในประเทศไทยยังคงมีความไม่แน่นอน บริษัทคาดว่าจะใช้ประโยชน์จากเครือข่าย 5G ในการขยายความครอบคลุมของการให้บริการระบบอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงแบบไร้สายได้มากขึ้น ฟิทช์คาดว่าผลตอบแทนจากการลงทุนเครือข่าย 5G จะอยู่ในระดับต่ำในช่วงเริ่มต้น และค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนในการก่อสร้างเครือข่าย 5G ที่สูงจะกดดันกระแสเงินสดสุทธิในช่วง 2 ปีข้างหน้า

ผู้นำตลาด : AIS เป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ที่สุดในประเทสไทย ฟิทช์เชื่อว่า AIS จะสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดตามรายได้จากการให้บริการให้อยู่ในระดับประมาณร้อยละ 45-50 ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า (ปี 2563 อยู่ที่ร้อยละ 46) นอกจากนี้สถานะทางธุรกิจของ AIS ยังได้รับการสนับสนุนจาก ขนาดธุรกิจและฐานลูกค้าที่มีขนาดใหญ่ ชื่อเสียงทางการค้าที่เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดี และเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ครอบคลุมมากที่สุด    AIS ได้ขยายธุรกิจไปสู่การให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง โดยรายได้จากการให้บริการดังกล่าวมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดย ณ สิ้นปี 2563 บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ประมาณร้อยละ 12 (2561 อยุ่ที่ร้อยละ 8)  อย่างไรก็ตามรายได้จากการให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงยังมีสัดส่วนต่ำที่ประมาณร้อยละ 5 ของรายได้จากการให้บริการทั้งหมดของ AIS ในปี 2563

การกำหนดอันดับเครดิตโดยสรุป

อันดับเครดิตของ AIS สะท้อนถึงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในฐานะผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย และสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง AIS มีอันดับเครดิตสูงกว่าบริษัท โทเทิ่ล แอ็คแซส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC ซึ่งมีอันดับเครดิตที่ ‘AA(tha)’ แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ เนื่องจาก DTAC มีขนาดรายได้ที่เล็กกว่า มีสถานะทางการตลาดที่ด้อยกว่า และมีอัตราส่วนกำไรต่อรายได้ที่ต่ำกว่า AIS อันดับเครดิตของ DTAC ได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหนึ่งอันดับจากอันดับเครดิตโดยลำพัง (Standalone Credit Profile) ที่ ‘aa-(tha)’ เพื่อสะท้อนถึงความเกี่ยวเนื่องในระดับปานกลางระหว่าง DTAC กับ Telenor โดย Telenor มีอำนาจควบคุมคณะกรรมการและผู้บริหารของ DTAC

อันดับเครดิตของ AIS มีความแข็งแกร่งกว่าอันดับเครดิตของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) หรือ ThaiBev ซึ่งมีอันดับเครดิตที่ ‘AA(tha)’ เครดิตพินิจแนวโน้มเป็นบวก ซึ่งเป็นผู้นำในตลาดสุราและเบียร์ในประเทศไทย เวียดนาม และเมียนมาร์ AIS และ ThaiBev มีสถานะทางธุรกิจในระดับใกล้เคียงกัน เนื่องจากบริษัททั้งสองเป็นผู้นำในธุรกิจที่ตนดำเนินการอยู่ AIS มีการกระจายตัวของธุรกิจในด้านภูมิภาคที่น้อยกว่า ThaiBev แต่อันดับเครดิตภายในประเทศของ AIS อยู่ในระดับสูงกว่า ThaiBev อยู่ 1 อันดับเนื่องจาก AIS มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งกว่า

อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ AIS อยู่ต่ำกว่าอันดับเครดิตของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. ซึ่งมีอันดับเครดิตที่ ‘AAA(tha)’ แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติแบบครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เนื่องจาก AIS มีสถานะทางธุรกิจที่อ่อนแอกว่า ปตท. มีขนาดธุรกิจที่ใหญ่กว่า และมีการกระจายตัวของธุรกิจมากกว่า AIS ปตท. เป็นผู้ดำเนินธุรกิจก๊าซธรรมชาติในขั้นกลางน้ำและปลายน้ำเพียงผู้เดียวในประเทศไทย และเป็นผู้ให้บริการรายใหญ่ในธุรกิจต้นน้ำของก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน รวมทั้งยังเป็นผู้ดำเนินธุรกิจรายใหญ่ในธุรกิจน้ำมันและปิโตรเคมีในประเทศไทย AIS และ ปตท. มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วน FFO Net Leverage อยู่ที่ระดับประมาณ 1.2-1.3 เท่า สำหรับ AIS และ 2 เท่าสำหรับ ปตท.

สมมุติฐานที่สำคัญ

สมมุติฐานที่สำคัญของฟิทช์ที่ใช้ในการประมาณการ

- รายได้จากการให้บริการเติบโตร้อยละ 2-3 ต่อปี ในปี 2564

- EBITDA Margin ในปี 2564 และ 2565 อยู่ที่ร้อยละ 43-44 (2563: ร้อยละ 44.3)

- เงินลงทุนในการขยายโครงข่ายอยู่ที่ 3.5 หมื่นล้านบาทต่อปี ในช่วงปี 2564 และ 2565 (2563: 2.8 หมื่นล้านบาท)

- จ่ายเงินปันผลในอัตราร้อยละ 75 ของกำไร

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

AIS

ปัจจัยบวก

- บริษัทมีกระแสเงินสดสุทธิเป็นบวก และอัตราส่วน FFO Net Leverage ลดลงต่ำกว่า 1.0 เท่าอย่างต่อเนื่อง โดยยังคงรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดตามรายได้การให้บริการ

ปัจจัยลบ

- การเพิ่มขึ้นของอัตราส่วน FFO Net Leverage สูงกว่า 1.8 เท่าอย่างต่อเนื่อง

- การเปลี่ยนแปลงของกฎหมาย หรือกฎระเบียบของกิจการโทรคมนาคมที่ส่งผลในแง่ลบต่อบริษัท

สภาพคล่อง

สภาพคล่องที่บริหารจัดการได้: ฟิทช์มองว่าสภาพคล่องของ AIS สามารถบริหารจัดการได้ โดยสภาพคล่องของ AIS ได้รับการสนับสนุนจากเงินสดที่อยู่ในระดับสูงจำนวน 1.8 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นปี 2563 ซึ่งเพียงพอต่อหนี้ที่ถึงกำหนดชำระในอีก 12 เดือนข้างหน้าจำนวน 1.4 หมื่นล้านบาท   AIS น่าจะมีกระแสเงินสดที่ติดลบในปี 2564 จำนวนประมาณ 8.8 พันล้านบาท เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการลงทุนก่อสร้างเครือข่าย 5G และการชำระค่าคลื่นความถี่ แต่ฟิทช์คาดว่า บริษัทน่าจะสามารถหาแหล่งเงินกู้ใหม่ในการสนับสนุนการลงทุนดังกล่าว ฟิทช์เชื่อว่า AIS มีความสามารถในการเข้าถึงตลาดเงินกู้ภายในประเทศเนื่องจากสถานะทางเครดิตที่ดี นอกจากนี้สภาพคล่องของ AIS ยังได้รับการสนับสนุนจากวงเงินจากธนาคารที่สามารถเบิกกู้ได้จำนวน 3 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นปี 2563

ติดต่อ

Primary Analyst

โอบบุญ ถิรจิต

Director

+662 108 0159

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด

ชั้น 17, อาคารปาร์คเวนเชอร์, เลขที่ 57 ถนนวิทยุ, แขวงลุมพินี, เขตปทุมวัน

กรุงเทพฯ 10330

Secondary Analyst

ณิชยา สีมานนทปริญญา

Associate Director

+662 108 0161

Committee Chairperson

Nitin Soni

Senior Director

+65 6796 7235

ข้อมูลเพิ่มเติมหาได้ที่ www.fitchratings.com

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

FBS728

EXNESS

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!