หมวดหมู่: มติ ครม.

GOV 6


โครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับประชาชนไทย โดยการจองล่วงหน้า (AstraZeneca)

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอดังนี้

          1. เห็นชอบโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับ ประชาชนไทยโดยการจองล่วงหน้า (AstraZeneca) และการจัดซื้อวัคซีนกับบริษัท AstraZeneca (Thailand) จำกัด และบริษัท AstraZeneca UK จำกัด ในวงเงิน 6,049,723,117.- บาท โดยให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติจัดทำสัญญาการจัดหาวัคซีนโดยการจองล่วงหน้า (Advance Market Commitment; AMC) ภายใต้เงื่อนไขว่ามีโอกาสที่จะได้รับวัคซีนหรือไม่ได้รับวัคซีนดังกล่าว ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับผลการวิจัยพัฒนาหรือเหตุอื่นๆ ในวงเงิน 2,379,430,600 บาท และให้กรมควบคุมโรคจัดทำสัญญาในการจัดซื้อและบริหารจัดการวัคซีนที่ได้จากการจองล่วงหน้านั้น เมื่อคู่สัญญาสามารถจัดหาวัคซีนได้สำเร็จ (Purchase Agree For Supply of AZD1222 in Thailand; PA)) ในวงเงิน 3,670,292,517.- บาท โดยให้ดำเนินการจัดทำสัญญาทั้ง 2 ฉบับ เป็นสัญญาในโครงการที่เกี่ยวข้องแบบสัญญาเป็นชุด ตามเงื่อนไขต่างๆ ที่ระบุในร่างสัญญา โดยให้จัดทำในคราวเดียวกัน โดยสัญญาจัดซื้อวัคซีนมีผลผูกพันเมื่อได้รับงบประมาณเรียบร้อยแล้วเท่านั้น ทั้งนี้ ให้กรมควบคุมโรคจัดทำคำของบประมาณสำหรับการจัดซื้อวัคซีนตามสัญญาดังกล่าวต่อไป

          2. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ .. 2564 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อจัดหาวัคซีนโควิด 19 โดยการจองล่วงหน้า ในวงเงิน 2,379,430,600 บาท ให้กระทรวงสาธารณสุข โดยสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เพื่อดำเนินการจัดหาวัคซีนโดยการจองล่วงหน้า (Advance Market Commitment; AMC) จากบริษัท AstraZeneca (Thailand) จำกัด และบริษัท AstraZeneca UK จำกัด ภายใต้เงื่อนไขว่า มีโอกาสที่จะได้รับวัคซีน หรือไม่ได้รับวัคซีนดังกล่าว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลการวิจัยพัฒนาหรือเหตุอื่นๆ

          สาระสำคัญ

          1. โครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD-19) สำหรับ ประชาชนไทยโดยการจองล่วงหน้า (AstraZeneca) มีวัตถุประสงค์เพื่อการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยการจองล่วงหน้า สำหรับให้บริการแก่ประชาชนไทยได้ในเวลาที่ใกล้เคียงกับประเทศอื่นๆ ผ่านความร่วมมือแบบทวิภาคีกับบริษัทผู้ผลิตวัคซีนที่กำลังทดสอบวัคซีนในคนระยะที่ 3 ภายใต้กรอบวงเงิน 6,049,723,117.- บาท ประกอบด้วย

                 1) เงินจัดหาวัคซีนโดยการจองล่วงหน้า วงเงิน 2,379,430,600 บาทรับผิดชอบโดยสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ซึ่งหนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร 0723/3471 ลงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 แจ้งว่าได้นำเรื่องนี้กราบเรียนนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาแล้วนายกรัฐมนตรีมีบัญชาอนุมัติให้กระทรวงสาธารณสุข โดยสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ดำเนินโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับประชาชนไทย โดยการจองล่วงหน้าแบบทวิภาคี กับผู้ผลิตวัคซีนบริษัท AstraZeneca จำกัด ตามนัยพระราชบัญญัติความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ .. 2561 มาตรา 18 มาตรา 21 และมาตรา 22 โดยมีสาระสำคัญในการทำความตกลงและร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานของเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศในกิจการที่เกี่ยวกับการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของสถาบัน โดยใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ .. 2564 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยี่ยวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 งบเงินอุดหนุน เงินอุดหนุนทั่วไป ภายในวงเงิน 2,379,430,600 บาท

                 2) เงินจัดซื้อวัคซีน ที่ได้จากการจองล่วงหน้า มื่อคู่สัญญาสามารถจัดหาวัคซีนให้ได้สำเร็จ วงเงิน 1,586,287,067.- บาท รับผิดชอบโดยกรมควบคุมโรค

                 3) เงินบริหารจัดการวัคซีน วงเงิน 2,084,005,450.- บาท รับผิดชอบโดยกรมควบคุมโรค

          2. ระยะเวลาดำเนินการ

                 เดือนพฤศจิกายน 2563 ถึง ธันวาคม 2564

          3. เป้าหมาย

                 จำนวนวัคซีนที่จะดำเนินการจัดหา โดยการจองล่วงหน้าผ่านความร่วมมือแบบทวิภาคีกับบริษัทผู้ผลิตวัคซีนที่กำลังทดสอบวัคซีนในคนระยะที่ 3 ได้แก่ บริษัท AstraZeneca (Thailand) จำกัด และบริษัท AstraZeneca UK จำกัด จำนวน 26 ล้านโด๊ส

          4. ประโยชน์ที่ได้รับ

                 ประเทศไทยสามารถจัดหาวัคซีนได้ภายในปีงบประมาณ .. 2564 และจะทำให้ลดอัตราการป่วย การเสียชีวิต และค่าใช้จ่ายภาครัฐในการดูแลผู้ป่วยจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจและสังคมให้กลับสู่สภาวะปกติได้โดยเร็ว ลดการสูญเสียเชิงเศรษฐกิจได้เป็นมูลค่ากว่าสี่แสนล้านบาท

          5. ผลผลิต

                 จำนวนวัคซีน 26 ล้านโด๊ส สำหรับประชากรกลุ่มเป้าหมายตามคำแนะนำของคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค จำนวน 13 ล้านคน

          6. ผลลัพธ์

                 ประชากรกลุ่มเป้าหมายตามคำแนะนำของคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค

          7. ผลกระทบ

                 ลดอัตราการป่วย การเสียชีวิต และค่าใช้จ่ายภาครัฐในการดูแลผู้ป่วยจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจและสังคมให้กลับสู่สภาวะปกติได้โดยเร็ว

          8. หน่วยงานรับผิดชอบ

                 กระทรวงสาธารณสุข โดยสถาบันวัคซีนแห่งชาติ และกรมควบคุมโรค

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 17 พฤศจิกายน 2563

 

A11468

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

FBS728

EXNESS

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!