หมวดหมู่: Leasing

TRIS7 24


ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กร 'บ. เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง' ที่ 'BBB+' แนวโน้ม 'Stable'

         ริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ'BBB+' ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ‘Stable’ หรือ คงที่ โดยอันดับเครดิตสะท้อนการเติบโตของธุรกิจของบริษัทที่อยู่ในระดับปานกลางและสม่ำเสมอ ตลอดจนคุณภาพสินทรัพย์ที่บริหารจัดการได้ ความสามารถในการรักษาผลประกอบการ รวมถึงการสนับสนุนทั้งทางด้านธุรกิจและการเงินจากกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท

         อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตก็มีข้อจำกัดจากฐานทุนของบริษัทที่อยู่ในระดับปานกลาง ตลอดจนภาระหนี้ที่อยู่ในระดับค่อนข้างสูง และแรงกดดันที่มีต่อความสามารถในการทำกำไรอันเนื่องมาจากการแข่งขันที่รุนแรงและภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอด้วยเช่นกัน

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

สถานะทางธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคง

          สถานะทางการตลาดของบริษัทปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเห็นได้จากพอร์ตสินเชื่อรวมที่มีอัตราการเติบโตอย่างมั่นคงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ยอดสินเชื่อคงค้างของบริษัทเติบโต 4.13 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นปี 2563 ซึ่งเติบโตที่ระดับ 15% จาก 3.59 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นปี 2562 โดยเป็นผลมาจากการทำการตลาดและการขยายตลาดด้วยการเปิดสาขา 2 แห่งในปี 2562 ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2563 พอร์ตสินเชื่อของบริษัทเติบโตประมาณ 2% จากสิ้นปีก่อนหน้า โดยเพิ่มขึ้นเป็น 4.21 หมื่นล้านบาท จากการเติบโตของสินเชื่อรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ใช้ทะเบียนรถเป็นหลักประกัน บริษัทมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นผู้ประกอบการขนส่งและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรซึ่งมีความอ่อนไหวค่อนข้างน้อยต่อสภาพเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19)

               ทริสเรทติ้ง ประมาณการว่ายอดสินเชื่อใหม่ของบริษัทจะเติบโต 2.8% ในปี 2563 และจะเติบโตเฉลี่ย 3.7% ต่อปีในระหว่างปี 2564-2565 โดยสินเชื่อเช่าซื้อรถและสินเชื่อส่วนบุคคลที่ใช้ทะเบียนรถเป็นหลักประกัน น่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มรถบรรทุกมือสองในภาคการขนส่งซึ่งยังคงมีความต้องการที่ค่อนข้างมากแม้ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

คุณภาพสินเชื่อโดยรวมน่าจะยังคงดีอยู่แม้ว่าจะมีแนวโน้มอ่อนแอลง

         ทริสเรทติ้ง คาดหวังว่าบริษัทจะยังคงรักษามาตรฐานในการอนุมัติสินเชื่อที่เข้มงวดและกระบวนการจัดเก็บหนี้ที่มีประสิทธิภาพเพื่อที่จะช่วยควบคุมผลขาดทุนจากเครดิตที่อาจเกิดขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสภาพเศรษฐกิจที่แย่ลงจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งก็คาดว่าบริษัทจะยังคงได้รับผลกระทบบ้าง จากคุณภาพสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มเสื่อมถอยลง โดยทริสเรทติ้งประมาณการว่าบริษัทจะมีค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองหนี้สูญต่อปีอยู่ในช่วง 1.4%-2% ในระหว่างปี 2563-2565

         อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ตามมาตรฐานบัญชีใหม่ TFRS9 ต่อสินเชื่อรวมของบริษัทลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 3.09% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2563 จาก 3.45% ณ สิ้นปี 2562 อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนดังกล่าวยังถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ในอุตสาหกรรม โดยบริษัทมีค่าใช้จ่ายหนี้สูญสำหรับปี 2562 และครึ่งแรกของปี 2563 (ปรับอัตราส่วนเป็นตัวเลขเต็มปี) อยู่ที่ระดับ 1.2%

           ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2563 อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของบริษัทตามมาตรฐานบัญชี TFRS9 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 74.9% จากระดับ 67.9% ณ สิ้นปี 2562

คุณภาพในการทำกำไรยังคงเดิม

         ทริสเรทติ้ง คาดว่าบริษัทจะยังคงรักษาคุณภาพในการทำกำไรต่อไปในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า ทริสเรทติ้ง ประเมินความสามารถในการสร้างผลกำไรของบริษัทอยู่ในระดับปานกลางโดยวัดจากอัตราส่วนกำไรก่อนภาษีเงินได้ต่อสินทรัพย์เสี่ยงถัวเฉลี่ยที่ระดับ 2.8% ในปี 2561?2562 ส่วนในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 นั้น อัตราส่วนดังกล่าวเมื่อปรับให้เป็นตัวเลขเต็มปีอยู่ที่ระดับ 2.5% โดยบริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 431 ล้านบาท ในขณะที่ในปี 2562 บริษัทมีกำไรสุทธิเติบโต 7% มาอยู่ที่ระดับ 870 ล้านบาทจากปี 2561 ซึ่งกำไรสุทธิที่ปรับเพิ่มขึ้นนั้นมีสาเหตุหลักมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่สูงขึ้น ถึงแม้ว่าค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและค่าใช้จ่ายหนี้สูญจะเพิ่มขึ้นด้วยก็ตาม

         ทริสเรทติ้ง ประมาณการว่าอัตราส่วนกำไรก่อนภาษีเงินได้ต่อสินทรัพย์เสี่ยงถัวเฉลี่ยของบริษัทจะอยู่ที่ระดับประมาณ 2%-2.2% ในระหว่างปี 2563?2565 ประมาณการดังกล่าวเป็นผลมาจากการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งที่บริษัทจะรักษาส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยรับและดอกเบี้ยจ่าย ในขณะที่มีการควบคุมค่าใช้จ่ายหนี้สูญและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเอาไว้ได้ ถึงแม้ว่าจะมีการแข่งขันที่รุนแรงในกลุ่มสินเชื่อสำหรับรถเพื่อการพาณิชย์ที่ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนลดลงก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่าการขยายธุรกิจไปยังสินเชื่อสำหรับรถบรรทุกมือสองเพื่อการพาณิชย์และสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ซึ่งน่าจะช่วยสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น

         รวมทั้งการมีอัตราดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงจะช่วยสนับสนุนให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยรับและดอกเบี้ยจ่ายคงอยู่ที่ระดับ 4.5%-5.0% ได้ในช่วงปี 2563 จนถึงปี 2565 อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่าค่าใช้จ่ายหนี้สูญของบริษัทในระหว่างปี 2563?2565 (font) จะเพิ่มขึ้นมากกว่าในช่วงที่ผ่านมาเล็กน้อยจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

คาดว่าฐานทุนของบริษัทจะแข็งแรงขึ้น

          บริษัทมีอัตราส่วนเงินทุนที่ปรับความเสี่ยงคงอยู่ในระดับต่ำที่ 11.9% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2563 ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดความสามารถในการขยายสินเชื่อ อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่าฐานทุนของบริษัทจะปรับตัวแข็งแรงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการเพิ่มทุนที่ราว ๆ 2.5 พันล้านบาทในปี 2564 โดยทริสเรทติ้งประมาณการว่าอัตราส่วนเงินทุนที่ปรับความเสี่ยงโดยเฉลี่ย 5 ปี (2561?2565) ที่รวมการเพิ่มทุนเข้าไปด้วยจะอยู่ที่ระดับ 15.4% ซึ่งระดับทุนของบริษัทที่แข็งแรงขึ้นจะช่วยสนับสนุนการขยายธุรกิจในระยะปานกลาง

          บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนเพิ่มขึ้นเป็น 7.9 เท่า ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2563 ซึ่งอัตราส่วนดังกล่าวยังต่ำกว่าข้อกำหนดทางการเงินที่บริษัทต้องดำรงอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนไม่ให้เกิน 10 เท่า

สภาพคล่องยังคงเพียงพอถึงแม้ว่าอัตรส่วนเงินกู้ระยะสั้นค่อนข้างสูง

          ในมุมมองของทริสเรทติ้งเห็นว่าสถานะสภาพคล่องของบริษัทอยู่ในระดับปานกลาง เนื่องจากบริษัทใช้เงินกู้ระยะสั้นเพื่อควบคุมต้นทุนทางการเงินให้อยู่ในระดับต่ำ จึงทำให้มีความไม่สอดคล้องกันในเรื่องของอายุของสินทรัพย์และหนี้สินและความเสี่ยงจากการกู้ยืมใหม่เพื่อชำระหนี้เก่า ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2563 เงินกู้ระยะสั้นของบริษัทซึ่งรวมถึงส่วนของเงินกู้ระยะยาวที่ครบกำหนดภายใน 1 ปีนั้นมีสัดส่วนประมาณ 64% ของเงินกู้รวม ในขณะที่อัตราส่วนความครอบคลุมของสภาพคล่อง (Liquidity Coverage Ratio, LCM) โดยเฉลี่ย 2 ปีของบริษัทอยู่ในระดับค่อนข้างอ่อนแอ โดยอยู่ที่ 0.01 เท่า อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่าวงเงินสำรองจากหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท คือ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และวงเงินจากสถาบันการเงินอื่น ๆ จะมีเพียงพอที่จะรองรับการชำระตราสารหนี้ระยะสั้นที่บริษัทระดมจากตลาดทุนได้

แหล่งเงินทุนที่เพียงพอ

         การที่บริษัทสามารถเข้าถึงได้ทั้งตลาดตราสารหนี้และตลาดตราสารทุน รวมทั้งยังได้รับวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินอีกหลายแห่งนั้น ทำให้บริษัทมีแหล่งเงินทุนที่หลากหลายที่จะช่วยเสริมสถานะสภาพคล่องให้มีเพียงพอ โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2563 บริษัทได้รับวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินหลายแห่งรวมทั้งสิ้นจำนวน 3.77 หมื่นล้านบาท โดยที่ 18% ของวงเงินดังกล่าวนั้นยังไม่ได้เบิกใช้ นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจำนวน 3.9 พันล้านจากธนาคารออมสิน เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องในช่วงที่ช่วยเหลือลูกหนี้ อีกด้วย

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

ทริสเรทติ้งมีสมมติฐานกรณีพื้นฐานสำหรับการดำเนินงานของบริษัทในระหว่างปี 2563-2565 ดังนี้

- การขยายตัวของสินเชื่อใหม่จะอยู่ที่ประมาณ 2.8% ในปี 2563 และจะเติบโตที่ระดับ 3.7% ต่อปีหลังจากนั้น

- ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับ 4.5%-5%

- ค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อจะอยู่ที่ประมาณ 1.4%-2%

แนวโน้มอันดับเครดิต

          แนวโน้มอันดับเครดิต 'Stable' หรือ 'คงที่' อยู่บนพื้นฐานการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถดำรงสถานะทางการตลาดโดยเฉพาะในกลุ่มยานพาหนะเพื่อการพาณิชย์ต่อไปได้ แนวโน้มอันดับเครดิตยังสะท้อนถึงฐานทุนของบริษัทที่คาดว่าจะแข็งแรงขึ้นและการได้รับการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งทริสเรทติ้งยังคาดว่าบริษัทจะยังคงมีระบบการบริหารความเสี่ยงและระบบการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพเพื่อจะช่วยให้บริษัทสามารถควบคุมคุณภาพสินเชื่อให้อยู่ในระดับปัจจุบันหรือดีขึ้นได้อีกด้วย

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

         อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจมีการปรับเพิ่มขึ้นได้หากบริษัทสามารถปรับสถานะทางการตลาดให้ดีขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญในขณะที่ยังสามารถรักษาคุณภาพสินเชื่อ และมีผลประกอบการทางการเงินอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และมีฐานทุนที่แข็งแกร่งด้วยอัตราส่วนเงินทุนที่ปรับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นสูงกว่าระดับ 25%

         ในทางกลับกัน อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจมีการปรับลดลงหากสถานะทางการตลาดของบริษัทอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญ หรือหากบริษัทขยายธุรกิจด้วยการพึ่งพาเงินกู้เป็น จนทำให้อัตราส่วนเงินทุนที่ปรับความเสี่ยงลดต่ำลงกว่าระดับ 9% ในขณะที่อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมที่ถดถอยลงอย่างมาก หรือหากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยรับและดอกเบี้ยจ่ายลดลงมากกว่าที่ทริสเรทติ้งคาดการณ์ไว้ก็อาจส่งผลกดดันต่อความสามารถในการทำกำไรและส่งผลกระทบในทางลบต่ออันดับเครดิตได้ด้วยเช่นกัน

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร, 17 กุมภาพันธ์ 2563

บริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (ASK)

อันดับเครดิตองค์กร: BBB+

แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com

ติดต่อ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500

             บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2563 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้

            ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

FBS728

EXNESS

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!