หมวดหมู่: แบงก์พาณิชย์

TRIS7 1


ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 'บ.ทุนธนชาต' ที่ 'A' แนวโน้ม 'Stable'

      ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ A’ พร้อมคงแนวโน้มอันดับเครดิต Stable’ หรือ ‘คงที่’ อันดับเครดิตสะท้อนถึงโครงสร้างธุรกิจที่หลากหลายของบริษัท ภาระหนี้สินทางการเงินที่อยู่ในระดับต่ำ และสถานะด้านความเสี่ยงที่อยู่ในระดับที่สามารถจัดการได้ อันดับเครดิตยังคงคำนึงถึงตำแหน่งทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจที่เกี่ยวข้องของบริษัทย่อยที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม อับดับเครดิตถูกจำกัดด้วยผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19) ต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัท ในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

โครงสร้างทางธุรกิจที่กระจายตัว

      สถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัทได้รับการสนับสนุนจากโครงสร้างทางธุรกิจที่กระจายตัวซึ่งครอบคลุมถึงธุรกิจธนาคารพาณิชย์และธุรกิจด้านการเงินอื่น ๆ ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจเช่าซื้อ ธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ธุรกิจประกัน และธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ บริษัทมีบริษัทย่อยที่สำคัญ 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (THANI), บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) (TNS) และ บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) (TNI) สำหรับธุรกิจธนาคาร บริษัทมีสัดส่วนการถือหุ้น 20% ในธนาคารทหารไทย (TMB) ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของประเทศไทย ในอีกหลายปีข้างหน้าทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้จากการดำเนินงานของบริษัทจะประกอบด้วยส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ (TMB) 30% และอีก 70% ที่เหลือจะมาจากบริษัทย่อยและบริษัทร่วมอื่น ๆ

               การประเมินสถานะทางธุรกิจของบริษัทสะท้อนถึงตำแหน่งทางการตลาดที่แข็งแกร่งของบริษัทย่อยที่สำคัญของบริษัท โดยบริษัทราชธานีลิสซิ่งถือว่าโดดเด่น และอยู่ในตลาดเช่าซื้อรถบรรทุกและรถหรูมาอย่างยาวนาน ในขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ธนชาต มีความได้เปรียบด้านการเสนอบทวิเคราะห์ที่มีคุณภาพสูง และการดูแลกลุ่มลูกค้าสถาบันแบบครอบคลุม และบริษัทธนชาตประกันภัย ครองอันดับที่ 6 ในตลาดประกันภัยรถยนต์ โดยมีส่วนแบ่งตลาด 4.90% ในแง่ของเบี้ยประกันภัยรับรวมในปี 2562

ภาระหนี้สินทางการเงินอยู่ในระดับต่ำ

     ทริสเรทติ้ง คาดว่า บริษัทจะรักษาระดับภาระหนี้สินทางการเงินภายใต้งบการเงินรวมให้อยู่ที่ระดับต่ำได้ต่อไป โดยวัดจากอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ถึงแม้ว่าบริษัทจะมีการจ่ายเงินปันผลพิเศษ มีการซื้อคืนหุ้น และบริษัทร่วมอาจมีผลการดำเนินงานที่คาดว่าจะอ่อนแอของในปี 2563

       ในช่วง 2 ปีข้างหน้า ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทจะอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 1.50 เท่า เทียบกับ 1.08 เท่า ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2563 จากสมมติฐานกรณีพื้นฐานของทริสเรทติ้ง คาดการณ์ว่าหุ้นกู้คงค้างของบริษัททั้งหมดจะอยู่ที่ 1.1-1.3 หมื่นล้านบาทในช่วง 2 ปีข้างหน้า รวมถึงยังคงนโยบายการจ่ายเงินปันผลแบบก้าวหน้าต่อไป (Progressive Dividend Payout Policy)

ความสามารถในการทำกำไรอยู่ภายใต้แรงกดดัน

      ทริสเรทติ้ง คาดว่าความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจะอยู่ภายใต้แรงกดดันในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า สะท้อนถึงความท้าทายในการดำเนินงานของบริษัทร่วมที่กำลังเผชิญกับภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ การเสื่อมคุณภาพของสินทรัพย์ และรายได้ค่าเช่าที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งเชื่อว่าแหล่งรายได้ที่หลากหลายของบริษัทจะช่วยบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 แม้สภาพแวดล้อมด้านเครดิตจะมีความท้าทาย แต่เราก็คาดว่าผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยที่สำคัญของบริษัทจะยังคงมีเสถียรภาพในช่วง 2 ปีข้างหน้า อันเป็นผลมาจากสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่ง และการบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ

        อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยมาตรฐาน (ROAA) ของบริษัทในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 อยู่ที่ 3.59% เมื่อปรับอัตราส่วนให้เป็นตัวเลขเต็มปี ทริสเรทติ้งคาดว่ากำไรของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวม โดยคาดว่าบริษัทจะรักษาอัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยมาตรฐานที่ระดับสูงกว่า 3% ในช่วงปี 2564-2565

สถานะด้านความเสี่ยงอยู่ในระดับที่สามารถจัดการได้

      ทริสเรทติ้ง ประเมินการจัดการความเสี่ยงของบริษัทอยู่ในระดับเพียงพอ สะท้อนความคาดหวังว่าบริษัทจะสามารถจัดการความเสี่ยงด้านเครดิตที่ปรับตัวสูงขึ้นจากผลของโรคโควิด 19 ในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้าได้ ส่วนในระดับบริษัทย่อย คาดว่าผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ต่อบริษัทราชธานีลิสซิ่ง น่าจะอยู่ในระดับที่จำกัด เนื่องจากสัดส่วนของกลุ่มลูกค้าที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวของบริษัทราชธานีลิสซิ่งอยู่ในระดับต่ำ การใช้เกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อแบบระมัดระวัง และการบริหารความเสี่ยงเชิงรุก ความเสี่ยงด้านเครดิตของบริษัทหลักทรัพย์ธนชาต ก็อยู่ในระดับที่สามารถจัดการได้ เนื่องจากการปล่อยสินเชื่อเพื่อการซื้อขายหลักทรัพย์ที่อยู่ในระดับที่สามารถจัดการได้ ส่วนบริษัทธนชาตประกันภัย ยังคงใช้กลยุทธ์การเติบโตอย่างระมัดระวังโดยหลีกเลี่ยงความเสี่ยงสูง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2563 อัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนของบริษัทธนชาตประกันภัย อยู่ที่ 1,162% ซึ่งสูงกว่าระดับขั้นต่ำตามกฎข้อบังคับที่ 140%

สถานะด้านเงินทุนและสภาพคล่องอยู่ที่ระดับเพียงพอ

        สถานะด้านเงินทุนของบริษัทอยู่ในระดับเพียงพอในช่วง 12 เดือนข้างหน้า การประเมินของทริสเรทติ้งคำนึงถึงค่าเฉลี่ย 2 ปีของอัตราส่วน Stable Funding Ratio (SFR) ของบริษัทซึ่งอยู่ที่ 109.6% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2563 ความต้องการเงินทุนที่มีเสถียรภาพ (Stable Funding Needs) ของบริษัทประกอบด้วยเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม (59%) เงินกู้ยืมส่วนที่ไม่หมุนเวียน (37%) และทรัพย์สินรอการขาย (4%) ส่วนของผู้ถือหุ้นคิดเป็นประมาณ 70% ของ แหล่งเงินทุนที่มีเสถียรภาพ (Available Stable Funding) ของบริษัท ส่วนที่เหลือประกอบด้วยหุ้นกู้ระยะยาวที่มีอายุครบกำหนดที่กระจายตัว สำหรับบริษัททุนธนชาตเองนั้น บริษัทมีหุ้นกู้คงค้างอยู่ที่ 1.36 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2563 โดยประมาณ 80% ของหุ้นกู้ทั้งหมด มีอายุครบกำหนดเกิน 1 ปี

       สถานะด้านสภาพคล่องของบริษัทอยู่ในระดับที่เพียงพอในอีก 12 เดือนข้างหน้า ในมุมมองของทริสเรทติ้งแหล่งที่มาของสภาพคล่องของบริษัท สามารถรองรับภาระหนี้ผูกพันระยะสั้น ทริสเรทติ้งคาดการณ์ค่าเฉลี่ย 2 ปีของอัตราส่วน Liquidity Coverage Measure (LCM) ของบริษัทอยู่ที่ 1.14 เท่า ส่วนบริษัททุนธนชาตมีภาระหนี้ที่จะครบกำหนดในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ประกอบด้วยหุ้นกู้จำนวน 2.9 พันล้านบาท โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2563 แหล่งที่มาของสภาพคล่องของบริษัท ประกอบด้วยสินทรัพย์ระหว่างธนาคาร 5.1 พันล้านบาท และสินทรัพย์ทางการเงิน 2.5 พันล้านบาท

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

       สมมติฐานกรณีพื้นฐานของทริสเรทติ้งส่วนหนึ่งมาจากบริษัทย่อยที่สำคัญของบริษัทในช่วง 3 ปีข้างหน้า ตั้งแต่ปีการเงิน 2563 จนถึงปีการเงิน 2565

- รายได้รวม (ไม่รวมรายการพิเศษ) จะเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป ประมาณ 8-10% ต่อปี

- ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องคิดเป็นประมาณ 30% ของรายได้จากการดำเนินงานทั้งหมด

- อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้รวม อยู่ในช่วงระหว่าง 32-34%

- หุ้นกู้คงค้างของบริษัททุนธนชาต อยู่ที่ประมาณ 1.1-1.3 หมื่นล้านบาท

แนวโน้มอันดับเครดิต

        แนวโน้มอันดับเครดิต 'Stable'หรือ 'คงที่' สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถรักษาระดับภาระหนี้สินทางการเงินในระดับต่ำ การบริหารความเสี่ยงที่เข้มงวด และแหล่งที่มาของรายได้ที่กระจายตัว รวมถึงมีสถานะด้านเงินทุนและสภาพคล่องอยู่ในเกณฑ์ที่ดี

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

       ความเป็นไปได้ในการปรับเพิ่มอันดับเครดิตมีจำกัดในระยะใกล้ อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตอาจมีการปรับลดลงหากฐานทุนของบริษัท วัดจากอัตราส่วนอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนเพิ่มสูงขึ้นเกินระดับ 1.50 เท่า และ/หรือสถานะด้านเงินทุนและสภาพคล่องเสื่อมถอยลงอย่างมีนัยสำคัญ

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร, 17 กุมภาพันธ์ 2563

บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) (TCAP)

อันดับเครดิตองค์กร: A

อันดับเครดิตตราสารหนี้:

TCAP20NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,900 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 A

TCAP22NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A

TCAP238A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A

TCAP23OA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,300 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A

TCAP258A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 900 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2568 A

แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com

ติดต่อ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500

          บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2563 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้

           ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

FBS728

EXNESS

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!