หมวดหมู่: บทวิเคราะห์
logo ace
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
•    วันนี้คาดดัชนี SET Index แกว่ง Sideway ในกรอบ 1,610-1,630 จุด มองตลาดยังติดตาม 2 ปัจจัยหลัก ตปท. ทั้งความคืบหน้า Tradewar และ ถ้อยแถลงของประธาน FED ขณะที่ปัจจัยหนุนในประเทศอยู่ที่ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามรายงานผลประกอบการของบริษัทฯ ราย 3Q62 หลัง Consensus ปรับลดกำไรสุทธิต่อหุ้นลงต่อเนื่อง
•    Market Factor
•    (watch) เจรจาการค้ายังมีความไม่แน่นอนหลังประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่เห็นด้วยที่จะยกเลิกภาษีสินค้านำเข้าจากจีนสวนทางกับกระทรวงพาณิชย์จีนแถลงจะทยอยยกเลิกการจัดเก็บภาษีนำเข้าในแต่ละฝ่าย แต่อย่างไรก็ดี จับตาถ้อยแถลงของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในงาน The Economic Club of New York อาจมีความชัดเจนในการเจรจาการค้ามากขึ้น
•    (watch) ติดตามถ้อยแถลงของประธาน Fed ในงาน The Congressional Joint Economic Committee วันที่13 พ.ย. 62 เพื่อหาสัญญาณทิศทางอัตราดอกเบี้ยเงินเฟ้อและภาวะเศรษฐกิจ
•    (+) กกพ. มีมติให้คงอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) สำหรับค่าไฟฟ้างวดเดือน ม.ค.-เม.ย.63 จำนวน -11.60 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.64 บาท/หน่วย คาดว่าจะใช้เงินประมาณ 6,869 ล.บ.
•     (+) รมว.คลัง เตรียมเสนอให้ ครม. เห็นชอบมาตรการชิมช้อปใช้เฟส 3 เพิ่มอีก 2 ล้านคน โดยผู้ที่ได้รับสิทธิชิม    ช้อปใช้ในเฟส 3 แต่ได้สิทธิประโยชน์เฉพาะสิทธิเงินแคชแบ๊กคืนเท่านั้น โดยใช้จ่าย 30,000 บ.แรกได้เงิน        แคชแบ๊กคืน 15% หรือสูงสุดไม่เกิน 4,500 บ. และแคชแบ๊ก 20% เมื่อใช้จ่ายเงินตั้งแต่ 30,001-50,000 บ. หรือสูงสุดไม่เกิน 4,000 บ. รวมได้รับเงินแคชแบ๊กคืนไม่เกิน 8,500 บ. (เดลินิวส์)
•    (+) รมว.คลัง เผยกำลังพิจารณาแก้ไข พ.ร.บ.เอสเอ็มอี เพื่อสนับสนุนให้ SMEs สามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อของกองทุน สสว.หรือเอสเอ็มอีแบงก์ได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยเตรียมปรับนิยามจากเดิมเน้นที่เน้นจำนวนลูกจ้าง       ไม่น้อยกว่า 200 ราย และสินทรัพย์ไม่ต่ำกว่า 200 ลบ.เป็นการเน้นที่รายได้ หากเกิน 50 ลบ./ปี (ตามนิยามใหม่) (ประชาชาติธุรกิจ)
•    ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPSปี 62 ที่ 115.13 บ. ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 95.73 บ. หรือลดลง 16.85%YTD
•    Update Flow เมื่อวานนี้ ต่างชาติพลิกซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 886.18 ลบ.ส่งผลภาพรวม MTD.ต่างชาติขายสุทธิ 2,496.91 ลบ.ขณะที่กองทุนซื้อสุทธิ MTD. 8,274.96 ลบ.
Investment Strategy
•    สัปดาห์นี้ เรามอง SET Index ผันผวนในกรอบ 1,605-1,640 จุด โดยตลาดจะมุ่งโฟกัสไปที่การประกาศผลประกอบการช่วง 3Q62 ซึ่งอาจทำให้ตลาดแกว่งตัวไร้ทิศทาง ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ เรามองว่า แม้ประเด็น Trade war จะมีสัญญาณที่ดีขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ตลาดยังคงติดตามถ้อยแถลงของทั้งทรัมป์ (12 พ.ย.) และทรัมป์ (13 พ.ย.) รวมถึงการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจหลายตัวของสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี สัปดาห์นี้เราเลือก Selective Buy หุ้นที่ผลประกอบการดี รวมถึงเรายังคงแนะนำหุ้น 5 กลุ่มเดิมที่สามารถทยอยซื้อลงทุนได้ในระยะ 3-6 เดือน ดังนี้
•    หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้น ศก.ของรัฐฯทั้งมาตรการท่องเที่ยว, ชิมช้อปใช้และงานประมูลภาครัฐฯ: แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์และมี Upside ได้แก่ BJC (ช่วง  2H62 คาดเห็นการฟื้นตัว HoH จากการขยายสาขา BigC มากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขาและสาขาที่กัมพูชา 1 สาขา BigC Food Place 1 สาขาและ Mini BigC ราว 200 สาขา), SEAFCO (แม้ช่วง 2H62 คาดรับรู้งานลดลง แต่ยังมี Backlog 2.3 พัน ลบ. คาด Secured Revenue 100% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ บวกกับยังมี Upside Risk จากงานประมูลใหม่อีก 1.9 หมื่น ลบ.), ERW (ช่วง 2H62 หลังคาดฟื้นตัวจากปัจจัยฤดูกาล บวกกับการกลับมาเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ครม.และมีสัญญาณฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดือน ส.ค.โต 15.6%YoY), CPALL (ช่วง 3Q62 แม้เข้าสู่ Low Season แต่ด้วยการจัดโปรโมชั่น แสตมป์จัดหนักกระตุ้นยอดขาย และการได้ประโยชน์จากฐานที่ต่ำของปีก่อนจะหนุน SSSG เติบโตต่อเนื่อง พร้อมยังคงเป้าขยายสาขาร้านสะดวกซื้อปีนี้ที่ 700 สาขา), MINT (ช่วง 3Q62 คาดกำไรโต YoY ด้วยกำไรพิเศษจากการขายโรงแรมที่โปรตุเกส แม้ไม่รวมรายการพิเศษกำไรปกติยังโต YoY บวกกับตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนยังคงฟื้นตัวต่อเนื่องจากฐานปีก่อนที่ลดลง ซึ่งโมเมนตัมนี้ยังคงหนุนผลประกอบการต่อเนื่องในช่วง 4Q62)
•    กลุ่ม Defensive Stock: เราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วง 2H62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK (ช่วง 2H62 คาดกำไรสุทธิมีแนวโน้มโตต่อ หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯ ที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถมินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก.
•    กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoY และช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำ SAWAD (คาดกำไรปี 62 โต 30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 20-30% และอีก 300 สาขา,  Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลัง Tender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (คาดปี 62 เห็นการ Turnaroundของกำไรหลังเริ่มรวมงบการเงินกับ PMCT ซึ่งคาดเห็น Synergy ชัดเจนขึ้นจากการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่)
•    หุ้นกลุ่ม ร.พ.ขนาดกลางที่คาดกำไรช่วง 2H62 โต เข้าสู่ High Season: PR9 (คาด 3Q62 และ 4Q62 โตต่อ มองบ.ยังมีศักยภาพในการเติบโตหลังแนวโน้มการทำกำไรเร่งตัวขึ้นสะท้อนผ่าน EBITDA Margin ช่วง 1H62 ปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ 16.4% (จาก 15.4% ช่วง 1H61) สวนทางกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมที่มีความสามารถในการทำกำไรชะลอตัวลง ขณะที่บ.มีแผนการเติบโตที่สดใส เนื่องจากความแข็งแกร่งของ บ.ที่ถือเป็น Cash Company มีเงินสดต่อหุ้นมากกว่า 2 บ.โดยเตรียมเปิดตึกใหม่ต้นปี 63 เพื่อรองรับลูกค้าได้เพิ่มกว่าเท่าตัวหลังเกิด Over demand ในกลุ่มลูกค้า ICU-CCU (คิดเป็นกว่า 30% ของรายได้)และศูนย์บริการที่ถือเป็นไฮไลท์ใหม่อย่าง Pain Management and Wellness Center ขยายฐานลูกค้าต่างชาติครอบคลุมทั้งจีนและกลุ่มอาเซียน รวมถึงกลุ่มลูกค้าประกันองค์กรและผู้ประกันตนด้วย คาดหนุน บ.มีโอกาสคุ้มทุนได้เร็วกว่าที่ตลาดคาด นอกจากนี้ Consensus ให้ valuation ที่ถูกสุดเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม  ทั้งในแง่ Forward PE เพียง 24.59X ,P/BV 1.70X และEV/EBITDA 9.56X (อุตสาหกรรมอยู่ที่ PE 32.81X,P/BV 4.56X และEV/EBITDA 19.89X)
•    หุ้นที่คาดกำไรช่วง 3Q62 โต YoY, QoQ และทั้งปี 62 ยังโตเด่น: SSP, JWD, SABINA, AMATA, PLANB, PRM, MINT
    11-Nov-19    Change (pts.)    8-Nov-19
SET Index    1,622.12    -15.73    1,637.85
SET50 Index    1,092.69    -10.86    1,103.55
SET100 Index    2,399.43    -24.97    2,424.40
High    1,634.09    Gainers    437
Low    1,619.02    Unchanged    357
Value (Bt m)    47,552.38    Losers    1,234
Volume (*000)    19,044,568         
Market Valuation
SET Data    2019F    2020F    Long Term
Fwd PER (x)    16.9    15.3    15.3
EPS Growth (%)    13.9    9.3    -5.3
EV/EBITDA (x)    0.0    0.0    0.0
FWD PBV (x)    1.8    1.7    1.6
Dividend Yield (%)    3.0    3.3    3.6
ROE    10.1    10.4    10.5
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt    11-Nov-19    WTD    MTD    YTD
Institution    (4,499.55)    (4,499.55)    8,274.97    32,939.50
Proprietary    891.13    891.13    1,732.97    12,188.83
Foreign     886.18    886.18    (2,496.91)    (15,571.07)
Individual    2,722.24    2,722.24    (7,511.03)    (29,557.26)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
จิรภัทร  โบสุวรรณ (ID. 040051)    This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932)    This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ธีรยุทธ  ฤทธิเผ่าพันธุ์    ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์    Data Support / Secretary

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!