หมวดหมู่: บริษัทจดทะเบียน

TRIS7 11


ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 'บ.ดั๊บเบิ้ล เอ (1991)' ที่ 'BBB-'และเปลี่ยนแนวโน้ม เป็น 'Stable'จาก ‘Negative’

 

          ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ 'BBB-' พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของบริษัทที่ระดับ BBB-‘ในขณะเดียวกันยังได้เปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น Stable’ หรือ ‘คงที่’ จาก ‘Negativeง หรือ ‘ลบ’ ด้วย โดยการปรับเพิ่มแนวโน้มอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงความสามารถในการทำกำไรและกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัทที่ปรับตัวดีขึ้น

       อันดับเครดิต 'BBB-' สะท้อนถึงสถานะผู้นำของบริษัทในอุตสาหกรรมการผลิตกระดาษพิมพ์เขียนของไทยและความแข็งแกร่งของตราสัญลักษณ์ผลิตภัณฑ์ ‘ดั๊บเบิ้ล เอ’ อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากลักษณะที่เป็นวงจรขึ้นและลงของอุตสาหกรรมการผลิตเยื่อกระดาษและกระดาษ อุปสงค์ของกระดาษพิมพ์เขียนในระดับโลกและในประเทศที่ชะลอตัวเล็กน้อย รวมถึงการปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัทที่กำลังดำเนินอยู่

 

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

การดำเนินงานแบบครบวงจรช่วยรักษาขีดความสามารถในการแข่งขัน

        ทริสเรทติ้ง เชื่อว่า บริษัทจะสามารถรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันและสถานะความเป็นหนึ่งในผู้นำในอุตสาหกรรมการผลิตกระดาษพิมพ์เขียนของไทยเอาไว้ได้ โดยการดำเนินงานของโรงงานผลิตเยื่อกระดาษและโรงงานผลิตกระดาษแบบครบวงจรทำให้เกิดการผสานพลัง (Synergy) และช่วยควบคุมต้นทุน ทั้งนี้ เยื่อกระดาษเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตกระดาษ จากความที่เป็นสินค้าโภคภัณฑ์จึงทำให้ราคาเยื่อกระดาษค่อนข้างมีความผันผวน ดังนั้น ผู้ผลิตกระดาษที่มีโรงงานผลิตเยื่อกระดาษเป็นของตนเองจึงมีความได้เปรียบในด้านต้นทุน บริษัทมีโรงงานผลิตเยื่อกระดาษเป็นของตนเองที่ดำเนินการร่วมกันกับโรงงานผลิตกระดาษ โดยบริษัทใช้เยื่อกระดาษเกือบทั้งหมดที่ผลิตได้เองเป็นวัตถุดิบในการผลิตกระดาษ

 

ผลการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้น

        ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทปรับตัวดีขึ้น โดยอัตรากำไรจากการดำเนินงาน (กำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีนัยสำคัญมาอยู่ที่ระดับ 25.9% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2562 จากต่ำสุดที่ระดับ 4.3% ในปี 2558 เงินทุนจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 4,800 ล้านบาทในปี 2561 ซึ่งเป็นสถิติสูงสุด ทั้งนี้ ในปี 2559 บริษัทได้เริ่มนำแผนปรับปรุงการดำเนินงานมาใช้ ซึ่งแผนดังกล่าวประกอบไปด้วยการปรับเปลี่ยนส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และการลดค่าใช้จ่ายดำเนินงาน ในปี 2561 บริษัทได้ขายโรงงานผลิตกระดาษ Alizay ที่มีต้นทุนสูงออกไป นอกจากนี้ บริษัทยังได้ปรับราคาขายกระดาษเพิ่มขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของราคาเยื่อกระดาษในตลาดโลกอีกด้วย

       ทริสเรทติ้ง คาดว่า ผลกำไรและรายได้ของบริษัทจะลดลงเล็กน้อยในช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยราคากระดาษน่าจะลดลงตามราคาเยื่อกระดาษที่เริ่มลดลง อีกทั้งพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันไปนิยมใช้สื่อดิจิทัลเพิ่มมากขึ้นก็น่าจะทำให้ปริมาณการขายกระดาษรีมใหญ่ของบริษัทลดลงด้วย อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ของกระดาษรีมเล็กที่เติบโตในประเทศกำลังพัฒนาจะช่วยให้อัตรากำไรและรายได้ของบริษัทยังคงแข็งแรง ทั้งนี้ ในช่วง 3 ปีข้างหน้า ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตรากำไรจากการดำเนินงานของบริษัทจะอยู่ในช่วง 17%-22% และเงินทุนจากการดำเนินงานจะอยู่ในช่วง 2,700-3,600 ล้านบาทต่อปี ในขณะที่รายได้จากการดำเนินงานโดยรวมน่าจะอยู่ในระดับที่มากกว่า 19,000 ล้านบาทต่อปี

 

อุปสงค์ของกระดาษพิมพ์เขียนชะลอตัวเล็กน้อย

      ในอนาคตทริสเรทติ้งคาดว่าอุปสงค์ของกระดาษพิมพ์เขียนจะค่อย ๆ ลดลงจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันไปนิยมใช้สื่อดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา อุปสงค์ของกระดาษพิมพ์เขียนในระดับโลกลดลงในอัตรา 2.5% ต่อปี ในขณะที่อุปสงค์ของกระดาษรีมเล็กในระดับโลกลดลงในอัตรา 0.5% ต่อปี (ที่มา: บลูมเบิร์ก) ทั้งนี้ อุปสงค์ของกระดาษรีมเล็กในประเทศพัฒนาแล้วกำลังลดต่ำลงแต่ยังคงเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยในประเทศกำลังพัฒนา เนื่องจากรายได้ของบริษัทส่วนใหญ่มาจากการขายกระดาษรีมเล็กในประเทศกำลังพัฒนา รายได้จากการดำเนินงานโดยรวมและกำไรของบริษัทจึงน่าจะยังคงแข็งแรงอย่างน้อยในช่วง 3 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ การลดลงของอุปทานกระดาษพิมพ์เขียนในระดับโลกอันเนื่องมาจากการปิดตัวของโรงงานผลิตกระดาษทั่วโลกก็จะช่วยป้องกันมิให้รายได้และกำไรของบริษัทลดลงอย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย

 

การปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัทไม่น่าจะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสถานะทางการเงิน

     บริษัทอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างกลุ่ม โดยได้มีการนำบริษัทที่มีธุรกิจเกี่ยวข้องกับกระดาษพิมพ์เขียนซึ่งอยู่ภายใต้ผู้ถือหุ้นกลุ่มเดียวกัน คือ นายโยธิน ดำเนินชาญวนิชย์และบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องเข้ามารวมกับบริษัท ส่วนบริษัทที่ดำเนินธุรกิจอื่นนั้นจะถูกขายกิจการออกไป ซึ่งการปรับโครงสร้างกลุ่มน่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปีหรือมากกว่าจึงจะแล้วเสร็จ ในการนี้

ทริสเรทติ้งคาดว่าการปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัทไม่น่าจะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสถานะทางการเงินของบริษัท

      ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2562 บริษัทได้ซื้อหุ้น 99.99% ใน บริษัท ดี.เอ. แพ็คเกจจิ้ง จำกัด จาก Double A Holdings Ltd. (DAH) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกลุ่มดั๊บเบิ้ล เอ ในขณะเดียวกันก็ได้ขายหุ้นทั้งหมดที่ถืออยู่ใน บริษัท คันนา จำกัด ออกไปให้แก่บริษัทที่เกี่ยวข้องรายหนึ่ง ธุรกรรมทั้ง 2 รายการดังกล่าวทำให้บริษัทมีต้นทุนสุทธิ 149 ล้านบาท ในช่วงของการปรับโครงสร้างดังกล่าวบริษัทคันนา ได้ชำระคืนเงินกู้จำนวนประมาณ 700 ล้านบาทให้แก่ บริษัท แอ๊ดวานซ์ อะโกร โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท โดยสรุปแล้วก็ทำให้สถานะด้านเงินสดของบริษัทในงบการเงินรวมดีขึ้น ในทางตรงกันข้าม งบดุลของบริษัทถดถอยลงเล็กน้อยจากการที่บริษัทรับรู้ส่วนต่างจากการจ่ายเงินที่สูงกว่ามูลค่าตามบัญชีของบริษัท ดี.เอ. แพ็คเกจจิ้ง โดยทำให้ฐานทุนของบริษัทลดลงเป็นจำนวนเกือบ 660 ล้านบาทในช่วงไตรมาสแรกของปี 2562

การก่อหนี้อาจเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย

       ทริสเรทติ้ง คาดว่า การก่อหนี้ของบริษัทอาจจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วง 3 ปีข้างหน้า บริษัทกำลังพัฒนาโรงงานผลิตเยื่อกระดาษแห่งใหม่ที่ใช้กระดาษใช้แล้วมาเป็นวัตถุดิบ โดยโรงงานผลิตเยื่อกระดาษนี้ตั้งอยู่ติดกับโรงงานผลิตเยื่อกระดาษที่มีอยู่ของบริษัทในจังหวัดปราจีนบุรี และใช้เงินลงทุนที่ประมาณ 900 ล้านบาท การก่อสร้างน่าจะใช้เวลานานประมาณ 1 ปี ทั้งนี้ ในช่วง 3 ปีข้างหน้า เงินทุนจากการดำเนินงานของบริษัทจะอยู่ในช่วง 2,700-3,600 ล้านบาทต่อปีตามประมาณการของทริสเรทติ้ง ส่วนงบลงทุนของบริษัทน่าจะอยู่ในช่วง 1,000-2,000 ล้านบาทต่อปี เมื่อพิจารณาถึงภาระหนี้ที่ต้องชำระจำนวน 4,000-5,000 ล้านบาทต่อปีด้วยแล้ว เงินทุนจากการดำเนินงานของบริษัทไม่น่าจะมีเพียงพอสำหรับรายจ่ายทั้งหมดได้ เงินสดจากการดำเนินงานที่ขาดอยู่นั้นจะทำให้บริษัทมีความจำเป็นต้องหาเงินกู้เพิ่มเติม ทั้งนี้ บริษัทสามารถขายสินทรัพย์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานหลักของบริษัทเพื่อใช้เป็นแหล่งเงินทุนอีกทางหนึ่ง

 

สภาพคล่องน่าจะจัดการได้

      ทริสเรทติ้ง เชื่อว่า บริษัทจะสามารถจัดการกับสภาพคล่องได้อย่างเหมาะสม โดยบริษัทไม่มีแรงกดดันในด้านสภาพคล่องมากนักในปีนี้ ในช่วง 9 เดือนที่เหลือของปี 2562 หนี้เกือบ 1,300 ล้านบาทจะครบกำหนดชำระ ในจำนวนนี้เป็นเงินกู้ระยะสั้นสำหรับใช้เป็นทุนหมุนเวียนประมาณ 900 ล้านบาทและเงินกู้ระยะยาวจากธนาคารอีกประมาณ 360 ล้านบาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562 บริษัทมีเงินสดและหลักทรัพย์ในความต้องการของตลาดรวมกันเกือบ 400 ล้านบาท รวมทั้งยังมีวงเงินกู้ที่ยังไม่ได้เบิกใช้มูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท และลูกหนี้การค้าอีกประมาณ 4,100 ล้านบาท สินทรัพย์สภาพคล่องเหล่านี้ควรจะเพียงพอในการรองรับภาระหนี้ทั้งหมดที่จะครบกำหนดในปี 2562 ได้ อย่างไรก็ตาม หุ้นกู้จำนวนประมาณ 4,400 ล้านบาทจะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2563 ทำให้บริษัทจะต้องหาแหล่งเงินทดแทนบางส่วนด้วยการออกหุ้นกู้ชุดใหม่

      หุ้นกู้ของบริษัทมีข้อกำหนดในการดำรงอัตราส่วนทางการเงินในส่วนของอัตราส่วนเงินกู้ที่มีดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนทุนที่ระดับไม่เกิน 2 เท่า แต่อัตราส่วนดังกล่าว ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562 อยู่ที่ 1.2 เท่า จึงถือว่าบริษัทปฏิบัติได้ดีกว่าข้อกำหนดดังกล่าว ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งเชื่อว่าบริษัทจะสามารถปฏิบัติได้ตามข้อกำหนดนี้ได้ตลอดช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า

สมมติฐานพื้นฐานของทริสเรทติ้ง

•             รายได้จากการดำเนินงานรวมของบริษัทจะอยู่ในช่วง 19,000-20,000 ล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2562-2564

•             อัตรากำไรจากการดำเนินงานจะอยู่ในช่วง 17%-22%

•             อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินจะอยู่ในช่วง 16%-22%

•             อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายจะอยู่ในช่วง 3.5-5.0 เท่า

•             เงินลงทุนรวมต่อปีจะอยู่ในช่วง 1,000-2,000 ล้านบาทต่อปี

 

แนวโน้มอันดับเครดิต

     แนวโน้มอันดับเครดิต 'Stable' หรือ 'คงที่'สะท้อนความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงรักษาความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจการผลิตกระดาษพิมพ์เขียนเอาไว้ได้ ในขณะที่การปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัทจะไม่ทำให้สถานะทางการเงินของบริษัทด้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ

 

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

       การเพิ่มอันดับเครดิตอาจเกิดขึ้นได้หากผลกำไรของบริษัทยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและการปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัทไม่ทำให้กระแสเงินสดและสถานะทางการเงินของบริษัทอ่อนแอลง ในทางตรงกันข้าม อันดับเครดิต และ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจปรับลดลงได้หากผลการดำเนินงานของบริษัทและกระแสเงินสดลดลงจากการคาดการณ์หรือหากโครงสร้างเงินทุนของบริษัทอ่อนแอกว่าที่คาดไว้ ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขวิธีการจัดอันดับเครดิตแบบกลุ่ม (Group Rating Methodology) ของทริสเรทติ้ง สถานะเครดิตของกลุ่มบริษัทและสมาชิกในกลุ่มบริษัทจะมีผลกระทบต่ออันดับเครดิตองค์กรและอันดับเครดิตตราสารหนี้ของบริษัทด้วยเช่นกัน

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 26 กรกฎาคม 2562

- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงิน, 5 กันยายน 2561

บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) (DA)

 

อันดับเครดิตองค์กร:             BBB-

อันดับเครดิตตราสารหนี้:

DA241A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 2,350 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 BBB-

 

แนวโน้มอันดับเครดิต:           Stable

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com

ติดต่อ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500

      บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2562 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้

      ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

Click Donate Support Web

ais 790x90

GC 950x120

sme 720x90

banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!