หมวดหมู่: พาณิชย์

1aaagEวชย


ภัยแล้งดันราคาข้าวเหนียวพุ่งเกือบ 100% 'พาณิชย์'เกาะติด ป้องกันกักตุน ค้ากำไรเกินควร

     ภัยแล้งดันราคาข้าวเหนียวพุ่งเกือบ 100% หลังผลผลิตเสียหายกว่า 6 แสนไร่ ชาวนาแห่เก็บข้าวไว้กินเอง ไม่ยอมขาย ทำโรงสีและผู้ค้า หาข้าวมาขายไม่ได้ จนต้องปิดการขายข้าวเหนียวชั่วคราว กรมการค้าภายในเกาะติดสถานการณ์ขาย ขอผู้ค้าอย่ากักตุน และค้ากำไรเกินควร เผยหากพบผิดฟันไม่เลี้ยง

     นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์ข้าวเหนียวโดยรวมตั้งแต่เดือนธ.ค.2561 ถึงส.ค.2562 ราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งราคาข้าวเปลือกเหนียวและราคาข้าวสารเหนียว โดยราคาข้าวเปลือกเหนียว ปี 2561 เฉลี่ยอยู่ที่ 9,549 บาทต่อตัน และทยอยปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 13,900–17,600 บาทต่อตัน ณ วันที่ 16 ส.ค.2562 โดยเพิ่มขึ้น 59.90% โดยราคา ณ วันที่ 16 ส.ค.2561 อยู่ที่ 9,000–10,700 บาทต่อตัน ส่วนราคาข้าวสารเหนียว ปี 2561 เฉลี่ยอยู่ที่ 19,610 บาทต่อตัน และทยอยปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 38,500–38,600 บาทต่อตัน ณ วันที่ 16 ส.ค.2562 โดยเพิ่มขึ้น 98.20% โดยราคา ณ 16 ส.ค.2561 อยู่ที่ 19,400–19,500 บาทต่อตัน

        สำหรับ พื้นที่เป้าหมายปลูกข้าวเหนียวปี 2562/63 มีจำนวน 16.172 ล้านไร่ คาดการณ์ปริมาณผลผลิต ปี 2562/63 อยู่ที่ 6.142 ล้านตัน แต่ผลจากภาวะภัยแล้ง ได้ก่อให้เกิดความเสียหายกว่า 6 แสนไร่ ส่งผลกระทบต่อปริมาณการผลิต ทำให้ผลผลิตลดลง

     “ปัจจุบันที่ข้าวเหนียวมีราคาเพิ่มสูงขึ้นมาก มีหลายปัจจัย ทั้งจากปัญหาภัยแล้งที่ส่งผลกระทบให้ผลผลิตข้าวเหนียวทั้งนาปีและนาปรังที่ผ่านมา มีปริมาณน้อยกว่าทุกปี ประกอบกับเป็นช่วงรอยต่อของฤดูกาล ข้าวเก่าเหลือน้อย ข้าวใหม่ ยังไม่ถึงเวลาเก็บเกี่ยว และภาครัฐได้ระบายข้าวในสต็อกหมด ส่งผลให้ช่วงนี้ ข้าวเหนียวขาดแคลนอย่างมาก ชาวนา ก็เก็บไว้บริโภคเอง เนื่องจากคาดว่าผลผลิตจะมีปริมาณน้อยมาก ถ้าไม่จำเป็นจะไม่นำออกขาย ด้านผู้ประกอบการโรงสีก็ต้องการรับซื้อข้าวเพื่อเก็บไว้ในสต๊อกและแปรรูป เพื่อจำหน่าย ซึ่งผลผลิตที่ขาดแคลนทำให้ผู้ประกอบการหลายรายต้องปิดการจำหน่าย แต่หากมีสินค้าก็ต้องจำกัดโควตาให้ผู้รับซื้อ เพื่อปันส่วนของสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการและกระจายได้อย่างทั่วถึง”นายวิชัยกล่าว

       อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายเดือนต.ค.–พ.ย.2562 ผลผลิตข้าวนาปีฤดูกาลใหม่ปี 2562/63 จะเริ่มออกสู่ตลาด ราคาข้าวเหนียวน่าจะปรับตัวลดลง ซึ่งคาดว่าสถานการณ์ทั้งในด้านราคาและปริมาณผลผลิตที่ขาดแคลนจะค่อยๆ คลี่คลายลง

     ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค กรมฯ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดการเก็งกำไร และค้ากำไรเกินควร รวมทั้งจะกำกับดูแลไม่ให้เกิดการกักตุนสินค้า และตั้งราคาสูงโดยไม่สอดคล้องกับต้นทุน โดยขอความร่วมมือผู้ประกอบการโรงสี ให้จำหน่ายสินค้าในราคาสอดคล้องกับต้นทุน ไม่เอาเปรียบผู้ซื้อและผู้บริโภค รวมถึงหากจำเป็นจะดำเนินการตรวจสอบสต็อกสินค้า หากพบการกระทำความผิด เช่น มีการกักตุนสินค้า หรือตั้งราคาสูงเกินสมควร ขอให้แจ้งได้ที่สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

Click Donate Support Web

ais 790x90

GC 950x120

sme 720x90

banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!