- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับตัวลดลง หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 1 มี.ค. 62 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดที่ 7.1 ล้านบาร์เรล โดยปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ณ จุดส่งมอบ คุชชิ่ง โอกลาโฮมา ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3 สัปดาห์ต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดปรับเพิ่ม 873,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 47.5 ล้านบาร์เรล ขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลคงคลังสหรัฐฯ ปรับลด 4.2 ล้านบาร์เรล และ 2.4 ล้านบาร์เรล ตามลำดับ

- ราคาน้ำมันดิบได้รับปัจจัยกดดันจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 12.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งลดทอนผลกระทบจากการที่กลุ่มโอเปก (OPEC) และประเทศพันธมิตรตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตรวมกว่า 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อให้ตลาดน้ำมันดิบอยู่ในภาวะสมดุล

+ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่มีแนวโน้มจะตกลงกันได้ หลังวันพุธที่ผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าการเจรจาการค้ากำลังดำเนินไปด้วยดี

-/+ กลุ่มโอเปก (OPEC) และประเทศพันธมิตรคาดว่ายังไม่มีข้อสรุปสำหรับการตัดสินใจขยายระยะเวลาในการปรับลดกำลังการผลิต โดยมีแนวโน้มที่จะเลื่อนการตัดสินใจออกไปในช่วงเดือน มิ.ย. 62 แทน

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ภายในภูมิภาคที่อยู่ในระดับดี โดยเฉพาะจากประเทศเกาหลี ประกอบกับปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังในประเทศญี่ปุ่นปรับตัวลดลง

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานที่มีมากในตลาด จากความไม่คุ้มในการส่งออกไปภายนอกภูมิภาค ประกอบกับปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังในประเทศญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้น

ไทยออยล์ คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

               ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 54-59 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

                ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 63-68 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

       ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดปรับตัวลดลง หลังสหรัฐฯ นำเข้าน้ำมันดิบน้อยลง เนื่องจาก ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากผู้ผลิตในกลุ่มโอเปกปรับตัวลดลง ประกอบกับ โรงกลั่นในสหรัฐฯ บางส่วนเริ่มกลับมาจากการปิดซ่อมบำรุง ทำให้มีความต้องการใช้น้ำมันดิบเพื่อไปกลั่นมากขึ้น

       จับตาการหารือกันระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ และนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เพื่อยุติปัญหาสงครามการค้าในช่วงปลายเดือนมี.ค. 62 หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเลื่อนการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนออกไปจากผลบังคับใช้เดิมในวันที่ 1 มี.ค. 62 ซึ่งหากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยุติลง จะช่วยหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและความต้องการใช้น้ำมันโลก

      กำลังการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจาก รัฐบาลลิเบียตกลงกับบริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบีย (NOC) ที่จะให้แหล่งผลิตน้ำมันดิบ El Sharara ซึ่งมีกำลังการผลิต 315,000 บาร์เรลต่อวัน กลับมาดำเนินการอีกครั้ง หลังถูกปิดตั้งแต่เดือนธ.ค. 61

Click Donate Support Web