ธปท.เผยศก.ไทยส.ค.61 ขยายตัวต่อเนื่องจาการบริโภคเอกชน แต่ท่องเที่ยว-ส่งออกชะลอเล็กน้อย ขณะที่เงินเฟ้อทั่วไปเดือนนี้แตะ 1.62% คาดเป็นจุดสูงสุดของปี ประเมินส่งออก ก.ย.61 จะมีมูลค่าถึง 2.3 หมื่นล้านดอลล์ สูงสุดเป็นประวัติการณ์รับไฮซีซั่น

   นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อน จากอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวดีในทุกหมวด ขณะที่การส่งออกสินค้าชะลอลงจากเดือนก่อน สำหรับการลงทุนภาคเอกชนและการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่การท่องเที่ยวยังขยายตัวได้แม้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนหดตัวสูง

     สำหรับเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา พบว่า การส่งออกชะลอลงมาอยู่ที่ 5.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว 8.3% ซึ่งมาจากการส่งออกสินค้าประมงหดตัวลงจากการส่งออกกุ้งไปสหรัฐ ส่วนหนึ่งจากปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ ขณะที่การส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าหดตัวลงตามการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและโซลาร์เซลล์ไปสหรัฐ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากฐานสูงจากการเร่งการส่งออกในปีก่อนหน้าก่อนใช้มาตรการ Safeguard

     ด้านการนำเข้าในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ขยายตัว 24.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว 12.4% เนื่องจากการนำเข้าทองคำที่ขยายตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากราคาทองคำในตลาดโลกปรับลดลง และหากหักทองคำ มูลค่าการนำเข้ายังขยายตัว 14.6% โดยกลุ่มที่ขยายตัวได้ดี คือ หมวดวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางขยายตัวตามการนำเข้าเชื้องเพลิงจากด้านราคาเป็นสำคัญ การนำเข้าโลหะขยายตัวจากเหล็กและอลูมิเนียมที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรมและภาคก่อสร้าง เช่นเดียวกับหมวดยานยนต์และชิ้นส่วนที่ขยายตัวจากการนำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์เป็นสำคัญ สอดคล้องกับการผลิตยานยนต์ในประเทศ

     ส่วนดุลการค้าเดือนสิงหาคมเกินดุล 604 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่เกินดุล 858 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 753 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่เกินดุล 1,086 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงิน อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเร่งขึ้นมาอยู่ที่ 1.62% จากเดือนก่อนที่อยู่ที่ 1.46% ตามราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ประกอบกับราคาอาหาคสดเพิ่มขึ้นตามราคาข้าวที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ราคาผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์หดตัวน้อยลงจากเดือนก่อน ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 0.79% จากเดือนก่อนหน้าที่ 0.75% ตามราคาสินค้าในหมวดอาหารสำเร็จรูปที่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอลงเป็นสำคัญ

   “คาดอัตราเงินเฟ้อ พีคสุดแล้ว เนื่องจากฐานของราคาน้ำมันที่สูงในปีก่อนหน้า เนื่องจากมองว่าหลังจากนี้ไปอัตราเงินเฟ้อจะต่ำกว่า 1.6% ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยให้ติดตามการประกาศตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของกระทรวงพาณิชย์ที่จะประกาศในวันที่ 1 ตุลาคมนี้”นายดอน กล่าว

   นายดอน กล่าวว่า สำหรับการท่องเที่ยวเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาขยายตัว 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวมาเลเซียเป็นสำคัญ ส่วนหนึ่งจากผลของวันหยุดเทศกาลฮารีรายอฮัจญี ที่ตรงกับช่วงวันหยุดของมาเลเซีย นอกจากนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวฮ่องกง ญี่ปุ่น และอินเดียวยังขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนหดตัวสูงจากผลกระทบจากเหตุการณ์เรือนักท่องเที่ยวล่มที่ภูเก็ต

      สำหรับ ในเดือนกันยายนนี้ ธปท.มองว่า การส่งออกจะมีมูลค่าสูงถึง 23,000 ล้านดอลลาร์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของตลาดส่งออกเช่นเดียวกันกับทุกปี  

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย