ผู้ว่าธปท. มั่นใจเฟดขึ้นดอกเบี้ยไม่กระทบตลาดเงิน-ทุนทั่วโลกรุนแรง หลังเฟดส่งสัญญาณชัดตลาดรับรู้ไปแล้ว พร้อมระบุเงินไหลเข้า จากสภาพคล่องในระบบการเงินโลกสูง ประกอบกับศก.-การเมืองไทยชัดเจน เตรียมหารือแบงก์ - หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สกัดฟองสบู่อสังหาฯ

 นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยภายหลังการเปิดงานสัมมนา BOT Symposium 2018 ว่า ในกรณีที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) วันที่ 25-26 กันยายนี้คาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้น มองว่า จะไม่ส่งผลกระทบต่อภาคตลาดเงินและตลาดทุนทั่วโลกรุนแรง เนื่องจากที่ผ่านมาเฟดส่งสัญญาณชัดเจนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง และตลาดรับรู้ข่าวไปแล้ว

  อย่างไรก็ตาม ภาวะตลาดเงินและตลาดทุนในปีนี้ ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตาม เนื่องจากมีความผันผวนสูง รวมถึงยังมีความไม่แน่นอนจากสงครามการค้าเพิ่มเติมที่อาจส่งผลกระทบต่อประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ด้วย รวมถึงไทยด้วย แต่สำหรับประเทศไทยนั้น ยอมรับว่า ไทยยังมีเสถียรภาพในระบบการเงินที่แข็งแกร่ง และในปีนี้คาดว่าจะเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในระดับสูงถึง 35,000 ล้านดอลลาร์ ดังนั้นจึงคาดว่าจะช่วยรองรับผลกระทบจากต่างประเทศที่อาจจะเกิดขึ้นได้

  “ถามว่าทำไมเฟดถึงระบุได้แต่ไทยไม่สามารถบอกได้ว่าจะขึ้นกี่ครั้ง เพราะเฟดเป็นธนาคารกลางในประเทศใหญ่และสามารถกำหนดอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกได้ แต่สำหรับไทยเป็นประเทศเล็ก และการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยนั้นจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ และจังหวะเวลาที่เหมาะสม ซึ่งหลายคนอาจห่วงเรื่องส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย แต่ปัจจุบันพบว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เงินไหลเข้านั้นส่วนใหญ่มาจากสภาพคล่องในตลาดการเงินโลกมีมากกว่าเรื่องส่วนต่างดอกเบี้ย รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการเมืองที่มีความชัดเจน และหากไทยจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้น ก็ไม่ได้ปรับขึ้นตลอด แต่อาจจะขึ้น 1 ครั้ง และหยุดไป ก่อนจะมีเวลาที่เหมาะสมและขึ้น”นายวิรไท กล่าว

  นายวิรไท ยังกล่าวถึงการดูแลอัตราเงินเฟ้อรวมถึงการปรับคาดการณ์เงินเฟ้อในปี 2562 ลดลงจาก 1.2% มาอยู่ที่ 1.1% นั้น ปัจจุบันพบว่า อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำทั่วโลก เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทำให้เงินเฟ้อต่ำ เช่น ราคาพลังงานจากการมีเทคโนโลยีเชลล์ออลย์ เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม ธปท.ยังเชื่อว่า ในปีนี้และปี 2562 อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในกรอบเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้

  “อัตราเงินเฟ้อตอนนี้ต่ำทั่วโลก จากเทคโนโลยีสารสนเทศ แต่การพิจารณาเรื่องของนโยบายการเงิน จะต้องคำนึงถึงเสถียรภาพการเงินด้วย เพราะปัจจุบัน พบว่า จากอัตราดอกเบี้ยต่ำนาน ทำให้คนประเมินความเสี่ยงทางการเงินต่ำ และแสวงหาผลตอบแทนสูงจนไม่เข้าใจความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ดังนั้นในระยะหลังจึงเห็นว่า ธนาคารกลางเริ่มให้ความสำคัญกับเสถียรภาพทางการเงินเพิ่มขึ้นด้วย โดยประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศเล็ก และมีเศรษฐกิจแบบเปิด เราจะต้องมีเครื่องมือที่หลากหลายเพื่อดำเนินนโยบายทางการเงินอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ”นายวิรไท กล่าว

  นายวิรไทย กล่าวว่า ส่วนกรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แสดงความกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันในตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยของสถาบันการเงิน ส่งผลให้มาตรฐานการปล่อยสินเชื่อลดลง และพบการปล่อยสินเชื่อเกินกว่ามูลค่าหลักทรัพย์ รวมถึงภาวะอุปทานส่วนเกินสูงในบางพื้นที่นั้น ส่งผลให้ธปท.เตรียมเรียกสถาบันการเงิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือในประเด็นดังกล่าว ก่อนที่จะออกมาตรการที่เหมาะสมออกมาดูแล

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย