ธนาคารไทยพาณิชย์ และบริษัทย่อยมีรายได้จากการดำเนินงานจำนวน 34,343 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2561 เพิ่มขึ้น 1.1% จากปีก่อน จากการขยายตัวของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 4.7% ถึงแม้ว่ารายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม การลงทุนตามยุทธศาสตร์ของธนาคารภายใต้โครงการ SCB Transformation ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น และส่งผลให้กำไรสุทธิไตรมาส 2 ปี 2561 (งบการเงินรวมก่อนตรวจสอบ) มีจำนวน 11,111 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 6.7% จากปีก่อน สำหรับครึ่งปีแรกของปี 2561 กำไรสุทธิมีจำนวน 22,476 ล้านบาท

     อัตราส่วน NPL ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2561 อยู่ที่ 2.81% ลดลงจาก 2.83% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2560 ทั้งนี้ ธนาคารได้ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 5,007 ล้านบาท ในไตรมาส 2 ปี 2561 ส่งผลให้อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพปรับเพิ่มขึ้นเป็น 143.5% นอกจากนี้ เงินกองทุนตามกฎหมายของธนาคาร ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2561 อยู่ที่ 17.1% ซึ่งยังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง และสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนด

ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2561

      ธุรกิจหลักของธนาคารยังคงเติบโตได้ดี โดยสินเชื่อมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 6.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ปรับสูงขึ้น ส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิในไตรมาส 2 ปี 2561 เพิ่มขึ้น 4.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นจำนวน 23,849 ล้านบาท ด้านรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจำนวน 10,494 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 6.2% จากปีก่อน ซึ่งได้รับผลกระทบจากการยกเลิกค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางดิจิทัล และการลดลงของรายได้สุทธิจากการรับประกันภัย

     การลงทุนในโครงการ SCB Transformation ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายของธนาคารเพิ่มขึ้นในระยะสั้น ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปี 2561 เพิ่มขึ้น 10.7% จากปีก่อน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อยกระดับขีดความสามารถของธนาคาร และค่าใช้จ่ายในการขยายฐานลูกค้าใหม่ผ่านช่องทางดิจิทัล ส่งผลให้กำไรสุทธิในไตรมาส 2 ปี 2561 ปรับตัวลดลง

โครงการ SCB Transformation

      ภายใต้การดำเนินงานของโครงการ SCB Transformation ธนาคารสามารถขยายฐานลูกค้าบนระบบดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว โดยผ่านแพลตฟอร์มบนมือถือ SCB EASY ซึ่งในปัจจุบันแพลตฟอร์มดิจิทัลใหม่นี้มีผู้ใช้บริการประมาณ 7 ล้านคน และคาดว่าภายในปี 2561 ธนาคารจะมีฐานลูกค้า SCB EASY เป็น 9-10 ล้านราย และมีจำนวนร้านค้าที่ใช้บริการชำระค่าสินค้าและบริการผ่านระบบแม่มณี (QR merchant) เพิ่มขึ้นเป็น 1.2-1.5 ล้านร้านค้า

     ด้วยจำนวนผู้ใช้บริการบนระบบดิจิทัลและความผูกพันของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ธนาคารสามารถลดต้นทุนเงินฝากได้อย่างมีนัยสำคัญและปรับลดจำนวนสาขารูปแบบเดิม (ประมาณ 100 สาขา ในครึ่งปีแรก) โดยไม่มีผลกระทบต่อการให้บริการในภาพรวมและความพึงพอใจของลูกค้า ทั้งนี้ธนาคารได้นำเสนอช่องทางการให้บริการในรูปแบบใหม่ อาทิ ศูนย์บริหารความมั่งคั่ง (Investment Center) และ ศูนย์ธุรกิจเอสเอ็มอี (Business Center) เพื่อให้ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าในแต่กลุ่ม

      นายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า “ท่ามกลางความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีดิจิทัล และการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น ผลการดำเนินงานของธุรกิจหลักของธนาคารยังคงแข็งแกร่ง และธนาคารได้เตรียมพร้อมเป็นอย่างดีในการยกระดับขีดความสามารถเพื่อตอบรับโอกาสทางธุรกิจในยุคดิจิทัลผ่านโครงการ SCB Transformation ทั้งนี้ ผลสำเร็จจากโครงการ SCB Transformation ในระยะแรกสะท้อนให้เห็นจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของฐานลูกค้าดิจิทัล ความผูกพันของลูกค้ากับธนาคาร และต้นทุนที่ลดลงจากการย้ายไปสู่แพลตฟอร์มดิจิทัล แม้การลงทุนนี้จะส่งผลต่อกำไรในระยะสั้นของธนาคาร แต่แนวโน้มของผลประกอบการมีการปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ เนื่องมาจากการลงทุนและการเริ่มดำเนินโครงการสำคัญส่วนใหญ่ภายใต้ SCB Transformation จะเกิดขึ้นภายในปลายปีนี้ และธนาคารจะเริ่มรับรู้ผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างต่อเนื่อง”

Siam Commercial Bank reported Baht 11.1 billion net profit for the second quarter of 2018

and Baht 22.5 billion for the first half of 2018

       Bangkok: Siam Commercial Bank and its subsidiaries announced total operating income of Baht 34.3 billion in the second quarter of 2018, a 1.1% yoy increase on the back of net interest income growth of 4.7% yoy despite pressure from lower non-interest income. However, the investments in new technology platforms as part of the Transformation Program and digital acquisition activities led to a rise in operating expenses and a decline in net profit to Baht 11.1 billion, -6.7% yoy, in the second quarter of 2018 (based on unaudited consolidated financial statements). For the first half of 2018, net profit stood at Baht 22.5 billion.

      Non-performing loans (NPLs) stood at 2.81% at the end of June 2018, a slight drop from 2.83% at the end of December 2017. In the second quarter of 2018, the Bank set aside Baht 5.0 billion of normalized provision which further strengthened its NPL coverage ratio to 143.5%. Moreover, the Bank’s capital adequacy ratio remained strong at 17.1% which was higher than the minimum regulatory requirement.

Performance Highlights for the Second Quarter of 2018

       Core business remained healthy. In the second quarter of 2018, strong loan growth of 6.7% yoy and widened net interest margin led to a 4.7% yoy increase in net interest income to Baht 23.8 billion. Non-interest income fell 6.2% yoy to Baht 10.5 billion because of the digital transaction fee waiver and a decline in net insurance premium.

      Investment required for the Transformation Program temporarily raised the Bank’s cost base. Total operating expenses in the second quarter of 2018 increased by 10.7% yoy, mainly from investments in major transformation projects, new technology platforms, and digital acquisition, resulting in a decline in net profit.

SCB Transformation Program

     The Transformation Program has enabled the Bank to rapidly expand its digital customer base with a new mobile banking platform “SCB EASY.” This new digital platform currently has 7.0 million users and, by the end of this year, the Bank expects the number of SCB EASY users to reach 9-10 million and the number of merchants with QR-code based payment to grow to 1.2-1.5 million.

      With the rapid expansion of its digital customer base and deeper customer engagement, the Bank has been able to significantly lower its cost of deposit and cut down the number of traditional branches (by approximately 100 branches in the first half of the year) while maintaining the overall service quality and customer satisfaction. Furthermore, the Bank has introduced new service channels, such as Investment Center and Business Center, to meet diverse needs of different customer segments.

     Arthid Nanthawithaya, President and Chief Executive Officer, stated: “Despite challenges from digital disruption and intense competition, our core business remains robust and, through the Transformation Program, we have made good progress toward positioning our Bank to capture new business opportunities in the digital age. In fact, the initial impact of the Transformation Program has already been felt this year as evidenced by a rapid expansion of our digital customer base, improved customer engagement, and the cost savings from digital migration. The current high investment cycle will exert pressure on the bottom line, especially in the near term. Nonetheless, the performance overall should gradually improve as all major projects and investments associated with the Transformation Program will be commissioned by the end of this year and the benefits from the Program continue to roll in.”

      Siam Commercial Bank PCL is one of Thailand’s leading universal banks. Established by Royal Charter in 1906 as the first Thai bank, SCB ranks number 2 in market capitalization among Thai financial institutions as of the end of June 2018 (Baht 403 billion). Its network of branches and service points offers nationwide coverage with 1,056 branches. (If investment centers, business centers, and service centers were to be included, the total number of branches would be 1,069). In addition, the Bank has 104 foreign exchange kiosks, and 9,590 ATM machines to provide services that meet the demands of all customer groups, including corporate, SME and retail customers. The Bank’s total assets are Baht 3,100 billion. More information is available on the Bank’s website at www.scb.co.th.