หมวดหมู่: บริษัทจดทะเบียน

TFD อภชย เตชะอบล


ผถห. HOTPOT ไฟเขียวเพิ่มทุน พร้อมเปลี่ยนชื่อใหม่ JCKH วางเป้า Q2 ปีนี้เทิร์นอะราวด์

     ผู้ถือหุ้น HOTPOT ลงมติอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 121.80 ล้านบาทเป็น 194.88 ล้านบาท โดยออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่ 292.32 ล้านหุ้น จัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิม 243.60 ล้านหุ้น อัตราส่วน 2 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ที่ราคาหุ้นละ 1.30 บาท ที่เหลือ 48.72 ล้านหุ้น จัดสรรแบบเฉพาะเจาะจง คาดได้รับเงินเพิ่มทุนรวม 380 ล้านบาทหนุนส่วนทุนเพิ่มขึ้นกดหนี้ต่อทุนลดลงเหลือ 1.2 เท่า พร้อมเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น เจซีเค ฮอสพิทอลลิตี้ใช้ชื่อย่อหุ้น JCKH เพื่อสอดรับกับธุรกิจอาหารที่มีความหลากหลาย ลุ้นไตรมาส 2 ปีนี้ผลประกอบการฟื้น

    นายอภิชัย เตชะอุบล ประธานกรรมการ บริษัท ฮอท พอท จำกัด (มหาชน) หรือ HOTPOT เปิดเผยว่า ในที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียน จำนวน 73,080,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 121,800,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 194,880,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ จำนวน 292,320,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท จัดสรรจำนวนไม่เกิน 243,600,000 หุ้น เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ (Rights Offering) ในอัตราส่วน 2 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาเสนอขายหุ้นละ1.30 บาท และอีกส่วนจำนวนไม่เกิน 48,720,000 หุ้น เสนอขายในคราวเดียวหรือแบ่งเป็นส่วนๆ ให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement)

     ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้กำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย (XR) เพื่อกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิจองซื้อจองหุ้นเพิ่มทุนในวันที่ 17 พฤษภาคม 2561 และกำหนดวันจองซื้อเพื่อชำระค่าหุ้นในวันที่ 18-22 มิถุนายน 2561

    สำหรับ เงินที่คาดว่าจะได้รับจากการเพิ่มทุน RO ครั้งนี้ประมาณ 317 ล้านบาท จะทำให้มีส่วนของทุนเพิ่มขึ้นเป็น 350 ล้านบาท จากเดิมที่มีอยู่เพียง 33.38 ล้านบาท DE Ratio ลดจาก 15 เท่า เหลือเพียง 1.4 เท่า และหากบริษัทฯ ได้รับเงินจากขายหุ้น PP อีก 63 ล้านบาท จะทำให้มีส่วนของทุนเพิ่มขึ้นเป็น 413 ล้านบาท และจะทำให้ DE Ratio ลงเหลือเพียง 1.2 เท่า ดังนั้นการเพิ่มทุนในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯ มีฐานทุนและฐานะทางการเงินที่เข้มแข็งขึ้น โดยเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนครั้งนี้จะนำไปใช้เป็นทุนหมุนเวียนสำหรับขยายธุรกิจ และเทคโอเวอร์ร้านอาหารแบรนด์ใหม่ๆ เพิ่มเข้ามา เพื่อสร้างรายได้และกำไรให้บริษัทฯ เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อไปในอนาคต

    นอกจากนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้น มีมติอนุมัติการเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัทและชื่อย่อหลักทรัพย์ จากชื่อ บริษัท ฮอท พอท จำกัด (มหาชน) และมีชื่อภาษาอังกฤษว่า HOT POT PUBLIC COMPANY LIMITED เปลี่ยนเป็น บริษัท เจซีเค ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด (มหาชน) และมีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า JCK HOSPITALITY PUBLIC COMPANY LIMITED และ เปลี่ยนชื่อย่อ จาก HOTPOT เป็น JCKH

     วัตถุประสงค์การเปลี่ยนชื่อใหม่ เนื่องจากบริษัทฯเริ่มดำเนินธุรกิจร้านอาหารสุกี้ชาบู โดยใช้ชื่อแบรนด์หลักคือ ฮอท พอท เกินกว่า 15 ปี ต่อมาภายหลังบริษัทฯได้เข้าซื้อกิจการร้านอาหารแบรนด์ไดโดมอน และเปิดร้านอาหารประเภทอื่นๆ โดยใช้ชื่อแบรนด์แตกต่างกันออกไปเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ปัจจุบันดำเนินกิจการร้านอาหารภายใต้แบรนด์ต่างๆ อันได้แก่ ฮอท พอท อินเตอร์ บุฟเฟ่ต์, ฮอท พอท สุกี้ชาบู, ไดโดมอน, ซิกเนเจอร์, ทูมาโท้อิตาเลียน คิทเช่น และซุปเปอร์ พอท

     ในปีนี้ จะปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจใหม่โดยบริษัทฯ มีแผนจะเข้าซื้อกิจการร้านอาหารเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มความหลากหลายของประเภทอาหารและมีแบรนด์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น และในปัจจุบันมีหลายแบรนด์เชิญเข้าไปหารือให้เข้าร่วมทุนและเป็นพันธมิตร คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในเร็วๆ นี้

    “การเปลี่ยนชื่อใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยจะครอบคลุมทั้งในส่วนของอาหาร เครื่องดื่มและการบริการ เพราะได้มีการปรับกลยุทธ์ดำเนินธุรกิจใหม่ให้มีร้านค้าภายใต้การบริหารหลากหลายแบรนด์ และมีอาหารหลากหลายประเภทมากขึ้น โดยบริษัทฯมีเป้าหมายในการพัฒนาร้านอาหารรูปแบบใหม่ โดยไม่จำกัดเฉพาะอาหารประเภทสุกี้ชาบู เพื่อตอบสนองได้ทันกับความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน ซึ่งจะเน้นในเรื่องของคุณภาพอาหาร และการบริการสูงขึ้น”

      จากการปิดสาขาฮอทพอทที่อยู่ในทำเลไม่เหมาะสม และเป็นสาขาที่ไม่ทำกำไร ทำให้ส่งผลกระทบต่องบการเงินในปีที่ผ่านมาประสบปัญหาขาดทุน เนื่องจากมีการตัดจำหน่าย (Write-off) ทรัพย์สินออกไป อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ ผมมั่นใจว่า ธุรกิจอาหารของบริษัทฯจะกลับมาโดดเด่นอีกครั้ง ซึ่งในส่วนของ ฮอทพอท ได้มีการรีแบรนด์ดิ้งใหม่ และปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจโดยหันมาเจาะฐานลูกค้าพรีเมี่ยมมากขึ้น นอกจากนี้จะมีการเพิ่มแบรนด์ใหม่ๆ ให้มากขึ้นด้วย ทำให้มั่นใจว่าจะช่วยผลักดันรายได้ของบริษัทฯในปีนี้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

       นายอภิชัย กล่าวว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจปัจจุบันมั่นใจว่าในอนาคตจะมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากปีที่ผ่านมาได้มีการปิดสาขาของร้านฮอท พอท สุกี้ชาบู ประมาณ 40 สาขา ทำให้ปัจจุบัน ฮอท พอท มีสาขาเหลือจำนวน 104 แห่ง เพื่อลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจ ควบคู่ไปกับการบริหารต้นทุนการผลิตอาหาร (food cost)

 

Click Donate Support Web  BIT FUN728x90

yobit 560 60

8

f1 728x90 ru

468x60 bit

468x60 DOG

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!