‘สุรินทร์’ไม่พร้อมให้คำชี้แจง กรณีศาลแพ่งธนบุรีตัดสิน ให้คืนสินทรัพย์กงสีปุ้มปุ้ย ‘หุ้น 21 บริษัท-ที่ดิน 31 แปลง’

     รายงานข่าวจากสื่อมวลชน แจ้งว่า ในงานพิธีเปิด อาคารสุรินทร์ ถ.เชียงใหม่ เขตคลองสาน ซึ่งจะใช้เป็นสำนักงานของ บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างพศาล จำกัด (มหาชน) หรือปุ้มปุ้ย ในช่วงที่ผ่านมา โดยมี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดอาคารที่ทำการ โดยในงานดังกล่าว มีบรรดาสื่อมวลชน ไปรอทำข่าวในบริเวณดังกล่าวจำนวนหนึ่ง

     โดยบรรดาสื่อมวลชน ได้ขออนุญาตเข้าไปในงาน และเพื่อรอสอบถามท่านรองนายกรัฐมนตรี วิษณุ ในประเด็นการเมือง และบางส่วนก็จะขอเข้าไป เพื่อสอบถามความคืบหน้า ในคดีที่ศาลแพ่งธุนบุรี ตัดสินนายสุรินทร์ โตทับเที่ยงและพวกรวม 6 คน คืนสินทรัพย์ของครอบครัวโตทับเที่ยง ซึ่งประกอบด้วยหุ้นใน 21 บริษัท และที่ดินอีก 31 แปลง ให้แก่ 9 พี่น้องโตทับเที่ยง ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ของนายสุรินทร์ ออกมาชี้แจ้งว่า ไม่สามารถให้ผู้สื่อข่าวเข้าร่วมงานได้ และในขณะเดียวกัน นายสุรินทร์ ไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์ กรณีเรื่องคดีความดังกล่าวด้วยเช่นกัน

      ทั้งนี้ อาคารดังกล่าว ที่ นายวิษณุ ไปเป็นประธานในการตัดริบบิ้น ครั้งนี้ เป็นอาคารที่อยู่ในพื้นที่ของที่ดิน ในนามกรรมสิทธิ์ร่วมของนายสุธรรม โตทับเที่ยง และพี่น้องรวม 10 คน ถือครองคนละส่วน ซึ่งเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ ที่ต้องนำมาจัดสรร ให้กับพี่น้องทั้ง 9 คนด้วย อย่างไรก็ตาม ตึกดังกล่าวที่นายวิษณุ มาทำการตัดริบบิ้นนั้น ชื่ออาคารสุรินทร์ ซึ่งเป็นชื่อของนายสุรินทร์ เป็นจำเลยที่ 1 ในคดีนี้  

     อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ (20 มี.ค.) เวลา 9.00 น. ที่ผ่านมา ศาลแพ่งธนบุรี ได้นัดฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่พ.2264/2559 เนื่องจากเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา โจทก์ทั้ง 9 ซึ่งนำโดย นายสุธรรม โตทับเที่ยง และพี่น้องอีก 8 คนประกอบด้วย นางจุรี โตทับเที่ยง นางจุฬา หวังศิริเลศ นางจุรัตน์ มะนะสุทธิ์ นายสลิล โตทับเที่ยง นางสาวสุนีย์ โตทับเที่ยง นางสาวศิริพร โตทับเที่ยง นางบุษราคัม สินสุข รับมอบอำนาจจาก นางสุภัทรา สินสุข (เสียชีวิตแล้ว) และนายไกรลาภ โตทับเที่ยง รับมอบอำนาจจากนายสวัสดิ์ โตทับเที่ยง (เสียชีวิตแล้ว)

      ทั้งนี้ ได้ทำการยื่นฟ้อง นายสุรินทร์ จำเลยที่ 1 และพวกรวม 6 คน โดยโจทก์ทั้ง 9 ได้ยื่นฟ้องขอคืนทรัพย์สินในกงสี หรือทรัพย์ของครอบครัว ที่ทำมาหากินร่วมกัน

     โดย ศาลแพ่งธนบุรี ได้พิพากษาตัดสิน ให้ นายสุรินทร์ จำเลยที่ 1 และพวกรวม 6 คน ที่ถือแทนสินทรัพย์ของครอบครัว ประกอบด้วย หุ้นใน 21 บริษัท และที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่ถือแทนพี่น้องทั้ง 10 คน รวมจำเลยที่ 1 ด้วย นำคืนให้โจทก์ทั้ง 9 คน จำนวน 9 ส่วน และให้จำเลย 1 ส่วน