หมวดหมู่: บริษัทจดทะเบียน

1aaaKoolนพชย วระมาน


KOOL มั่นใจยอดขายปี 61โต 25% เจาะตลาดออนไลน์รุกส่งออกเพิ่มยอดขาย

      'มาสเตอร์คูล' ตั้งเป้ายอดขายปี 2561 เติบโต 25% ตอกย้ำ แบรนด์พัดลมไอเย็น ผู้นำตลาดทำความเย็น คาดปีนี้ พลิกกลับมามีกำไร อีกครั้ง หลังเปิดช่องตลาดออนไลน์เพิ่ม มั่นใจส่วนแบ่งตลาดเพิ่ม พร้อมรุกตลาดส่งออก เจาะกลุ่มประเทศซีกโลกใต้เพิ่มยอดขายได้ทั้งปี

      นายนพชัย วีระมาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(มหาชน) หรือ KOOL ผู้ผลิตและจำหน่ายพร้อมให้เช่า พัดลมไอน้ำ-ไอเย็นภายใต้แบรนด์ ‘มาสเตอร์คูล’ เปิดเผยว่า ภาพรวมของการดำเนินงานในปี 2561 บริษัทเชื่อมั่นว่าผลประกอบการในปีนี้ จะปรับตัวสูงขึ้น จากปีก่อน เนื่องจากปัจจัยการแข่งขันอุตสาหกรรมพัดลมไอเย็นปีนี้ รุนแรงน้อยกว่า เนื่องจากจำนวนคู่แข่งลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนซึ่งส่วนใหญ่สินค้าจะเป็นการนำเข้าจากประเทศจีน ส่งผลให้ภาพรวมของตลาดกลับมาสู่ภาวะปกติ โดยคาดว่ายอดขายในปีนี้ของบริษัทเติบโตอยู่ที่ 25% เมื่อเทียบกับปีก่อน และคาดว่าจะทำให้บริษัทสามารถกลับมามีกำไรได้ในปีนี้

        “ภาวะการแข่งขันของตลาดลดลงจากปีก่อนอย่างมาก เนื่องจากผู้ประกอบการพัดลมไอเย็น เหลือเพียงแค่รายหลักเท่านั้น ขณะที่บริษัทเองได้มีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาด ทั้งการออกหนังโฆษณา ผ่านสื่อทีวี และออนไลน์ รวมทั้งการขยายช่องทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น และการขยายตลาดส่งออกเพิ่มขึ้น บริษัทมีเป้าหมายว่าผลประกอบการในปีนี้ จะขยายตัวทั้งยอดขายและสามารถกลับมามีกำไร(Turn Around )ได้อีกครั้ง”

      สำหรับ กลยุทธ์หลักทางการตลาดในปีนี้ บริษัทฯ วางแผนที่จะตอกย้ำความเป็นผู้นำ แบรนด์ 'มาสเตอร์คูล' เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดการจดจำถึงจุดแข็งและความเป็นนวัตกรรมของแบรนด์มาสเตอร์คูล รวมทั้งเป็นตัวเลือกแรกในการมองหาพัดลมไอเย็น ดังนั้นในปีนี้ บริษัทได้ออกภาพยนตร์โฆษณาชุดแรก ชื่อ ‘มาสเตอร์คูล เย็นไล่ยุง’ ผ่านช่องทางตลาด ทั้งออนไลน์ และทางทีวี ซึ่งภายหลังจากที่มีการออนแอร์ ผ่านช่องทางต่างๆไปแล้ว ได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในช่องทางออนไลน์ ที่มีผู้เข้าชมกว่า 2 ล้านวิว มีทั้งการติดตาม แชร์ และสั่งซื้อ ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้น ทั้งผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆด้วย เห็นได้ว่าการทำตลาดสามารถ เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์ ในการเลือกซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น ขณะเดียวกันในปีนี้ ยังเป็นปีแรกของบริษัทที่ได้ทำระบบ อีคอมเมิร์ช (E-commerce) ผ่าน Shop.masterkool.com ซึ่งเป็นช่องทางการจำหน่ายสำหรับกลุ่มลูกค้าอีกทางหนึ่งที่คาดว่าจะเป็นแผนการตลาดในระยะยาวที่ทำให้มียอดขายและรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง

      นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมขยายตลาดไปยังต่างประเทศในเชิงรุก ซึ่งปัจจุบันมีการส่งออกสินค้าไปแล้วกว่า 40 ประเทศทั่วโลก โดยในปีนี้บริษัทมีแผนที่ขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศซีกโลกใต้ เช่น ออสเตรเลีย เม็กซิโก อเมริกาใต้ และแอฟริกา เป็นต้น เนื่องจากประเทศเหล่านี้ จะมีอากาศร้อนในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้บริษัทจะมียอดขายเข้ามาตลอดทั้งปี ส่วนตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV เริ่มมีคำสั่งซื้ออย่างต่อเนื่องและอยู่ระหว่างการทยอยส่งสินค้าเนื่องจากสภาพภูมิอากาศใกล้เคียงกับประเทศไทย

      ทั้งนี้ บริษัทยังได้เตรียมแผนนำสินค้าไปจัดแสดงสินค้าในงานเทรดแฟร์ต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงเดือนเมษายน 2561 ที่บริษัทได้นำสินค้าภายใต้แบรนด์มาสเตอร์คูล ไปร่วมจัดแสดงในงาน “กวางเจาเทรดแฟร์ 2018 หรือ แคนตันแฟร์ (Canton Fair) ประเทศจีน” ซึ่งถือเป็นงานแสดงสินค้าขนาดใหญ่ระดับโลก และได้รับความนิยม ซึ่งบริษัทได้เข้าร่วมมาอย่างต่อเนื่อง และสินค้าได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคในประเทศจีน ด้วยความแตกต่างของเทคโนโลยี และนวัตกรรม ของผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าพัดลมไอเย็นที่ผลิตจากจีน อย่างไรก็ตามเป้าหมายการส่งออก ของบริษัทได้คาดว่าโอกาสการทำตลาดจะมีสัดส่วนยอดขายในต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 40% ในอีก 3 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันอยู่ระดับ 20%

       นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม 'อินกรีน (InGreen)' ในเรื่องของประหยัดพลังงานและด้านสิ่งแวดล้อม ภายใต้บริษัท อินโนว์ กรีนโซลูชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของมาสเตอร์คูลฯ เพื่อขยายฐานลูกค้าในกลุ่มองค์กร โรงงานอุตสาหกรรม โรงเรียน เป็นต้น โดยที่ผ่านมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในการแก้ปัญหาเรื่องการประหยัดพลังงานและสิ่งแวดล้อมในลักษณะบริการและการเช่า โดยในปีนี้ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ โค-พลาสม่า (Co-Plasma) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่เพื่อกำจัดกลิ่นจากโรงงานอุตสาหกรรม

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!