หมวดหมู่: กทม.

BMTAประยร ชวยแกว


ขสมก.แจงโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV 489 คัน โปร่งใส-ถูกต้องตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ

     ขสมก.ยืนยันโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV 489 คัน เป็นไปอย่างโปร่งใส ถูกต้องตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯภาครัฐ  ชี้เป็นโครงการจำเป็นเร่งด่วน และมีกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO เป็นผู้เสนอราคาเพียงรายได้ และเสนอราคาสูงกว่าราคากลาง 5% ซึ่งอยู่ในกรอบวงเงินที่ ครม.อนุมัติ

      นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ออกหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงกรณี นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ร้องเรียนนายกรัฐมนตรี ให้ตรวจสอบความโปร่งใสของการจัดซื้อรถเมล์ NGV ว่า การดำเนินการจัดซื้อรถรถโดยสาร NGV จำนวน 489 คัน ขสมก. ได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติ การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ข้อ 74 ด้วยวิธีคัดเลือก โดยเชิญผู้ประกอบการ จำนวน 11 รายเข้ายื่นข้อเสนอปรากฏว่ามี ผู้เสนอราคาเพียงรายเดียว คือ กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO โดยบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) และบริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด(มหาชน)

       แต่เนื่องจาก ขสมก. มีความจำเป็นเร่งด่วนตามนโยบายของรัฐ ให้เร่งจัดหารถโดยสารใหม่ทดแทนรถโดยสารเดิมอย่างรวดเร็ว ประกอบกับกรมการขนส่งทางบกได้จัดสรรเส้นทางเดินรถให้องค์การจัดรถโดยสารเข้าเดินรถตามเส้นทางที่ได้รับจัดสรร ซึ่งองค์การมีรถโดยสารไม่เพียงพอที่จะนำมาวิ่งในเส้นทาง อีกทั้งองค์การได้ดำเนินการจัดหามาแล้ว จำนวน 7 ครั้ง ยังไม่ประสบผลสำเร็จ จึงได้ดำเนินการตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ข้อ 75 ซึ่งกำหนดว่า “หากปรากฏว่ามีผู้ยื่นข้อเสนอเพียงรายเดียว หรือมีผู้ยื่นข้อเสนอหลายราย แต่ถูกต้องตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดในหนังสือเชิญชวนเพียงรายเดียว ให้คณะกรรมการดำเนินการตามข้อ 56 โดยอนุโลม” โดย ขสมก.ได้ดำเนินการตามระเบียบทุกขั้นตอน

      กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO โดยบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทหลัก เสนอราคาสูงกว่าราคากลางประมาณ ร้อยละ 5 แต่ยังอยู่ในวงเงินที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี และคณะกรรมการฯ ได้เจรจาต่อรองราคาจนถึงที่สุดแล้ว ซึ่งตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ข้อ 57 วรรคสอง กำหนดไว้ว่า “…ในกรณีที่ปรากฏว่าราคาของผู้ที่ชนะการเสนอราคา ยังสูงกว่าวงเงินที่จะซื้อหรือจ้างให้คณะกรรมการดำเนินการ ดังนี้” และข้อ 57 (1) กำหนดว่า “….หากผู้เสนอราคารายนั้นยอมลดราคา และราคาที่เสนอใหม่ไม่สูงกว่าวงเงินที่จะซื้อหรือจ้างหรือสูงกว่า แต่ส่วนที่สูงกว่านั้นไม่เกินร้อยละสิบของวงเงินที่จะซื้อหรือจ้าง หรือต่อรองราคาแล้วไม่ยอมลดราคาลงอีก แต่ส่วนที่สูงกว่านั้นไม่เกินร้อยละสิบของวงเงินที่จะซื้อหรือจ้าง ถ้าเห็นว่าราคาดังกล่าวเป็นราคาที่เหมาะสม ก็ให้เสนอซื้อหรือจ้างจากผู้ที่เสนอราคารายนั้น” โดย ขสมก.ได้ดำเนินการตามระเบียบทุกขั้นตอน

       ส่วนการกำหนดราคากลางรถโดยสาร NGV ​องค์การกำหนดราคากลางสำหรับการจัดซื้อ โดยการสืบราคาจากท้องตลาด จากผู้ประกอบการ จำนวน 5 ราย เพื่อนำมากำหนดเป็นราคากลาง และเป็นราคาอ้างอิงในการจัดหาครั้งนี้ ซึ่งอยู่ในช่วงราคา 3.549 - 5.000 ล้านบาท แต่เพื่อประโยชน์ขององค์การ จึงได้นำราคาของรายต่ำสุดมากำหนดเป็นราคากลาง ในขณะที่ตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 4 กำหนดความหมายของราคากลางไว้ว่า “ราคากลาง” หมายความว่า ราคาเพื่อใช้เป็นฐานสำหรับเปรียบเทียบราคาที่ผู้ยื่นข้อเสนอได้ยื่นเสนอไว้ ซึ่งสามารถจัดซื้อจัดจ้างได้จริง ดังนั้น จึงทำให้ราคาที่องค์การนำมาใช้เป็นราคากลาง ต่ำกว่าที่ผู้ประกอบการได้เสนอราคามาจริง อย่างไรก็ตามราคาที่องค์การต่อรองได้นั้น เมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่สืบราคาจากท้องตลาด จากผู้ประกอบการทั้ง 5 รายแล้ว พบว่า ยังอยู่ในเกณฑ์ราคาต่ำของช่วงราคานั้น โดยการดำเนินการในครั้งนี้องค์การได้หารือกับ กรมบัญชีกลางทุกขั้นตอน

       ประเด็นการประชุมของคณะกรรมการบริหารกิจการองค์การ ​คณะกรรมการบริหารกิจการองค์การ มีมติในคราวประชุม ครั้งที่ 15/2560 เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2560 อนุมัติให้ ขสมก. ดำเนินการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) พร้อมซ่อมแซมและบำรุงรักษารถโดยสาร จำนวน 489 คัน กับกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO โดยบริษัท ช ทวี จำกัด(มหาชน) และบริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) และในการประชุมคณะกรรมการบริหารกิจการองค์การ ครั้งที่ 16/2560 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2560 ได้มีมติรับรองการประชุมโดยคณะกรรมการฯเสียงข้างมาก

       สำหรับ สัญญาเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (E-ticket) ของบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) ​องค์การได้ทำสัญญาเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (E-ticket) กับบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) ให้ติดตั้งเครื่องอ่านบัตรและเครื่องเก็บค่าโดยสารบนรถ จำนวน 2,600 คัน ซึ่งขณะนี้ บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) อยู่ระหว่างดำเนินการติดตั้งและส่งมอบ และคณะกรรมการตรวจรับพัสดุของ ขสมก.ยังไม่ได้มีการตรวจรับ อยู่ระหว่างการตรวจรับและทดสอบระบบ ซึ่งตามสัญญา บริษัทฯ จะส่งมอบงานภายในวันที่ 10 มิถุนายน 2561 เมื่อคณะกรรมการตรวจรับเรียบร้อยแล้ว จึงจะตั้งเบิกจ่ายให้บริษัทฯ ปัจจุบันองค์การไม่ได้จ่ายค่าเช่าระบบให้กับบริษัทฯแต่อย่างใด

       ทั้งนี้ ยืนยัน องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 อย่างถูกต้องแล้ว ในการดำเนินการทุกขั้นตอนได้เชิญผู้สังเกตการณ์จากองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน(ประเทศไทย) เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วยทุกครั้ง จึงทำให้มั่นใจได้ว่าการดำเนินการจัดหาขององค์การเป็นไปด้วยความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย 

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!