ธปท.เผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ เดือนม.ค.61 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 52.5 จาก 50.2 ในเดือนก่อน รับความเชื่อมั่นกลุ่มเคมี - ปิโตรเลียม - พลาสติก และเหล็ก ขณะที่ค้าปลีก - ขนส่งสดใสรับเทศกาลช่วงปลายปี ส่วน 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 55.9 ใกล้เคียงเดือนก่อน

     ส่วนวิเคราะห์สนเทศธุรกิจและครัวเรือน ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยผ่านเอกสารเผยแพร่ ถึง ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ในเดือนมกราคม 2561 ดัชนีฯ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่50.2 มาอยู่ที่ 52.5 เป็นการปรับเพิ่มขึ้นในทุกองค์ประกอบ โดยผู้ประกอบการในภาคการผลิตมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นมากในด้านปริมาณคำสั่งซื้อ การผลิต และผลประกอบการ โดยเฉพาะในกลุ่มการผลิตเคมี ปิโตรเลียมและยางและพลาสติก และการผลิตเหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์โลหะขั้นมูลฐาน ขณะเดียวกันผู้ประกอบการในภาคที่มิใช่การผลิตมีความเชื่อมั่นด้านผลประกอบการเพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ อาทิ ผู้ประกอบการในภาคค้าปลีกและภาคขนส่งและโทรคมนาคมที่ได้รับผลดีจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในช่วงปลายปี 2560 รวมถึงผู้ประกอบการในธุรกิจที่พักแรมและบริการด้านอาหารที่มีความเชื่อมั่นด้านยอดขายและราคาขายเพิ่มขึ้น

     ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ดัชนีฯ อยู่ที่ระดับ 55.9 ใกล้เคียงกับเดือนก่อน โดยองค์ประกอบส่วนใหญ่ทรงตัวเหนือระดับ 50ยกเว้นความเชื่อมั่นด้านต้นทุนลดลงมากจากเดือนก่อนทั้งในภาคการผลิต การค้าและการบริการ ส่วนหนึ่งจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นประกอบกับผู้ประกอบการคาดว่าต้นทุนค่าแรงจะเพิ่มขึ้นจากการประกาศปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ อย่างไรก็ดี ความเชื่อมั่นด้านการผลิตในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน

      โดยเฉพาะในธุรกิจการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตามคาดการณ์คำสั่งซื้อจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ธุรกิจการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่เชื่อมั่นว่ายอดขายในอีก 3 เดือนข้างหน้าจะเพิ่มขึ้น

     การคาดการณ์เงินเฟ้อในอีก 12 เดือนข้างหน้าปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ร้อยละ 2.2 จากแรงกดดันด้านต้นทุนที่สูงขึ้น สะท้อนจากความเชื่อมั่นด้านต้นทุนที่มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องและข้อจำกัดด้านต้นทุนกลายเป็นข้อจ ากัดอันดับ 1 ในการดำเนินธุรกิจเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยหลักที่กดดันธุรกิจให้ปรับราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นในปีนี้

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย