หมวดหมู่: บทวิเคราะห์
ASIAwealth
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook 
ปัจจัยลบรุมเร้า
          กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มไม่สดใส จากปัจจัยทางการเมืองในประเทศ กังวลเรื่องการชัตดาวน์ (ปิดหน่วยงานของรัฐบาล) ราคาน้ำมันปรับตัวลง ในขณะที่ผลประกอบการหุ้นกลุ่มธนาคารประกาศออกมาผิดความคาดหมาย ธนาคารขนาดใหญ่เช่น KBANK SCB โดยเฉพาะ KBANK สร้าง Bad Surprise ผลประกอบต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ 30% ขณะที่ BBL เป็นไปตามคาด ขณะที่ปัจจัยบวกสำคัญคือ GDP ของจีนในปี  2560 เติบโตสูงกว่าที่คาดมาที่  6.9%YoY ขณะที่รัฐบาลจีนคาดการณ์เพียง 6.5% ส่วน BANPU คาดว่า Sentiment บวกเริ่มดีขึ้นจากศาลฎีกาแจ้งกำหนดนัดฟังคำพิพากษาคดีโรงไฟฟ้าหงสา วันที่ 6. มี.ค.ทำให้ช่วงเวลาจะปลดล็อคความกังวลของหุ้น BANPU เริ่มใกล้เข้ามา เรายังแนะนำซื้อ BANPU ต่อไป หุ้นแนะนำวันนี้ เลือก SC, BANPU, CBG กรอบดัชนีวันนี้  1,802 - 1,836 จุด
Stock
Comment
SC
เลือกเป็น Pick of the day
BANPU
ศาลฎีกาแจ้งกำหนดนัดฟังคำพิพากษาคดีโรงไฟฟ้าหงสา วันที่ 6. มี.ค.61 เวลา 9.00 น. ทำให้ช่วงเวลาจะปลดล็อคความกังวลของหุ้น BANPU เริ่มใกล้เข้ามา เราคาดว่าแม้มีค่าปรับค่าชดเชยซึ่งเป็นการจ่ายร่วมกันระหว่าง BANPU กับ BPP จะกระทบ Fair Value ของ BANPU ไม่เกิน 5.30 บาทต่อหุ้น และเราคาดว่ากลุ่ม BANPU จะไม่ต้องชดใช้เป็นมูลค่าสูงหรือไม่ต้องชดใช้เลย ซึ่ง BANPU ไม่ได้มีการตั้งสำรองใด ๆ ก่อนหน้านี้
CBG
แม้ผลประกอบการปี 2560 ไม่สดใส ปี 2561 Turnaround กลับ แต่เรามองการเติบโตระยะไกลของกำไรสดใสตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป ซึ่งราคาระดับ 80 บาทต้น ๆ ยังมีความน่าสนใจและคุ้มค่าลงทุน

หุ้นเด่นวันนี้ : SC (ปิด 4.18 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายของ AWS 12 เดือน เท่ากับ 5.00 บาท)
           SC แข็งแกร่งที่การเติบโตในปี 2561-2562 และปันผลสูง การโอนและการรับรู้รายได้จะเริ่มดีขึ้นอย่างมากตั้งแต่ไตรมาส 4/60 เป็นต้นไป และจะมีกำไรที่เติบโตดีมากในปี 2561-2562 และไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ การโอนสองโครงการใหญ่ ศาลาแดง วัน มูลค่า 4.7 พันล้านบาท และ บีทนิค มูลค่า 4.0 พันล้านบาท ในปี 2561 แม้กำไรจากการดำเนินงานปี 2560 จะอ่อนตัวลง 14% YoY แต่เราคาดการเติบโตของกำไรสุทธิปี 2561-2562 ราว 26% และ 20% ปันผลตอบแทน 5-6% น่าพอใจ เราแนะนำซื้อ SC ราคาเป้าหมาย 5.00 บาท อิงค่า PER 10 เท่าปี 2561 
           Price Pattern ของ SC ยังคงมีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มหลักที่เป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal เป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 4.30 บาท และมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 4.76 บาท ตามลำดับ ทั้งนี้ SC มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 3.88 บาท (Resistance: 4.24, 4.30, 4.38; Support: 4.16, 4.10, 4.02)
ปัจจัยในประเทศ :
กสทช. ขยายการประมูลเพิ่มเป็น 9 สล็อต : กสทช มีแผนที่จะประมูล Bandwidth 10 MHz ของคลื่นความถี่ 850MHz และ 90MHz ของคลื่นความถี่ 1800MHz ในปีนี้ โดยการแก้ไขครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มีการจัดให้มีการเปิดประชาพิจารณ์เกณฑ์ประมูลคลื่นจากผู้ประกอบการโทรคมนาคมเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสนับสนุนให้มีการแข่งขันในการประมูลมากขึ้น (Bangkok Post) ความเห็น: ข้อเรียกร้องของผู้ประกอบการโทรคมนาคมมีความสมเหตุสมผลเนื่องจากการเพิ่มสล๊อต Bandwidth เป็น 9 สล็อตนั้นจะทำให้ผู้ประกอบการสามารถเลือกช่วงความถี่ที่เหมาะสมกับขนาดธุรกิจในแต่ละรายส่งผลให้มีการแข่งขันเพื่อประมูลคลื่นที่ต้องการมากขึ้น  
KBANK (ราคาปิด 213 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายของ AWS 265 บาท) รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/60 ที่ 5.7 พันล้านบาท ลดลง 39.8% QoQ และ 44.3% YoY ต่ำกว่าประมาณการของเรา 33% และประมาณการเฉลี่ยบลูมเบิร์ก 39% กำไรที่ร่วงลงถูกฉุดโดยค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล ระดับการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่ลดลง ขณะที่กำไรสุทธิรวมปี 2560 อยู่ที่ 3.43 หมื่นล้านบาท ลดลง 14.5% YoY (SET) ความเห็น: แม้กำไรสุทธิไตรมาส 4/60 จะออกมาต่ำกว่าที่เราและตลาดคาด แต่อันที่จริงแล้วผลการดำเนินงานโดยรวมเป็นไปตามที่ KBANK เคยให้ข้อมูลไว้ก่อนหน้านี้ว่าธนาคารจะยังตั้งสำรองในระดับสูงอยู่และจะมีค่าใช้จ่ายการดำเนินงานจำนวนมากเกิดขึ้นในไตรมาส 4/60 เรากำลังทบทวนประมาณการของเรา แต่เบื้องต้นเราคาดกำไรสุทธิของ KBANK จะฟื้นตัวในปี 2561 เป็นไปตามเป้าหมาย credit cost ที่ผ่อนคลายลงและสินเชื่อที่ปรับตัวดีขึ้น หนุนโดยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ KBANK จะมีการจัดประชุมนักวิเคราะห์ในเช้าวันนี้
BANPU (ราคาปิด 22.60 บาท, "ซื้อ" AWS TP 27.00 บาท)แจ้งวันนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาในวันที่ 6 มี.ค. 61 เวลา 9.00 น. และจะแจ้งผลที่ได้ต่อตลาดหลักทรัพย์ ในส่วนของคดีโครงการหงสา โดยโจทย์ฟ้อง BANPU และผู้ที่เกี่ยวข้อง ว่าได้หลอกลวงโดยเข้าร่วมทำสัญญาร่วมทุนเพื่อให้ได้ข้อมูลสัมปทานเหมืองถ่านหิน และข้อมูลรายการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินลิกไนต์ที่เมืองหงสา และได้รายงานเท็จต่อรัฐบาลลาวให้ยกเลิกสัมปทานของโจทก์ เพื่อให้ทางบริษัททำสัญญากับรัฐบาลลาวเองโดยตรง อย่างไรก็ตามศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายกฟ้องไปก่อนหน้า ความเห็น: เรามีมุมมองเป็นบวกต่อคดีดังกล่าว เนื่องจากจากสถิติในอดีตพบว่าศาลฎีกาจะตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์ อย่างไรก็หาก BANPU แพ้คดีดังกล่าวเราคาดว่า BANPU อาจต้องจ่ายค่าปรับและส่งผลลบให้มูลค่าหุ้นลดลงประมาณ 5.3 บาทต่อหุ้น
EA (ราคาปิด 67.50 บาท, "N.R", IAAs Consensus 78.50 บาท) เมื่อวานนี้ EA ได้เปิดตัวธุรกิจใหม่สถานีชาร์ตรถยนต์ไฟฟ้าพร้อม Application ในมือถือ "EA Where" สำหรับค้นหาสถานีชาร์ตรถยนต์ไฟฟ้า บริษัทตั้งเป้าหมายเปิดสถานีบริการจ่ายไฟฟ้าดังกล่าว 1,000 สถานีภายในสิ้นเดือน ม.ค. 61 นี้และตั้งเป้าหมายเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 สถานีภายในสิ้นปี 2561 นี้ ผู้บริหารมองว่าเป็นการก้าวเข้ามาในธุรกิจก่อนเพื่อสร้างมาตรฐานให้กับอุตสาหกรรมในอนาคต โดยในช่วงแรกยังไม่ได้หวังผลกำไร นอกจากนี้ EA ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรเตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทยในงานมอเตอร์โชว์ ความเห็น:เรามองว่าเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ แต่จะประสบความสำเร็จขึ้นกับ (1) ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในงานมอเตอร์โชว์นี้ และ (2) นโยบายของภาครัฐว่าจะส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าดังกล่าวมากน้อยแค่ไหน
ตลาดต่างประเทศ :
ตลาดหุ้น-ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดปรับตัวลดลงทั้งสามตลาด ทั้งที่ช่วงบวกขึ้นในช่วงเปิดตลาด ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่น ๆ เนื่องจากความวิตกกังวลว่าสภาคองเกรสสหรัฐฯ อาจไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวได้ทันเส้นตายในวันนี้ ซึ่งจะส่งผลให้มีการปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือ ชัตดาวน์ นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐฯ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านทรุดตัวลง 8.2% ในเดือน ธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.192  ล้านยูนิต โดยเป็นการร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย.59  หลังจากอยู่ที่ระดับ 1.299  ล้านยูนิตในเดือน พ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงสู่ระดับ 1.275  ล้านยูนิต การอนุญาตก่อสร้างบ้านลดลง 0.1% ในเดือนธ.ค. สู่ระดับ 1.302  ล้านยูนิต โดยการอนุญาตก่อสร้างบ้านสำหรับครอบครัวเดี่ยวเพิ่มขึ้น 1.8% ขณะที่การอนุญาตก่อสร้างบ้านสำหรับหลายครอบครัวลดลง 3.9%
ตลาดหุ้นยุโรป : ปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนที่ขยายตัวเกินเป้าในปี 2560 มาที่ 6.9 % สูงกว่าเป้าหมายของทางการจีนที่ 6.5 % ขณะที่หุ้นกลุ่มเซมิคอนดัคเตอร์พุ่งขึ้นขานรับรายงานคาดการณ์ที่ว่า ยอดการจัดส่งเซมิคอนดัคเตอร์ในสหรัฐจะเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันดิบ : ปิดลบ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ระบุว่า การผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐปรับตัวขึ้นใกล้เคียงกับแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดได้ปัจจัยหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 9 สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 6.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 412.7 ล้านบาร์เรล ในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์น้ำมันโดยรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 20.5 ล้านบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 5.6% YoY ผลิตภัณฑ์น้ำมันเบนซินมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 9.1 ล้านบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 6.2% YoY  ผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.1 ล้านบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 16.0% Yo
ราคาทองคำ : ปิดร่วงลง12 ดอลลาร์ หรือ 0.90% ปิดที่ 1327.20 ดอลลาร์/ออนซ์เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกัน 5 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ นับเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดสัญญาทองคำร่วงลง
ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 1,139.00 จุด ลดลง 25.00 จุด
Thailand Research Department
          Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
          Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No.17385) Tel: 0-2680-5077
          Ms. Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042
          Mr. Adisak Prombun (No.14543) Tel: 0-2680-5056
          Mr. Nutchapol Cheevavichawalkul (No.46377) Tel: 2-2680-5094
OO4671

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!