หมวดหมู่: บริษัทจดทะเบียน

TRIS7 25


ทริสเรทติ้ง จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันวงเงินไม่เกิน 4,500 ล้านบาท 'บ.พฤกษา โฮลดิ้ง' ที่ระดับ 'A/Stable'

 

      ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้มีการค้ำประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ'A' ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต Stable’ หรือ ‘คงที่’พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้มีการค้ำประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 4.5 พันล้านบาทของบริษัทที่ระดับ A’ ด้วยเช่นกัน โดยหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการค้ำประกันอย่างไม่มีเงื่อนไขและไม่อาจเพิกถอนได้โดย บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัทที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตโดยทริสเรทติ้งที่ระดับA’ ด้วยแนวโน้ม Stable’ หรือ ‘คงที่’ ทั้งนี้ หุ้นกู้มีการค้ำประกันดังกล่าวมีสิทธิเท่าเทียมกันกับหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของบริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท ในการนี้ บริษัทตั้งใจจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ดังกล่าวไปใช้ทดแทนหุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท (PS205A) ที่จะครบกำหนดชำระในเดือนพฤษภาคม 2563 และจ่ายชำระเงินกู้ยืมระยะสั้น

         อันดับเครดิตสะท้อนถึงคุณภาพเครดิตของบริษัทในฐานะที่เป็นบริษัทโฮลดิ้งของบริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท ซึ่งบริษัทเป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 98.23% นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงรายได้จากเงินปันผลที่บริษัทได้รับจากบริษัทพฤกษา เรียลเอสเตทซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่สำคัญของกลุ่มตาม Group Rating Methodology ของทริสเรทติ้งอีกด้วย

         บริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการชั้นนำในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยที่ความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัทมาจากความหลากหลายของสินค้า ตลอดจนความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุน และยอดขายรอการส่งมอบจำนวนมากที่ช่วยสนับสนุนรายได้ของบริษัทในอนาคตได้ส่วนหนึ่ง นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนของกลุ่มบริษัทที่อยู่ในระดับปานกลาง ตลอดจนความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงจากเหตุไม่คาดคิดกรณีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 (COVID-19) ซึ่งจะส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศและความต้องการที่อยู่อาศัย

        รายได้จากการดำเนินงานรวมของบริษัทในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจัดว่าสูงที่สุดในกลุ่มผู้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยอยู่ในระดับ 4.4-4.7 หมื่นล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2559-2561 แต่ลดลงมาอยู่ที่ 4 หมื่นล้านบาทในปี 2562 ยอดขายของบริษัททำสถิติสูงสุดที่ 5.11 หมื่นล้านบาทในปี 2561 และลดลงเหลือ 3.56 หมื่นล้านบาทในปี 2562 ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศและเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในเดือนเมษายน 2562 ซึ่งมีความเข้มงวดขึ้น

         ทริสเรทติ้ง คาดว่ายอดขายและรายได้จากการดำเนินงานรวมของบริษัทในปีนี้จะลดลงเนื่องจากความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อความต้องการที่อยู่อาศัยและอาจทำให้เกิดความล่าช้าในการส่งมอบได้ อย่างไรก็ตาม รายได้จากการดำเนินงานรวมของบริษัทน่าจะปรับดีขึ้นเป็น 4-4.5 หมื่นล้านบาทต่อปีในช่วงปี 2564-2565 โดยรายได้จากธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยจะยังคงเป็นแหล่งรายได้หลักของบริษัทต่อไป ในขณะที่รายได้จากธุรกิจสถานพยาบาลจะยังมีไม่มากนัก

        ณ เดือนธันวาคม 2562 บริษัทมีโครงการที่อยู่อาศัยระหว่างการพัฒนาเป็นจำนวนมากถึงประมาณ 200 โครงการซึ่งมีมูลค่าเหลือขายรวม 1.05 แสนล้านบาท (รวมทั้งที่ก่อสร้างแล้วและยังไม่ได้ก่อสร้าง) โดยโครงการทาวน์เฮ้าส์คิดเป็นสัดส่วน 47% ของมูลค่าเหลือขายทั้งหมด ในขณะที่โครงการบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียมคิดเป็นสัดส่วน 29% และ 24% ตามลำดับ บริษัทมียอดขายรอการรับรู้รายได้มูลค่า 2.9 หมื่นล้านบาท ณ เดือนธันวาคม 2562 ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะส่งมอบยอดขายรอการรับรู้รายได้ดังกล่าวให้แก่ลูกค้าคิดเป็นมูลค่าจำนวน 1.3 หมื่นล้านบาทในปี 2563 จำนวน 1.2 หมื่นล้านบาทในปี 2564 และจำนวน 4 พันล้านบาทในปี 2565

         อัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ของบริษัทอยู่ที่ระดับ 19%-21% ในช่วงปี 2559-2562 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ 15% ทั้งนี้ ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทอาจได้รับแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่ชะลอตัวซึ่งเป็นผลมาจากภัยแล้งและการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปี 2563 จึงคาดว่าความสามารถในการทำกำไรของบริษัทอาจลดลงเล็กน้อยในปีนี้เนื่องจากบริษัทต้องใช้เงินทุนในการทำการตลาดและส่งเสริมการขายเพื่อเร่งยอดขายและยอดโอนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะสามารถรักษาอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ให้อยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 15% เอาไว้ได้

     แม้ว่า บริษัทจะขยายสู่ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยและธุรกิจสถานพยาบาล แต่ทริสเรทติ้งก็คาดว่าบริษัทจะสามารถรักษาอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 50% หรืออัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 1 เท่าเอาไว้ได้ในช่วง 3 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ ณ เดือนธันวาคม 2562 อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนของบริษัทอยู่ที่ระดับ 42% และอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนของบริษัทอยู่ที่ระดับ 0.75 เท่า

      แม้ว่าปัจจัยพื้นฐานของบริษัทมีความแข็งแกร่ง แต่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ลดลงต่อตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็อาจทำให้มีความเสี่ยงในการต่ออายุหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดของกลุ่มบริษัทได้ อย่างไรก็ตาม สมาคมธนาคารไทย ธนาคารออมสิน บริษัทประกันชีวิตต่าง ๆ และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการได้ร่วมกันจัดตั้ง “กองทุนเพื่อเสริมสภาพคล่องในตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชน” ขึ้นเพื่อเข้าไปซื้อตราสารหนี้ระยะสั้นที่ออกโดยภาคเอกชนที่มีอันดับเครดิตดีแต่ไม่สามารถต่ออายุที่ครบกำหนดได้ทั้งจำนวนมูลค่ารวมทั้งสิ้น 7 หมื่นถึง 1 แสนล้านบาท ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะช่วยเสริมสภาพคล่องในตลาดตราสารหนี้และลดความเสี่ยงจากการต่ออายุหุ้นกู้ของภาคเอกชนได้

       ตามงบการเงินรวมของบริษัทพฤกษา โฮลดิ้ง บริษัทมีภาระหนี้ที่จะครบกำหนดชำระในอีก 12 เดือนข้างหน้าจำนวน 1.48 หมื่นล้านบาทซึ่งประกอบด้วยหนี้สินระยะสั้นจำนวน 6 พันล้านบาท เงินกู้ระยะยาวจากธนาคารจำนวน 1.7 พันล้านบาท และหุ้นกู้จำนวน 7.1 พันล้านบาท แหล่งเงินทุนของบริษัทประกอบด้วยเงินสดในมือจำนวน 1.8 พันล้านบาท รวมถึงวงเงินสินเชื่อที่ยังไม่ได้เบิกใช้และไม่ติดเงื่อนไขในการเบิกจำนวน 5.7 พันล้านบาท ในขณะที่กระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัทในช่วง 12 เดือนข้างหน้าคาดว่าจะอยู่ที่ 6.8 พันล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังมีที่ดินเปล่าที่ปลอดภาระค้ำประกันมูลค่าตามบัญชีจำนวน 6.1 พันล้านบาทอีกด้วย

แนวโน้มอันดับเครดิต

      แนวโน้มอันดับเครดิต 'Stable' หรือ 'คงที่' สะท้อนถึงความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถรักษาผลการดำเนินงานที่ดีเอาไว้ได้ในระยะปานกลาง และทริสเรทติ้งยังคาดว่าบริษัทย่อยจะสามารถส่งมอบยอดขายอสังหาริมทรัพย์ที่รอรับรู้รายได้จำนวนมากได้ตามแผน แม้ว่าความต้องการที่อยู่อาศัยจะชะลอตัวจากทั้งผู้ซื้อภายในประเทศและต่างประเทศผนวกกับความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ทริสเรทติ้งก็คาดว่าบริษัทจะสามารถรักษาอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ให้อยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 15% และอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 50% เอาไว้ได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

    อันดับเครดิตของบริษัทจะขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานและสถานะทางการเงินของกลุ่มบริษัท หากการลงทุนในธุรกิจใหม่ประสบผลสำเร็จก็จะส่งผลดีต่อกลุ่มบริษัท ในทางตรงกันข้าม อันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับผลกระทบในทางลบหากการลงทุนในธุรกิจใหม่ของบริษัทส่งผลให้สถานะทางการเงินของกลุ่มบริษัทอ่อนแอลง

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 26 กรกฎาคม 2562

- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงิน, 5 กันยายน 2561

- Group Rating Methodology, 10 กรกฎาคม 2558

บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (PSH)

อันดับเครดิตองค์กร: A

อันดับเครดิตตราสารหนี้:

PSH215A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 4,750 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2564 A

PSH22NA: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 3,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A

PSH223A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 3,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2565 A

PSH235A: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 750 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 A

PSH24NA: หุ้นกู้มีการค้ำประกัน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2567 A

หุ้นกู้มีการค้ำประกันในวงเงินไม่เกิน 4,500 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 5 ปี A

แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com

ติดต่อ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500

         บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2563 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้

             ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

******************************************

 

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!