หมวดหมู่: แบงก์พาณิชย์

1baผยง ศรีวณิช


สมาคมธนาคารไทย ยืนยันทุกธนาคารปฏิบัติตาม ปปง.อย่างเคร่งครัด

     ตามที่ปรากฎรายงานข่าวทางเว็บไซต์ของสมาคมผู้สื่อข่าวสืบสวนสอบสวนนานาชาติ (ICIJ) ว่า สถาบันการเงินหลายแห่งในหลายประเทศ รวมทั้ง 4 ธนาคารในประเทศไทยมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกรรมโอนเงินต้องสงสัย ตั้งแต่ปี 2542 โดยอ้างว่าเป็นข้อมูลจากเอกสารของหน่วยงานเครือข่ายปราบปรามอาชญากรรมทางการเงินแห่งสหรัฐอเมริกา (US Financial Crimes Enforcement Network หรือ FinCEN) นั้น

       นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิกให้ความสำคัญในการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติของกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด ทุกธนาคารได้มีการกำหนดนโยบายและวิธีปฏิบัติที่เป็นไปตามกฎหมายและมาตรฐานสากล ซึ่งมีกระบวนการรับลูกค้าและพิสูจน์ทราบตัวตน การตรวจสอบรายชื่อลูกค้าและรายชื่อประเทศที่ห้ามทำธุรกรรม (Sanction) มาตรการบริหารความเสี่ยง ตลอดจนการตรวจสอบการทำธุรกรรมของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการรายงานธุรกรรมที่ผิดปกติหรือที่มีเหตุอันควรสงสัย ไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)

        นอกจากนี้ สมาคมธนาคารไทยได้ให้ความสำคัญในการสร้างมาตรฐานการทำงานของระบบธนาคารตามประกาศ Industry Code of Conduct เพื่อให้ทุกธนาคารนำไปปรับใช้ ซึ่งมาตรฐานดังกล่าวรวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

      สำหรับ กรณีดังกล่าว ทางสมาคมธนาคารไทย ได้มีการประสานงานกับหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ ปปง. อย่างใกล้ชิด ในการตรวจสอบข้อมูลที่มีการอ้างถึงที่ยังไม่สามารถทราบความถูกต้องและรายละเอียดของเอกสารข้อมูลที่ชัดเจน เพียงแต่สันนิษฐานได้ว่าหากเป็นข้อมูลที่ได้จาก FinCen ก็น่าจะเป็นการรายงานธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัยของสถาบันการเงินสหรัฐอเมริกา ภายใต้กฎหมายของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นกระบวนการดำเนินงานปกติ และไม่ได้หมายความว่าธุรกรรมที่ถูกรายงานจะเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายเสมอไป ตามที่ธปท.ได้ให้รายละเอียดไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

ส.ธนาคารไทยประสานปปง.-ธปท.ปมธุรกรรมโอนเงิน ยันทุกธนาคารปฏิบัติตามเกณฑ์

       ประธานสมาคมธนาคารไทย ประสาน ธปท.-ปปง.ปมธุรกรรมโอนเงินต้องสงสัย ยันทุกธนาคารปฏิบัติตามเกณฑ์และแนวทางของ ปปง.อย่างเคร่งครัด

        นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยผ่านเอกสารเผยแพร่ ว่า ตามที่ปรากฎรายงานข่าวทางเว็บไซต์ของสมาคมผู้สื่อข่าวสืบสวนสอบสวนนานาชาติ (ICIJ) ว่า สถาบันการเงินหลายแห่งในหลายประเทศ รวมทั้ง 4 ธนาคารในประเทศไทยมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกรรมโอนเงินต้องสงสัย ตั้งแต่ปี 2542 โดยอ้างว่าเป็นข้อมูลจากเอกสารของหน่วยงานเครือข่ายปราบปรามอาชญากรรมทางการเงินแห่งสหรัฐอเมริกา (US Financial Crimes Enforcement Network หรือ FinCEN) นั้น

               สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิกให้ความสำคัญในการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติของกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด ทุกธนาคารได้มีการกำหนดนโยบายและวิธีปฏิบัติที่เป็นไปตามกฎหมายและมาตรฐานสากล ซึ่งมีกระบวนการรับลูกค้าและพิสูจน์ทราบตัวตน การตรวจสอบรายชื่อลูกค้าและรายชื่อประเทศที่ห้ามทำธุรกรรม (Sanction) มาตรการบริหารความเสี่ยง ตลอดจนการตรวจสอบการทำธุรกรรมของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการรายงานธุรกรรมที่ผิดปกติหรือที่มีเหตุอันควรสงสัย ไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)

               นอกจากนี้ สมาคมธนาคารไทยได้ให้ความสำคัญในการสร้างมาตรฐานการทำงานของระบบธนาคารตามประกาศ Industry Code of Conduct เพื่อให้ทุกธนาคารนำไปปรับใช้ ซึ่งมาตรฐานดังกล่าวรวมถึงการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

               สำหรับ กรณีดังกล่าว ทางสมาคมธนาคารไทย ได้มีการประสานงานกับหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ ปปง. อย่างใกล้ชิด ในการตรวจสอบข้อมูลที่มีการอ้างถึงที่ยังไม่สามารถทราบความถูกต้องและรายละเอียดของเอกสารข้อมูลที่ชัดเจน เพียงแต่สันนิษฐานได้ว่าหากเป็นข้อมูลที่ได้จาก FinCen ก็น่าจะเป็นการรายงานธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัยของสถาบันการเงินสหรัฐอเมริกา ภายใต้กฎหมายของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นกระบวนการดำเนินงานปกติ และไม่ได้หมายความว่าธุรกรรมที่ถูกรายงานจะเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายเสมอไป ตามที่ธปท.ได้ให้รายละเอียดไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

ธปท.ยันข้อมูล 4 แบงก์น่าสงสัยไม่ได้มาจากทางการสหรัฐฯ ขอเวลาตรวจสอบ

  ธปท. แจงเหตุ 4 แบงก์ไทย พัวพันธุรกรรมโอนเงินที่น่าสงสัย ไม่ได้มาจาก FinCEN หรือหน่วยงานทางการของสหรัฐฯ ต้องตรวจสอบอีกครั้ง  ยันสถาบันการเงินไทยมีการรายงานธุรกรรมน่าสงสัยต่อ ปปง. อย่างเคร่งครัด

   นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 1 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชี้แจงว่า จากกรณีมีข่าวสถาบันการเงินของไทย 4 แห่ง มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมการโอนเงินที่น่าสงสัย โดยใช้ข้อมูลจากรายงานธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัยที่รั่วไหลจากหน่วยงานเครือข่ายปราบปรามอาชญากรรมทางการเงินแห่งสหรัฐอเมริกา (US Financial Crimes Enforcement Network หรือ FinCEN) นั้น

   ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่สถาบันการเงินภายใต้กฎหมายของสหรัฐอเมริกามีหน้าที่ต้องรายงานธุรกรรมที่น่าสงสัยต่อ FinCEN เป็นปกติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดอยู่แล้ว และไม่ได้หมายความว่าธุรกรรมที่ถูกรายงานจะเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายเสมอไป แต่เนื่องจากข้อกล่าวหาที่เป็นข่าวอยู่นั้น ไม่ได้มาจาก FinCEN หรือหน่วยงานทางการใดๆ เรื่องนี้จึงขอให้รอการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน

     ทั้งนี้ธปท.ได้กำกับดูแลและตรวจสอบสถาบันการเงินให้มีกระบวนการป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย

   รวมถึงการสนับสนุนทางการเงินแก่การแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (AML/CPTF) ตั้งแต่ขั้นตอนการทำความรู้จักตัวตนลูกค้า (KYC/CDD) การตรวจสอบและการรายงานธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัยตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กำหนดอย่างเคร่งครัด โดย ธปท. และ ปปง. ประสานงานกันเพื่อกำกับดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด

   เมื่อสถาบันการเงินพบธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัยตามหลักเกณฑ์ที่ ปปง. กำหนด ก็มีหน้าที่ต้องรายงานต่อ ปปง. ซึ่งเรียกว่ารายงานธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัย (Suspicious Transaction Report: STR) ซึ่ง ปปง. จะนำข้อมูลดังกล่าวมาวิเคราะห์และตรวจสอบ เพื่อดูว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่

   ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าทุกธุรกรรมที่ถูกรายงานใน STR จะเป็นธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายเสมอไป จึงต้องตรวจสอบก่อนที่จะสรุปได้ว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!