หมวดหมู่: บริษัทจดทะเบียน

8393 CPF


ซีพีเอฟครึ่งปีแรกกำไร 12,139 ล้านบาท เติบโต 45%
ประกาศเงินปันผลระหว่างกาล 0.40 บาทต่อหุ้น
มั่นใจผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังดีต่อเนื่อง

          บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ “ซีพีเอฟ” รายงานกำไรสุทธิรอบระยะเวลา 6 เดือนแรกปี 2563 จำนวน 12,139 ล้านบาท เติบโต 45% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีปัจจัยหลักจากภาวะการขาดแคลนสุกรที่สืบเนื่องมาจากการระบาดของโรค ASF (African Swine Fever) ในเอเชีย และผลการดำเนินงานของธุรกิจสัตว์น้ำในประเทศไทยที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ

          ซีพีเอฟ ผู้นำในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารภายใต้วิสัยทัศน์ “ครัวของโลก” ซึ่งมีการดำเนินธุรกิจใน 17 ประเทศ และส่งออกไปมากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก รายงานรายได้จากการขาย 6 เดือนแรกของปี 2563 จำนวน 281,940 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9% โดยรายได้จากการขายของกิจการในต่างประเทศจำนวน 16 ประเทศเติบโต 12% และกิจการประเทศไทยเติบโต 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้รายได้จากการขายของกิจการต่างประเทศมีสัดส่วนอยู่ที่ 69% และรายได้จากการขายของกิจการประเทศไทยทั้งขายในประเทศและส่งออกมีสัดส่วน 31% ของรายได้จากการขายรวม

          นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร กล่าวถึงผลประกอบการที่ดีขึ้นในปีนี้ว่า ส่วนใหญ่มาจากการเติบโตของกิจการในต่างประเทศที่ซีพีเอฟได้เข้าไปลงทุนในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา โดยในช่วงปีนี้มีปัจจัยสำคัญมาจากการขาดแคลนสุกรในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม เนื่องจากการระบาดของโรค ASF โดยมองว่าภาวะขาดตลาดดังกล่าวอาจจะยังคงต่อเนื่องจากการที่ยังไม่มีวัคซีนในการป้องกันโรค และการลงทุนในการเลี้ยงสุกรมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นจากการต้องมีระบบการป้องกันทางชีวภาพและการบริหารจัดการป้องกันโรคที่เข้มงวดขึ้น

          สำหรับผลกระทบจากโรคระบาด COVID-19 ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาและกำลังซื้อที่ลดลง ธุรกิจของบริษัทได้รับผลกระทบบ้างแต่ไม่มากนัก เนื่องจากสินค้าของซีพีเอฟเป็นสินค้าจำเป็นในการยังชีพ และบริษัทได้มีการขับเคลื่อนกลุยุทธ์ด้านการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการทำงานมากขึ้น พร้อมไปกับปรับรูปแบบการทำงานและการขายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป

          นอกจากนี้ ธุรกิจสัตว์น้ำในประเทศไทยมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างมากจากประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจที่ดีขึ้น ทำให้ความสามารถในการทำกำไรปรับตัวขึ้นอย่างก้าวกระโดด

          นายประสิทธิ์กล่าวเพิ่มเติมถึงผลการดำเนินงานในครึ่งหลังปีนี้ว่า บริษัทน่าจะยังคงมีผลการดำเนินงานที่ดีต่อเนื่อง ปีนี้น่าจะเป็นปีที่มีกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากปัจจัยหลัก คือ ภาวะขาดแคลนสุกรในภูมิภาคที่ส่งผลให้ราคาตลาดอยู่ในระดับที่สูงกว่าปีก่อน และความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจสัตว์น้ำในประเทศไทยน่าจะดีขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้ง การเติบโตของธุรกิจจากการเพิ่มมูลค่าและการลงทุน นอกจากนั้น ยังคาดว่าแนวโน้มการบริโภคน่าจะปรับตัวดีขึ้นจากช่วงที่ผ่านมา

          ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2563 ได้มีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนปีนี้ ในอัตราหุ้นละ 40 สตางค์ โดยจะทำกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลในวันที่ 31 สิงหาคม 2563 (ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 28 สิงหาคม) และจะทำการจ่ายเงินปันผลในวันที่ 11 กันยายนนี้


AO8393

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

Forex Exness1

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!